posttoday

ข้ามรุ่น

02 กันยายน 2559

ภาษาไทยเป็นภาษาที่มีเสน่ห์ สามารถเล่นคำ เล่นสำนวนได้หลากหลาย คำเดียวกันในบริบทที่ต่างกัน สามารถมีความหมายต่างกันได้อย่างสิ้นเชิง

ภาษาไทยเป็นภาษาที่มีเสน่ห์ สามารถเล่นคำ เล่นสำนวนได้หลากหลาย คำเดียวกันในบริบทที่ต่างกัน สามารถมีความหมายต่างกันได้อย่างสิ้นเชิง

“ข้ามรุ่น” ก็เป็นหนึ่งในคำเหล่านั้น

ในบริบททั่วไป คำว่า “ข้ามรุ่น” มักมีความหมายในเชิงลบ สังคมไทยเป็นสังคมที่ให้ความสำคัญกับอาวุโส และลำดับขั้นทางสังคมค่อนข้างมาก คนในสังคมจะถูกจัดชั้นอย่างไม่เป็นทางการ ไม่ว่าจะเป็นฐานะ การศึกษา อายุ ระดับอาวุโส ตำแหน่ง หรือแม้กระทั่งระดับความสามารถ ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบก็ตาม สิ่งเหล่านี้มีอยู่จริงในทุกสังคม เพียงแต่ว่าจะมากจะน้อยก็เท่านั้นเอง ส่วนใหญ่มักจะเป็นคำที่คนที่มีลำดับขั้นสูงกว่ากล่าวถึงคนที่มีลำดับขั้นต่ำกว่า

การที่ใครคนหนึ่งจะถูกตราหน้าว่า “ข้ามรุ่น” จึงเป็นสิ่งที่ออกไปในทางดูถูกดูแคลน ตำหนิติเตียนซะมากกว่า เข้าทำนองว่าคุณไม่ดีพอ แต่พยายามตะเกียกตะกายไม่เข้าเรื่อง

ในเมื่อคนเราควรมองหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตนเอง หากทุกคนพอใจในสิ่งที่เป็น ในที่ที่อยู่ พัฒนาการจะเกิดขึ้นได้อย่างไร  “ข้ามรุ่น” จึงควรจะมีความหมายในเชิงบวกเสียมากกว่า เป็นการกระตุ้นให้คนทุ่มเท ต่อสู้ เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีกว่า

แต่คนทุกคนล้วนมีประวัติศาสตร์ส่วนตัว คนที่ยังไม่เคยประสบความสำเร็จจะมีความกลัว และเคลือบแคลงในตนเองว่าตัวเองดีพอหรือไม่ แย่ไปกว่านั้น คนที่เคยล้มเหลวจะมีความกลัวเป็นทวีคูณ ความเคลือบแคลงสงสัยยิ่งเกาะกุมจิตใจ เหนียวแน่นจนยากที่จะสลัดออก เพราะเคยประสบกับเหตุการณ์ว่าตนไม่ดีพอมาแล้ว

ดังนั้น การที่คนหนึ่งคนจะลุกขึ้นมาบอกว่าเขาต้องการจะ “ข้ามรุ่น” ไม่ว่าเขาคนนั้นจะไม่เคยประสบความสำเร็จ หรือเคยลองแล้วล้มเหลวมาก่อน จึงเป็นการแสดงออกถึงความกล้าขั้นสูงสุด

ใครคนนั้น...ต้องมีเป้าประสงค์ที่ชัดเจน แจ่มชัด

ใครคนนั้น...ต้องมีความต้องการอย่างแรงกล้าที่จะพิสูจน์อะไรบางอย่าง

ใครคนนั้น...ต้องมีความแน่วแน่ในจิตใจที่จะไม่หวั่นไหวต่อสิ่งต่างๆ ที่จะมาทดสอบและบั่นทอนจิตใจเขา

ใครคนนั้น...ต้องพร้อมที่จะเดินไปในทางมืด ที่ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะพบแสงสว่าง แต่เขาก็ยังคงก้าวเดินต่อไป

ใครคนนั้น...คงไม่ได้มองการเดินทางเป็นเพียงการไปให้ถึงจุดหมายแต่อย่างเดียว แต่คำนึงถึงประสบการณ์ที่จะเก็บเกี่ยว ตักตวง และพร้อมจะเติบโตไปพร้อมกับความสำเร็จและความล้มเหลวที่รออยู่ข้างหน้า

ในเมื่อมันยากซะขนาดนี้ การจะสร้างจิตวิญญาณ “ข้ามรุ่น” ให้เกิดขึ้นในตัวบุคคลและองค์กร จึงต้องลืมซึ่งตรรกะทั้งปวง และใช้อารมณ์นำ เมื่อมีอารมณ์ร่วมเกิดขึ้นแล้วเท่านั้น จึงค่อยใช้ตรรกะในการมองหาช่องทางที่เหมาะสมในการจะพิชิตชัย

อารมณ์นำ ตรรกะตาม

จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว

เท่านั้นครับ

ข่าวล่าสุด

ชายแดนไทย–กัมพูชาปะทะเดือด เกมอำนาจยืดเยื้อข้ามปีใหม่