posttoday

"TaskUs" เติบโตแบบ Outsource ดูแลด้วยความสุข

12 กรกฎาคม 2559

รู้จัก "TaskUs" บริษัทให้บริการงานธุรการแก่บริษัทสตาร์ทอัพที่คาดว่าจะสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 80 ล้านเหรียญสหรัฐในปีนี้

โดย... www.m2fnews.com

ปัจจุบันการสร้างธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยีมามีส่วนขับเคลื่อนหรือเทคโนโลยีล้วนๆ ร้อยเปอร์เซ็นต์ เป็นเป้าหมายความฝันระดับพื้นฐานของคนหนุ่มสาวส่วนใหญ่ของยุคนี้ ที่เทคโนโลยีมีความสำคัญในการใช้ชีวิตไม่ต่างกับปัจจัย 4 ตามปกติ

ความคิดที่ว่านั้นอาจเกิดขึ้นในหัวมาตั้งแต่ต้น หรืออาจเกิดจากการตกตะกอนหลังจากผ่านเรื่องราวและประสบการณ์ทั้งของตัวเองและของคนอื่น ดังเช่นสองเพื่อนซี้ ไบรซ์ แมดด็อก และ จัสเปอร์ เวียร์ วัย 29 ปีทั้งคู่ ที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่า จากความฝันการมีธุรกิจร้านขายไอศกรีมจะมาไกลถึง TaskUs บริษัทให้บริการงานธุรการแก่บริษัทสตาร์ทอัพที่คาดว่าจะสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 80 ล้านเหรียญสหรัฐในปีนี้ รวมถึงวางแผนเข้าตลาดหลักทรัพย์ในอีก 5 ปีข้างหน้าด้วย

แมดด็อก และ เวียร์ พบกันสมัยเรียนระดับไฮสกูล และรักษามิตรภาพนั้นมาเรื่อยๆ กระทั่งคิดทำธุรกิจร่วมกัน ธุรกิจแรกๆ ที่พวกเขาเริ่มทำคือไนต์คลับ ที่ต้อนรับคนทุกวัยเข้าใช้บริการได้ที่เมืองลอสแองเจลิส ในช่วงปิดเทอมของวิทยาลัย

เมื่อเรียนจบ ไฟของผู้ประกอบการก็ยิ่งลุกโชน แมดด็อก ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งงานในบริษัทการเงินชื่อดังเพื่อมาสร้างธุรกิจกับ เวียร์ โดยหมายมั่นว่าจะเปิดบริษัทโยเกิร์ตแช่แข็งในกรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา

ทว่า ความคิดนั้นก็พังตั้งแต่ยังไม่เริ่มต้น เมื่อทั้งสองได้พูดคุยกับเพื่อนที่ทำธุรกิจร้านขายเบอร์ริโต้ในพื้นที่ที่พวกเขาสนใจจะไปทำธุรกิจว่า สถานการณ์ของตลาดไม่สวยงามอย่างไร และหากสนใจทำธุรกิจจริงๆ ทำไมไม่ลองพิจารณาทางเลือกอื่นๆ เช่น ก่อตั้งธุรกิจที่ทำกำไรเป็นเงินสหรัฐ แต่มีฐานปฏิบัติการหรือต้นทุนอยู่ในท้องถิ่นที่ค่าเงินถูกกว่า ซึ่งเป็นแนวคิดธุรกิจที่มาแรงและได้รับความนิยมอย่างมาก

สองเพื่อนซี้จึงกลับมาตั้งหลักระดมสมองกันใหม่ แต่จุดเริ่มต้นครั้งสำคัญกลับเกิดขึ้นตอนที่ แมดด็อก นึกย้อนกลับไปถึงที่ทำงานเก่าคือสถาบันการลงทุน ซึ่งเขาได้รับหน้าที่หลายอย่างซึ่งไม่เกี่ยวข้องหรือจำเป็นต้องใช้ความรู้การเงินขั้นสูงที่ร่ำเรียนมาเลย เช่น การกรอกข้อมูลทั่วไป ผนวกกับการรับฟังความเหนื่อยหน่ายของเพื่อนที่ก่อตั้งธุรกิจสตาร์ทอัพว่าไม่สามารถรักษาพนักงานระดับล่างไว้ได้ เนื่องจากคนกลุ่มนี้มีเป้าหมายเรื่องความก้าวหน้า และพร้อมจะจากไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ หลังเรียนรู้งานพื้นฐานแล้ว การจ้างพนักงานที่จัดการงานธุรการจากภายนอกหรือ Outsourcing (เอาท์ซอร์สซิ่ง) จึงน่าจะเป็นการประหยัดทรัพยากร และช่วยให้บริษัทเดินหน้าไวกว่า

