posttoday

แนวโน้มคนไทย ใส่ใจอาหารคลีน

27 กรกฎาคม 2559

คลีนฟู้ด (Clean Food) หรืออาหารคลีน คืออะไร คนส่วนใหญ่เรียกกันว่า “กินคลีน” (Eat Clean Clean Eating)

โดย...กุลฉัตร ฉัตรกุล ณ อยุธยา

คลีนฟู้ด (Clean Food) หรืออาหารคลีน คืออะไร คนส่วนใหญ่เรียกกันว่า “กินคลีน” (Eat Clean Clean Eating) คือ การทานอาหารที่สด สะอาด โดยเน้นการทานอาหารแบบธรรมชาติไม่ผ่านการปรุงแต่ง ขัดสีด้วยสารเคมี หรือกระบวนการหมักดอง รวมถึงอาหารขยะและอาหารสำเร็จรูปที่มีปริมาณแป้ง ผงชูรสและโซเดียมในปริมาณสูง

อาจพูดให้เข้าใจได้ง่ายว่า การทานอาหารคลีนนั้นเป็นการกินอาหารให้ถูกหลักโภชนาการ โดยทานอาหารอย่างพอเพียงครบสัดส่วนทั้ง 5 หมู่ และอาหารที่ไม่มีสารปนเปื้อนนั่นเอง อาจจะผ่านการปรุงแต่งบ้างเล็กน้อยหรือไม่ผ่านเลยก็ได้ เช่น การใช้เกลือในการปรุงอาหารรสเพียงเล็กน้อยแทนน้ำปลา หรือซีอิ๊วขาวชนิดที่ไม่มีผงชูรสเจือปน อาหารคลีนไม่ใช้ผงชูรสในการปรุงอาหาร แต่จะใช้ผักและผลไม้ที่ปลอดสารพิษ ใช้เนื้อสัตว์ที่สดและสะอาด ใช้ข้าวกล้องไม่ขัดสี ธัญพืชต่างๆ ใช้น้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันมะกอก เพราะเป็นน้ำมันชนิดที่มีกรดไขมันชนิดดี แต่ควรใช้ในปริมาณที่น้อย ไม่ควรปรุง
อาหารคลีนให้มีรสจัดจนเกินไป ในทุกๆ มื้อควรจะมีอาหารคลีนให้ครบ 5 หมู่

การทานอาหารคลีน คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจว่า เป็นการเน้นทานอาหารจำพวกผักในปริมาณเยอะๆ แต่แท้จริงแล้วเป็นการทานอาหารให้ครบสัดส่วน 5 หมู่ โดยเน้นความหลากหลาย คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน ผักและผลไม้ ให้มีปริมาณที่พอเหมาะพอเพียงต่อความต้องการของร่างกาย โดยไม่ยึดติดกับรสชาติแต่เน้นความเป็นธรรมชาติมากกว่า

ดังนั้น ผู้ที่ทานอาหารคลีนจึงต้องเริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหารใหม่ทั้งหมด โดยค่อยๆ ปรับตัวไปเรื่อยๆ ในขั้นแรกนั้นควรเลือกทานอาหารที่คงความเป็นธรรมชาติไว้ให้มากที่สุด ผ่านการปรุงแต่งน้อยที่สุด เช่น จากเดิมเคยทานข้าวขาวก็เปลี่ยนเป็นข้าวกล้อง หรือเคยทานผลไม้กระป๋องเป็นประจำก็หันมาเลือกทานผลไม้สดแทน จากที่เคยดื่มชากาแฟก็เปลี่ยนมาดื่มน้ำเปล่าหรือน้ำผลไม้แทน เป็นต้น

นอกจากนี้เวลาจะเลือกซื้อวัตถุดิบหรืออาหาร ควรเลือกที่ปลอดสารเคมี ไม่ใช้วัตถุกันเสีย สารกันบูด วัตถุปรุงแต่ง หรืออาจเลือกซื้อวัตถุดิบที่เป็นออร์แกนิก (ปลอดสารเคมี) อีกทั้งควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีปริมาณน้ำตาลสูง เช่น น้ำอัดลม เบเกอรี่ และอาหารไขมันสูงอีกด้วย

