เฮิรตซ์ลุยรถเช่าราคาถูก
เฮิรตซ์สบช่องน้ำมันลดราคา ขยายตลาดรถเช่าระดับ 1,500 ซีซี ในชื่อ ทริฟตี้ จับกลุ่มนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ หวังส่วนแบ่งตลาดธุรกิจรถเช่า 26%
เฮิรตซ์สบช่องน้ำมันลดราคา ขยายตลาดรถเช่าระดับ 1,500 ซีซี ในชื่อ ทริฟตี้ จับกลุ่มนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ หวังส่วนแบ่งตลาดธุรกิจรถเช่า 26%
นายชาติชาย พานิชชีวะ ประธานบริหาร บริษัท พารากอน คาร์ เรนทัล เปิดเผยว่า ธุรกิจรถเช่าในต่างประเทศจะแบ่งเป็น 3 กลุ่ม แต่ของไทยจะมีแค่ตลาดพรีเมียมกับตลาดล่าง ซึ่งเฮิรตซ์ให้บริการในตลาดพรีเมียมและมีส่วนแบ่งตลาดที่ 22% ดังนั้นจึงขยายตลาดระดับล่างเพิ่ม เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาด จากปัจจุบันธุรกิจรถเช่าชั้นนำที่ลูกค้ารู้จักอย่าง AVIS, Budget, Hertz, Sixt ยังมีส่วนแบ่งตลาดไม่ห่างกันมาก
“บริษัทมั่นใจว่าการขยายธุรกิจรถเช่านี้ จะไม่กินส่วนแบ่งตลาดกันเอง แต่จะช่วยให้แย่งส่วนแบ่งตลาดจากรายอื่นได้มากขึ้น โดยเบอร์ 1 ในตลาดมีส่วนแบ่งที่ 25% ทั้งที่เปิดให้บริการมานานกว่าเรา ดังนั้นการที่เราดำเนินธุรกิจมาเพียง 11 ปีในไทย สามารถมีส่วนแบ่งตลาดที่ 22% แล้ว เชื่อว่าหลังขยายธุรกิจเพิ่มจะช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ จึงตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งตลาดเป็น 26%” นายชาติชาย กล่าว
นอกจากนี้ ยังมุ่งเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวและรถทดแทนมากขึ้น เพราะสัดส่วนลูกค้าไทยอยู่ที่ 40% และลูกค้าต่างชาติ 60% ถือว่าเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกันมาก โดยลูกค้าต่างชาติที่คุ้นเคยกับแบรนด์เฮิรตซ์และทริฟตี้จะเลือกใช้บริการของเราก่อน การเข้ามาจับตลาดระดับล่างจะเพิ่มโอกาสให้ธุรกิจและลูกค้าไทยได้รู้จักมากขึ้น
ด้าน นายศิริวัฒน์ ไหลสืบศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พารากอน คาร์ เรนทัล กล่าวว่า จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาไทยในปีที่ผ่านมามีกว่า 30 ล้านคน และในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 6% ซึ่งบริษัทคาดว่าจะเป็นโอกาสของธุรกิจรถเช่าราคาระดับล่าง ทั้งยังได้ทุ่มงบกว่า 10 ล้านบาท ในการทำตลาดออนไลน์และออฟไลน์ให้มากขึ้น
“นอกจากสื่อประชาสัมพันธ์แบบเดิม บริษัทจะมุ่งเน้นการทำตลาดออนไลน์ให้มากขึ้น เพื่อให้แบรนด์ของเราเป็นที่รู้จักสำหรับลูกค้ารุ่นใหม่และนักท่องเที่ยวต่างชาติ จากเดิมที่ไม่ค่อยออกสื่อประชาสัมพันธ์ เพราะในช่วงแรกธุรกิจนี้ไม่ได้มีรายได้มากนัก แต่ด้วยปัจจัยเรื่องราคาน้ำมันที่ถูกลง ค่าเช่าไม่แพง และศูนย์ให้ความช่วยเหลือครอบคลุม ลูกค้าจึงเชื่อมั่นและใช้บริการมากขึ้น” นายศิริวัฒน์ กล่าว
ทั้งนี้ การเป็นผู้ให้บริการที่ถูกกฎหมายด้วยแบรนด์อินเตอร์เนชั่นแนลแต่ทีมบริหารเป็นคนไทย จะช่วยให้เข้าถึงลูกค้าได้ง่ายและให้ข้อมูลในการเลือกใช้งานที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า ด้วยคู่ค้าที่มีจำนวนมากและหลากหลายทำให้ปริมาณรถมีเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า
ปัจจุบัน ทริฟตี้เปิดให้บริการแล้ว 2 สาขา คือ สาทรและพัทยา ภายใต้คอนเซ็ปต์ดูอัลแบรนด์ (Dual Brand) มีรถให้บริการกว่า 200 คัน และภายในปีนี้จะเปิดเพิ่มอีก 7 สาขาภายในสนามบินหลัก จึงทำให้เข้าถึงลูกค้าได้ดีกว่า ขณะที่การขยายธุรกิจมาจับตลาดระดับล่างนั้น จะช่วยลดปัญหารถเช่าเถื่อนตามสนามบินที่เป็นเมืองท่องเที่ยวหลักและไม่มีหลักประกัน ที่อาจกระทบเรื่องความน่าเชื่อถือต่อการให้บริการรถเช่าที่ถูกกฎหมาย
“เนื่องจากรถเช่าใช้ป้ายทะเบียนสีขาวเหมือนรถส่วนบุคคลทั่วไปที่ไม่ได้มีป้ายทะเบียนแยกต่างหาก ทำให้มีผู้ลักลอบให้บริการรถเช่า เมื่อเกิดปัญหาขึ้นมาลูกค้าต้องยอมจ่ายตามเงื่อนไขและร้องเรียนไม่ได้ ดังนั้นการเข้ามาทำตลาดตรงนี้น่าจะลดปัญหาเรื่องรถเถื่อนได้ เพราะบริษัทที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายย่อมมีมาตรฐานและคิดราคาที่เหมาะสม เมื่อเกิดปัญหาก็พร้อมแก้ไขได้” นายชาติชาย กล่าว


