posttoday

ย้ายABFTHเข้าตลท.เดือนหน้า

10 มิถุนายน 2559

บลจ.กสิกรไทย เตรียมย้ายกอง ABFTH มาซื้อขายใน ตลท.เดือน ก.ค.นี้ หวังเพิ่มสภาพคล่อง

บลจ.กสิกรไทย เตรียมย้ายกอง ABFTH มาซื้อขายใน ตลท.เดือน ก.ค.นี้ หวังเพิ่มสภาพคล่อง

นายชัชชัย สฤษดิ์อภิรักษ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย คาดว่า เดือน ก.ค.นี้จะสามารถนำกองทุนเปิดดัชนีพันธบัตรไทยเอบีเอฟ (ABFTH) มาจดทะเบียนและซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จากปัจจุบันที่ซื้อขายอยู่ในตลาดตราสารหนี้ (BEX)

“ขณะนี้คณะกรรมการที่ปรึกษากองทุนกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาให้ย้ายการซื้อขายกองทุน ABFTH จาก BEX ไป SET เพื่อทำให้กองทุนเป็นที่รู้จักมากขึ้น ช่วยเพิ่มขนาดกองทุนและสภาพคล่องให้มีมากขึ้น นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้นักลงทุนทั่วไปรวมถึงนักลงทุนสถาบันสามารถเข้าลงทุนได้ง่ายขึ้น” นายชัชชัย กล่าว

ทั้งนี้ กองทุน ABFTH เป็นอีทีเอฟกองทุนแรกของไทยที่อ้างอิงกับดัชนีตราสารหนี้ภาครัฐ (iBoxx ABF Thailand Index) โดยลงทุนในตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาลไทย หรือออกโดยภาครัฐที่มีรัฐบาลไทยเป็นผู้ค้ำประกันหรือได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือน่าลงทุน ปัจจุบันกองทุนมีขนาดประมาณ 7,000 ล้านบาท

“จุดเด่นของกองทุน ABFTH คือ ตราสารหนี้ภาครัฐมีความเสี่ยงด้านการผิดนัดชำระหนี้ต่ำมาก และมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สูง เนื่องจากกองทุนมีอายุเฉลี่ยตราสารประมาณ 6 ปี ยาวกว่ากองทุนรวมตราสารหนี้ทั่วไป ซึ่งเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาว เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงกว่าตราสารหนี้ระยะสั้น พร้อมทั้งยังมีสภาพคล่องเนื่องจากสามารถซื้อขายผ่าน ตลท.” นายชัชชัย กล่าว

นอกจากนี้ บลจ.กสิกรไทย เตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุน ABFTH สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2558-31 พ.ค. 2559 ในอัตรา 15 บาท/หน่วย มูลค่าการจ่ายเงินปันผลรวม 86.33 ล้านบาท โดยจะจ่ายให้ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่อในสมุดทะเบียนวันที่ 31 พ.ค. 2559 และจ่ายเงินปันผลวันที่ 14 มิ.ย. 2559 มูลค่าหน่วยลงทุน ณ วันที่ 8 มิ.ย. 2559 อยู่ที่ 1,227 บาท/หน่วย

นายชัชชัย ยังกล่าวถึงสถานการณ์ตลาดตราสารหนี้ไทย ว่า ราคาพันธบัตรปรับตัวกลับขึ้นมาอีกครั้งหลังจากสหรัฐประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรในเดือน พ.ค. ซึ่งออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาด ทำให้โอกาสในการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีน้อยลงไปอีก

“ในช่วงครึ่งปีหลัง แนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐยังคงเป็นปัจจัยหลักที่กดดันตลาดตราสารหนี้ให้ผันผวนในระยะสั้น แต่ไม่ผันผวนมากเหมือนครึ่งปีแรก เนื่องจากตลาดมีการรับรู้ไปมากแล้วถึงจังหวะในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ประกอบกับสภาพคล่องในระบบที่ยังมีอยู่สูงจากมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) ของธนาคารกลางยุโรปและญี่ปุ่น ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อการลงทุนในตราสารหนี้” นายชัชชัย กล่าว

ข่าวล่าสุด

3 ชาติผนึกกำลังทลาย 'KK Park - ชเวก๊กโก' รังใหญ่ "แก๊งคอลเซ็นเตอร์"