การบริโภคอาหารคลีนเป็นกระแสสุขภาพของคนไทยมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว จากกระแสสังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) และจากความเจ็บไข้ได้ป่วยของผู้คน ต่างก็ต้องการอาหารคลีนในการบริโภคทั้งสิ้น จึงก่อให้เกิดธุรกิจการผลิตอาหารจากธรรมชาติที่ปรุงแต่งน้อย ไม่มีการใช้ผงชูรส ไม่มีการแต่งเติมเครื่องปรุงใดๆ ทำให้เกิดกระแสอาหารคลีนขึ้นเป็นจำนวนมาก แต่ทั้งนี้มักจะสวนกระแสกับความอร่อยที่ผู้คนถวิลหา

ฉะนั้นกลุ่มเป้าหมายที่แท้จริงต้องเป็นกลุ่มที่มีความตั้งใจและแน่วแน่กับสุขภาพที่ดีขึ้น ซึ่งอาจจะเกิดความเสี่ยงต่อการดำเนินธุรกิจ จะสังเกตว่าไม่มีผู้กล้าลงทุนในระยะเริ่มต้น เพียงแต่มีนัยสำคัญที่พอเป็นไปได้ว่าจะมีธุรกิจประเภทนี้มากขึ้นในเชิงบวก โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว ทั้งคนรักสวยรักงามและผู้หญิง ผู้ชายที่นิยมซิกซ์แพ็ก ซึ่งหากร่างกายจะดูดี ฟิตและเฟิร์มตามที่ผู้คนนิยมชมชอบนั้นจะต้องเริ่มต้นที่สุขภาพก่อน จึงจำเป็นต้องมีการบริโภคอาหารที่ดี สะอาด ปราศจากเคมีและการปรุงแต่ง จึงจะได้ร่างกายที่มีลักษณะสวยงาม

จะเห็นได้ว่าอาหารคลีนที่เป็นที่นิยมในปัจจุบันไม่ได้เป็นกระแสหลักแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่จะกลับกลายเป็นพฤติกรรมการบริโภคของคนรุ่นใหม่ที่จะปฏิเสธอาหารขยะ น้ำตาลและไขมันที่เป็นบ่อเกิดของโรค ควรเริ่มต้นกำจัดความเจ็บป่วยตั้งแต่ยังไม่ป่วย ปรับปรุงพฤติกรรมการบริโภคเสียตั้งแต่เยาว์วัยจะได้ไม่เป็นภาระในอนาคต

ปัจจุบันมีร้านอาหารคลีนออนไลน์เปิดขึ้นในกรุงเทพฯ จำนวนมากและขยายตัวสู่จังหวัดอื่นๆ ในเมืองใหญ่ เช่น จ.เชียงใหม่ ขอนแก่น พัทยา ภูเก็ต เพื่อตอบสนองต่อกระแสความต้องการอาหารคลีนของผู้คนในเมืองใหญ่ๆ ที่มีผู้บริโภคออนไลน์กันเป็นจำนวนมากในระยะเริ่มต้น จนปัจจุบันมีกลุ่มที่นิยมอาหารคลีน เช่น ผู้รักสวยรักงาม ชายหญิงที่ควบคุมน้ำหนัก ผู้สูงวัย ผู้ป่วยที่ต้องการอาหารดูแลพิเศษหรือพระสงฆ์ นับได้ว่าอาหารคลีนได้ก้าวข้ามความเสี่ยงต่อธุรกิจมาแล้วระดับหนึ่ง

ข่าวล่าสุด

ชี้จุด วิ่งฟรี มอเตอร์เวย์ M6 บางปะอิน - นครราชสีมา ต้องไปจุดไหน?