posttoday

เทคนิคการทวงหนี้ขั้นเทพ

10 มีนาคม 2559

การทวงถามหนี้ในยุคปัจจุบันเริ่มหนักข้อขึ้นทุกวัน ถ้าท่านผู้อ่านได้ติดตามข้อมูลข่าวสารทางสื่อมวลชนจะพบว่ามีการทวงถามหนี้ในลักษณะที่ฝ่าฝืนกฎหมายอย่างชัดแจ้งเพิ่มมากขึ้น เจ้าหนี้ไม่กลัวติดคุกแต่กลัวไม่ได้เงินคืน รายละเอียดของการทวงถามหนี้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายเพื่อให้ได้เงินคืนมีดังนี้

การทวงถามหนี้ในยุคปัจจุบันเริ่มหนักข้อขึ้นทุกวัน ถ้าท่านผู้อ่านได้ติดตามข้อมูลข่าวสารทางสื่อมวลชนจะพบว่ามีการทวงถามหนี้ในลักษณะที่ฝ่าฝืนกฎหมายอย่างชัดแจ้งเพิ่มมากขึ้น เจ้าหนี้ไม่กลัวติดคุกแต่กลัวไม่ได้เงินคืน รายละเอียดของการทวงถามหนี้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายเพื่อให้ได้เงินคืนมีดังนี้

1.การข่มขู่คุกคาม หากไม่จ่ายจะเดือดร้อน โดยบุกไปถึงบ้านหรือที่ทำงาน แสดงกิริยาท่าทางหรือการใช้คำพูดเพื่อให้ลูกหนี้เกิดความกลัวและเปลี่ยนใจมาใช้หนี้

2.การประจานทางออนไลน์หรือเฟซบุ๊กหรือยูทูบ เมื่อเช้าวันที่ 9 มี.ค. 2559 ผมดูข่าวสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 มีพระเอกละครคนหนึ่งไปทวงค่าตัว 9 หมื่นบาท จากผู้ว่าจ้าง เมื่อไม่จ่ายจึงบุกไปทวงหนี้และอัดคลิปไว้ขณะทวงหนี้ และนำมาประจานบนสื่อออนไลน์ เพื่อบังคับให้ลูกหนี้ชำระหนี้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและมีบทลงโทษทั้งจำคุกและปรับ

3.หลายสมาคมชมรมไม่ว่าจะเป็นผู้ขายสินค้าหรือบริการ หรือแม้กระทั่งการค้าขนาดใหญ่ที่ปล่อยสินเชื่อก็รวมตัวกันขึ้นบัญชีดำลูกหนี้ ผู้ขายสินค้าหรือผู้ให้บริการที่เบี้ยวหนี้หรือตั้งใจโกงเพื่อบีบบังคับให้ลูกหนี้เร่งนำเงินมาชำระหนี้ มิฉะนั้นจะค้าขายกับผู้ค้ารายอื่นในสมาคมไม่ได้

จะเห็นได้ว่าเจ้าหนี้ทุกวันนี้ได้รับความเดือดร้อนจากการถูกเบี้ยวถูกโกงจากลูกหนี้ ซึ่งสาเหตุมีหลายประการ เช่น ตั้งใจโกงหรือไม่มีจ่ายเพราะภาวะเศรษฐกิจ ลูกหนี้ที่ดีผิดนัดชำระหนี้ เจ้าหนี้ก็ควรจะให้โอกาส แต่ถ้าลูกหนี้ที่คดโกงไม่จ่ายแล้วยังยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินหนี หรือที่เรียกว่าล้มบนฟูกนั้น การทวงถามหนี้ของเจ้าหนี้ต้องใช้เทคนิคพิเศษ หรือที่ผมอยากใช้คำว่าเทคนิคการทวงหนี้ขั้นเทพ ซึ่งผมเป็นนักทวงหนี้และเป็นทนายความมานาน ขอให้เทคนิคพิเศษนอกจากการทวงถามหนี้หรือการฟ้องร้องให้ลูกหนี้ชำระหนี้ทั่วไปแล้วนั้น ขอให้คำแนะนำใช้วิธีการดังต่อไปนี้ ซึ่งเป็นวิธีการที่ชอบด้วยกฎหมาย

1.การเพิกถอนการฉ้อฉล ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237 ถ้าปรากฏข้อเท็จจริงว่าลูกหนี้มีการทำนิติกรรมขึ้นมาภายหลังเกี่ยวกับทรัพย์สินและทำให้เจ้าหนี้เสียเปรียบ เช่น โอนที่ดินให้กับญาติพี่น้องหรือบุตรหรือคู่สมรส และไม่มีทรัพย์สินอื่นใดที่จะนำมาชำระหนี้เจ้าหนี้ได้ เจ้าหนี้มีสิทธิฟ้องเพิกถอนนิติกรรมดังกล่าวได้ ให้ทรัพย์สินที่โอนไปแล้วกลับมาเป็นของลูกหนี้ หลังจากนั้น
เจ้าหนี้ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาก็มีสิทธิยึดทรัพย์สินดังกล่าวมาขายทอดตลาดเพื่อชำระหนี้ได้ แต่ความยากอยู่ที่การหาพยานหลักฐานว่าลูกหนี้มีทรัพย์สินใดอยู่บ้าง และมีทรัพย์สินใดบ้างที่โอนไปให้กับบุคคลอื่นในลักษณะฉ้อฉล ตัวอย่างคดีที่ศาลฎีกาเคยมีคำพิพากษาให้เพิกถอนนิติกรรมฉ้อฉล เช่น คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3180/2540, ฎีกาที่ 802/2519, ฎีกาที่ 1910/2514, ฎีกาที่ 399/2521 และฎีกาที่ 4230/2528

