posttoday

วิถีชีวิต3สมาร์ทคนไทย โอกาสตลาดสินค้าเทคโนโลยี

06 สิงหาคม 2559

วิถีชีวิตของคนไทยนับจากนี้ไปอีก 10 ปีข้างหน้าจะเริ่มเข้าสู่ 3 Smart คือสมาร์ทซิตี้ สมาร์ทไลฟ์ และสมาร์ทโฮม

โดย..รัชนีย์ ศรีวัฒนชัย

วิถีชีวิตของคนไทยนับจากนี้ไปอีก 10 ปีข้างหน้าจะเริ่มเข้าสู่ 3 Smart คือสมาร์ทซิตี้ (Smart City) สมาร์ทไลฟ์ (Smart Life) และสมาร์ทโฮม (Smart Home) ทุกอย่างจะถูกเชื่อมโยงไว้บนสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียว การใช้ชีวิตแบบสมาร์ทๆ เพียงแค่ใช้ปลายนิ้วสัมผัส ก็สามารถทำทุกสิ่งได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนในโลก

ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ นายกสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้เมืองไทยยังแค่เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างสมาร์ทซิตี้ หรือเมืองอัจฉริยะ ที่นำเทคโนโลยีเข้ามายกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น เบื้องต้นภาครัฐได้ดำเนินไปแล้วบางส่วน มีด้วยกัน 3 เมืองต้นแบบ อาทิ จ.เชียงใหม่กับภูเก็ต ถูกสร้างให้เป็นเมืองอัจฉริยะด้านการท่องเที่ยวและการลงทุน ส่วน จ.ชลบุรี ที่บางแสนถูกสร้างให้เป็นเมืองเดย์แคร์ของผู้สูงอายุ

ทั้งนี้ ยกตัวอย่างโมเดลเมืองอัจฉริยะสำหรับผู้สูงอายุ ภาครัฐได้เข้าไปติดตั้งระบบไซเรนเพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุที่อยู่บ้านคนเดียว หรือกระทั่งผู้ป่วย ที่มีรีโมทติดตัวสำหรับกดปุ่มสัญญาณ นอกจากนี้ยังพัฒนาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัวผู้สูงอายุ รวมทั้งแอพพลิเคชั่นขึ้นมารองรับโดยเฉพาะ เพื่อรองรับกับแนวโน้มประชากรผู้สูงอายุของประเทศไทยที่จะเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ราว 13-14% ของจำนวนประชากร คาดว่าภายในปี 2563 กลุ่มผู้สูงอายุจะเพิ่มสัดส่วนเป็น 20% ของประชากรทั้งหมด

นอกจากนี้ รัฐบาลยังขับเคลื่อนสร้างสมาร์ทซิตี้ ในส่วนคมนาคมได้ผลักดันอุตสาหกรรมรถยนต์ผลิตรถไฟฟ้า อนาคตไทยจะก้าวเข้าสู่รถยนต์ที่ไร้คนขับเหมือนในสิงคโปร์ก็เป็นได้ ซึ่งเบื้องต้นในขณะนี้รถเมล์ขนส่งมวลชนก็เริ่มติดระบบจีพีเอสเพื่อตรวจสอบการวิ่งของรถเมล์ไปตามเส้นทางหรือไม่ หรือกระทั่งความพยายามผลักดันให้คนไทยใช้พร้อมเพย์ การใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ชำระเงินต่างๆ แทนเงิน เชื่อว่าวิถีชีวิตของคนไทยจะค่อยๆ ปรับเข้าสู่เมืองอัจฉริยะในอีก 5-10 ปีข้างหน้า

ขณะที่ในกลุ่มของสมาร์ทไลฟ์ หรือการใช้อุปกรณ์อัจฉริยะต่างๆ เพื่อทำให้การดำเนินชีวิตง่ายและสะดวกสบาย อลงกรณ์ ชูจิตร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าแอลจี กล่าวว่า สินค้ากลุ่มสมาร์ทไลฟ์ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ เริ่มมีกลุ่มคนเมืองรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มเจเนอเรชั่นวายที่ชอบไอทีหรือนวัตกรรมใหม่ทางเทคโนโลยี โดยมีรายได้ประจำตั้งแต่ 5 หมื่นบาทขึ้นไป จะเป็นกลุ่มคนที่เริ่มเข้าสู่การใช้วิถีชีวิตในรูปแบบ “สมาร์ทไลฟ์” หรือเริ่มใช้อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะภายในบ้าน

“ไทยอยู่ในยุคของการเริ่มต้นใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะเท่านั้น โดยมีเพียงสมาร์ททีวีเป็นตัวขับเคลื่อนตลาด จากนั้นคาดว่าพฤติกรรมคนไทยเริ่มใช้เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น หรือกระทั่งเครื่องซักผ้าอัจฉริยะ และมั่นใจว่าในอีก 10 ปีข้างหน้าในครัวเรือนของประเทศไทยจะมีเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะครอบคลุมทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพราะโครงสร้างพื้นฐานระบบเครือข่ายวางหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็น 4จี หรือกระทั่ง 5จี ที่จะเกิดขึ้นในปี 2563”

ปัจจุบันเริ่มมีเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะเข้ามาทำตลาดมากมาย อาทิ หุ่นยนต์สำหรับ
ดูดฝุ่นและทำความสะอาดพื้นสามารถสั่งการทำงานแม้กระทั่งอยู่นอกบ้าน และสามารถดูการทำงานไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนของโลก ในอนาคตสินค้าดังกล่าวจะเข้ามาทดแทนเครื่องดูดฝุ่น อย่างไรก็ตามเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะยังเป็นตลาดที่มีสัดส่วนต่ำกว่า 20% ของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้ามูลค่า 7 หมื่นล้านบาท เนื่องจากสินค้ามีราคาสูงจึงทำให้การใช้งานยังไม่แพร่หลาย รวมทั้งปัญหารีโมทซึ่งยังไม่เชื่อมโยงกับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านไว้ทั้งหมด

ในส่วนของสมาร์ทโฮม แม้ว่าบ้านอัจฉริยะยังเป็นตลาดที่เล็กและจำกัดอยู่เฉพาะกลุ่มผู้ซื้อที่มีกำลังซื้อสูง เพราะด้วยมูลค่าบ้านอัจฉริยะมีมูลค่า 40 ล้านบาทขึ้นไป แต่หลายค่ายเริ่มขยับตัว มาสร้างแบรนด์ในรูปแบบดังกล่าวมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอนันดา หรือกระทั่งกลุ่มชาญอิสสระ

ธีราภรณ์ ศรีเจริญวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ กล่าวว่า ทิศทางของตลาดสมาร์ทโฮมในไทยมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เพราะพฤติกรรมของคนซื้อบ้าน ต้องการบ้านที่ทำให้คุณภาพชีวิตสะดวกสบาย และมีปลอดภัย ซึ่งบ้านอัจฉริยะในขณะนี้ผู้ประกอบการจะเน้นระบบแสงสว่าง เครื่องใช้ไฟฟ้า ระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะที่ผู้ใช้งานสามารถสั่งการทำงานได้แม้กระทั่งอยู่นอกบ้าน

สังคมไทยก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลเต็มตัว วิถีชีวิตแบบสมาร์ทๆ โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น กำลังเกิดขึ้นอย่างเต็มตัว นั่นคือโอกาสทางธุรกิจที่ไม่ควรมองข้าม

ข่าวล่าสุด

นาวิกโยธินเจ็บเหยียบกับระเบิด บ้านหนองรี หลังเคลียร์พื้นที่คืนจากกัมพูชา