posttoday

การรับรอง ถิ่นกำเนิดสินค้า

17 สิงหาคม 2559

ในการที่ผู้ประกอบการจะทำมาค้าขายในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ส่งสินค้าออกไปยังประเทศสมาชิกให้ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรที่เป็นศูนย์ ปราศจากข้อจำกัดในการนำเข้า สินค้าที่ส่งออกต้องมีแหล่งกำเนิดในประเทศไทย

ในการที่ผู้ประกอบการจะทำมาค้าขายในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ส่งสินค้าออกไปยังประเทศสมาชิกให้ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรที่เป็นศูนย์ ปราศจากข้อจำกัดในการนำเข้า สินค้าที่ส่งออกต้องมีแหล่งกำเนิดในประเทศไทย

ผู้ประกอบการโดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อยที่จะเริ่มหรือเพิ่งเริ่มต้นประกอบธุรกิจ จะต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับกฎว่าด้วยแหล่งกำเนิดสินค้า เพื่อผลิตและส่งออกสินค้าที่มีแหล่งกำเนิดในประเทศไทยให้ถูกต้องตามกฎว่าด้วยแหล่งกำเนิดสินค้าของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

แหล่งกำเนิดสินค้าคือการยืนยันว่าสินค้านั้นเกิดขึ้นหรือผลิตจากที่ใด ซึ่งมีผู้เปรียบเทียบแหล่งกำเนิดสินค้ากับสัญชาติของบุคคลซึ่งทำให้เห็นภาพได้ง่ายและชัดเจนขึ้นว่าแหล่งกำเนิดของสินค้าคือสัญชาติของสินค้า ทั้งที่ในความเป็นจริงตัวสินค้าไม่มีสัญชาติก็ตาม

สัญชาติของบุคคลพิจารณาจากกฎเกณฑ์ตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายสัญชาติ ซึ่งแต่ละประเทศต่างก็มีกฎหมายสัญชาติของตนเอง และอาจมีกฎเกณฑ์ที่ไม่เหมือนกัน สำหรับแหล่งกำเนิดสินค้าหรือสัญชาติของสินค้าพิจารณาจากกฎว่าด้วยแหล่งกำเนิดสินค้า (Rule of Origin : RO) ซึ่งเมื่อรวมกันเป็นกลุ่มประเทศหรือประชาคม กฎที่ใช้เป็นกฎว่าด้วยแหล่งกำเนิดสินค้าของกลุ่มประเทศหรือประชาคม ซึ่งเป็นกฎกลางที่ใช้ร่วมกัน

กฎว่าด้วยแหล่งกำเนิดสินค้าของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเป็นกฎเดียวกันกับกฎว่าด้วยแหล่งกำเนิดสินค้าของ AFTA คือสินค้าที่จะถือว่ามีแหล่งกำเนิดในประเทศสมาชิกต้องเป็นสินค้าดังต่อไปนี้ คือ

เป็นสินค้าที่ใช้วัตถุดิบภายในประเทศสมาชิกทั้งหมด (Wholly-Obtained) เช่น พืชที่ปลูกหรือสัตว์ที่เลี้ยงหรือวัตถุสิ่งของที่สกัดได้ในแผ่นดินของประเทศสมาชิก

ในกรณีที่ผลิตโดยใช้วัตถุดิบนำเข้า ต้องผ่านกระบวนการผลิตจนได้สินค้าใหม่ที่พิกัดศุลกากรระดับหกหลักเปลี่ยนไปจากพิกัดเดิมของวัตถุดิบนั้น หรือมีการใช้วัตถุดิบภายในประเทศผู้ผลิตหรือจากสมาชิกอื่นรวมกัน และรวมกับค่าแรงงานที่ใช้ในการผลิต มีมูลค่าไม่น้อยกว่าร้อยละสี่สิบของมูลค่าเอฟโอบีของสินค้าที่ส่งออก

การยืนยันรับรองว่าสินค้าที่ส่งออกเป็นสินค้าที่มีแหล่งกำเนิดหรือมีสัญชาติจากประเทศไทยถูกต้องตามกฎว่าด้วยแหล่งกำเนิดสินค้าของอาเซียนนั้น จะต้องมีหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าฟอร์มดีที่ออกโดยทางการที่มีอำนาจของไทย คือ กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ไปแสดงต่อทางการของประเทศที่นำเข้าด้วย

อย่างไรก็ตาม เพื่ออำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายสินค้าอย่างเสรีตามเจตนารมณ์ของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จึงมีการนำระบบการอนุญาตให้ผู้ทําการค้าหรือผู้ส่งออกที่ได้รับความไว้วางใจ ที่มีคุณสมบัติตามที่กําหนด สามารถรับรองถิ่นกําเนิดสินค้าได้ด้วยตนเองในใบกํากับสินค้า (Invoice) หรือในเอกสารทางการค้าอื่นๆ (กรณีไม่สามารถแสดง Invoice) แทนการใช้หนังสือรับรองถิ่นกําเนิดสินค้า Form D ในการขอรับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรตามความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียนได้

ผู้ส่งออกที่จะรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเอง จะต้องได้รับการขึ้นทะเบียนกับกรมการค้าต่างประเทศเป็นผู้ได้รับสิทธิรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเอง และมีชื่ออยู่ในฐานข้อมูลของสำนักเลขาธิการอาเซียน เมื่อได้รับการขึ้นทะเบียนแล้ว จะได้รับหมายเลขทะเบียนประจำตัวแสดงการเป็นผู้ส่งออกที่ได้รับสิทธิสำหรับแสดงไว้ที่เอกสารที่รับรอง

การรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองจะเพิ่มความสะดวก ลดเวลาและค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการเดินทางไปยื่นและขอรับหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า Form D จากกรมการค้าต่างประเทศ แต่การจะได้รับสิทธิให้รับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองจะต้องเป็นผู้ส่งออกที่เชื่อถือได้ และต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎว่าด้วยแหล่งกำเนิดสินค้าของสินค้าที่ตนเองส่งออกเป็นอย่างดี สามารถตรวจพิสูจน์ถิ่นกำเนิดสินค้าได้ก่อนการส่งออกหรือหลังการส่งออกเป็นระยะเวลา 3 ปี 

จึงควรที่ผู้ประกอบการจะต้องหาความรู้ทำความเข้าใจกับถิ่นกำเนิดสินค้าที่ตนจะส่งออก เพื่อให้ได้รับการขึ้นทะเบียนกับกรมการค้าต่างประเทศเป็นผู้ได้รับสิทธิรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเอง เพื่อประโยชน์ต่อการประกอบการของตน ซึ่งกรมการค้าต่างประเทศได้จัดอบรมสัมมนาให้ความรู้แก่ผู้ส่งออกอยู่บ่อยครั้ง สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่กรมการค้าต่างประเทศ

ข่าวล่าสุด

Yindii เปลี่ยนอาหารขายไม่หมด หมุนรายได้คืนธุรกิจ 78 ล้านบาท