ปี 2008 พวกเขาจึงนำเงินเก็บจากรายได้เมื่อครั้งทำธุรกิจไนต์คลับกว่า 25,000 เหรียญสหรัฐ มาเปิดธุรกิจรับจัดการธุรกรรมเบ็ดเตล็ดขององค์กรอื่น TaskUs ในเมืองซานตาโมนิกา รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งใช้เวลาลองผิดลองถูกอยู่ 2 ปี กว่าจะมาลงตัวที่การเน้นให้บริการธุรกิจระดับเล็กที่ไม่เน้นเติบโตมาก และสร้างฐานปฏิบัติงานอยู่ฟิลิปปินส์ ซึ่งบุคลากรมีความรู้พื้นฐาน เช่น ภาษาอังกฤษระดับดีขึ้นไป และค่าแรงไม่สูงมาก

"TaskUs" เติบโตแบบ Outsource ดูแลด้วยความสุข

การดำเนินงานของซีอีโอหนุ่มยังพยายามฉีกกฎความจำเจของงานที่เป็นงานกิจวัตรวนสลับอยู่กับที่ ด้วยการลบภาพลักษณ์ความน่าเบื่อแบบเดิมๆ เช่น ระบบคอลเซ็นเตอร์ที่ต้องรองรับอารมณ์ของลูกค้า บรรยากาศการทำงานที่หนักเยี่ยงทาส ให้เป็นการเซอร์วิสงานเล็กๆ น้อยๆ เช่น ตอบคำถามลูกค้า โฟโต้ช็อปภาพ ให้มีผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดด้วยระบบการทำงานที่ดีและหัวใจแห่งบริการของผู้ปฏิบัติงาน

โดยมีสิ่งดึงดูดใจเป็นค่าแรงที่ไม่ด้อยกว่างานประเภทอื่นๆ และนำระบบผลประโยชน์หรือสวัสดิการแบบบริษัทไอทีชั้นนำมาใช้ เช่น ฟิตเนส บริการนวดผ่อนคลาย แปลนตึกที่เปิดโล่งสร้างพื้นที่พบปะสังสรรค์กัน โรงอาหาร ค่าเล่าเรียนบุตรหลาน และการทำงานนอกสถานที่ ที่ช่วยยืดหยุ่นสไตล์การทำงานและประหยัดค่าใช้จ่ายหรือเวลาการเดินทางด้วย ซึ่งปัจจุบันเฉพาะในฟิลิปปินส์อย่างเดียว มีพนักงานที่อยู่กับองค์กรกว่า 5,000 คน

ขณะที่ TaskUs ได้รับความนิยมให้เป็นผู้จัดการงานให้กับสตาร์ทอัพมากกว่า 200 แห่ง อาทิ Groupon Tinder แต่ส่วนใหญ่เลือกที่จะไม่เปิดเผย เนื่องจากกังวลว่าลูกค้าจะไม่เชื่อมั่นหรือกลัวข้อมูลรั่วไหล

ความสำเร็จของรูปแบบธุรกิจ ส่งผลให้นักลงทุนสนใจให้เงินสนับสนุน แมดด็อก และ เวียร์ เพื่อต่อยอดธุรกิจ ซึ่งมีแผนการจะขยายสำนักงานให้บริการไปยังเอลซัลวาดอร์และโคลอมเบียเพิ่มเติม ซึ่งเป็นต้นแบบของธุรกิจให้บริการ Outsource ที่ต้องการแก้ปัญหาการเติบโตยาก สามารถนำไปประยุกต์ใช้ง่ายๆ ด้วยการยึดหลักใช้ความสุขของคนเป็นตัวตั้ง สร้างบริษัทให้มั่นคงและยั่งยืน

ข่าวล่าสุด

กนง. เปิดเกมผ่อนคลายเต็มรูปแบบ ดอกเบี้ยขาลงรับเศรษฐกิจแผ่ว จับตาลดอีกเหลือ 1.0% ต้นปี 2569