ตัวบทกฎหมายอ้างอิง

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

มาตรา 237 เจ้าหนี้ชอบที่จะร้องขอให้ศาลเพิกถอนเสียได้ซึ่งนิติกรรมใดๆ อันลูกหนี้ได้กระทำลงทั้งรู้อยู่ว่าจะเป็นทางให้เจ้าหนี้เสียเปรียบ แต่ความข้อนี้ท่านมิให้ใช้บังคับ ถ้าปรากฏว่าในขณะที่ทำนิติกรรมนั้น บุคคลซึ่งเป็นผู้ได้ลาภงอกแต่การนั้นมิได้รู้เท่าถึงข้อความจริงอันเป็นทางให้เจ้าหนี้ต้องเสียเปรียบนั้นด้วย แต่หากกรณีเป็นการทำให้โดยเสน่หา ท่านว่าเพียงแต่ลูกหนี้เป็นผู้รู้ฝ่ายเดียวเท่านั้นก็พอแล้วที่จะขอเพิกถอนได้

บทบัญญัติดังกล่าวมาในวรรคก่อนนี้ ท่านมิให้ใช้บังคับแก่นิติกรรมใดอันมิได้มีวัตถุเป็นสิทธิในทรัพย์สิน

2.การใช้สิทธิเรียกร้องแทนลูกหนี้ ถ้าเจ้าหนี้ทวงหนี้ลูกหนี้ ลูกหนี้ไม่มีทรัพย์สินที่จะนำมาชำระหนี้และไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ แต่เจ้าหนี้เป็นเจ้าหนี้ของบุคคลอื่น เจ้าหนี้ขอร้องให้ลูกหนี้ทวงหนี้หรือฟ้องร้องบุคคลอื่นที่เป็นหนี้ลูกหนี้ ถ้าลูกหนี้ไม่ยอมทวงหนี้หรือไม่ยอมฟ้องร้อง ส่งผลให้เจ้าหนี้เสียประโยชน์เพราะลูกหนี้ไม่มีทรัพย์สินเพียงพอชำระหนี้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 233 ให้เจ้าหนี้ใช้สิทธิเรียกร้องของลูกหนี้ฟ้องบุคคลที่เป็นลูกหนี้ของลูกหนี้โดยตรงได้ อ้างอิงคำพิพากษาฎีกาที่ 5400/2536, ฎีกาที่ 5806/2536, ฎีกาที่ 802/2546, ฎีกาที่ 269/2534, ฎีกาที่ 291/2542 และฎีกาที่ 4546/2540 เป็นต้น

ตัวบทกฎหมายอ้างอิง

มาตรา 233 ถ้าลูกหนี้ขัดขืนไม่ยอมใช้สิทธิเรียกร้องหรือเพิกเฉยเสียไม่ใช้สิทธิเรียกร้อง เป็นเหตุให้เจ้าหนี้ต้องเสียประโยชน์ไซร้ ท่านว่าเจ้าหนี้จะใช้สิทธิเรียกร้องนั้นในนามของตนเองแทนลูกหนี้เพื่อป้องกันสิทธิของตนในมูลหนี้นั้นก็ได้ เว้นแต่ในข้อที่เป็นการของลูกหนี้ส่วนตัวโดยแท้

3.การดำเนินคดีอาญาโกงเจ้าหนี้ เป็นกรณีที่ลูกหนี้เป็นหนี้เจ้าหนี้แล้ว พอรู้ว่าเจ้าหนี้จะฟ้องศาล เช่น ได้รับโนติสจากทนายความของเจ้าหนี้หรือได้รับหมายศาลในคดีแพ่งกลัวจะถูกยึดทรัพย์ถ้าแพ้คดีจึงโอนทรัพย์สินให้บุคคลอื่น เช่น บุคคลในครอบครัว เพื่อมิให้เจ้าหนี้ของตนหรือของผู้อื่นได้รับชำระหนี้ การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดทางอาญาฐานโกงเจ้าหนี้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 350 ตัวอย่างคดีที่ศาลฎีกาเคยตัดสิน เช่น คำพิพากษาฎีกาที่ 7727/2544, ฎีกาที่ 3947/2537, ฎีกาที่ 1474/2514, ฎีกาที่ 143/2517, ฎีกาที่ 271/2522, ฎีกาที่ 1134/2537 และฎีกาที่ 1054/2507

ตัวบทกฎหมายอ้างอิง

ประมวลกฎหมายอาญา

มาตรา 350 ผู้ใดเพื่อมิให้เจ้าหนี้ของตนหรือของผู้อื่นได้รับชำระหนี้ทั้งหมดหรือแต่บางส่วน ซึ่งได้ใช้หรือจะใช้สิทธิเรียกร้องทางศาลให้ชำระหนี้ ย้ายไปเสีย ซ่อนเร้น หรือโอนไปให้แก่ผู้อื่นซึ่งทรัพย์ใดก็ดี แกล้งให้ตนเองเป็นหนี้จำนวนใดอันไม่เป็นความจริงก็ดี ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

การทวงถามหนี้ในยุคปัจจุบันต้องใช้เทคนิคพิเศษโดยเฉพาะการดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและทางอาญากับบุคคลที่ยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินเพื่อหนีหนี้ จึงจะประสบความสำเร็จได้เงินทุกบาททุกสตางค์

ข่าวล่าสุด

เปิด Top 3 ดวงขึ้นแรงสุด 12 นักษัตร นักธุรกิจ ใครปัง รับปีม้าไฟ