ข้อคิด ชีวิตเราๆ ท่านๆ วันนี้มุ่งแต่เรื่องเงินเพื่อความสุขเท่านั้นหรือ
ผมได้มีโอกาสสนทนากับผู้นำครอบครัวที่เป็นระดับมืออาชีพที่กระโดดออกมาวาดลวดลายทางธุรกิจของตนเอง ทั้งนี้ก็ด้วยความเชื่อที่ว่า งานคือเงิน เงินคืองาน เงินที่ได้จากการงานจะบันดาลสุขให้กับตัวเอง ภรรยา ลูก ครอบครัว จริงๆ แล้วมันใช่หรือ และการใช้ชีวิตแบบเป็นหนี้มาก โดยเอาหนี้นั้นมาจัดหาข้าวของ อำนวยความสะดวกให้กับตน ให้กับครอบครัวของตนเอง ดังคำของผู้นำทางศาสนารูปหนึ่งได้กล่าวไว้ว่า มนุษย์เป็นสัตว์ที่ทำอะไรแปลก กล่าวคือ ทำงานเยอะ ทำงานมาก ทำงานหนัก เพื่อเป้าหมายความสุข และความสุขจะได้มาก็ต่อเมื่อมีเงินเยอะ มีเงินมาก แต่พอร่างกาย สติปัญญาถดถอย โรคภัยเข้ามาหา เราก็เอาเงินที่เราทุ่มเทและหามาได้มาดูแลสุขภาพของตนเอง วนเวียนกันอยู่อย่างนี้
ผมได้มีโอกาสสนทนากับผู้นำครอบครัวที่เป็นระดับมืออาชีพที่กระโดดออกมาวาดลวดลายทางธุรกิจของตนเอง ทั้งนี้ก็ด้วยความเชื่อที่ว่า งานคือเงิน เงินคืองาน เงินที่ได้จากการงานจะบันดาลสุขให้กับตัวเอง ภรรยา ลูก ครอบครัว จริงๆ แล้วมันใช่หรือ และการใช้ชีวิตแบบเป็นหนี้มาก โดยเอาหนี้นั้นมาจัดหาข้าวของ อำนวยความสะดวกให้กับตน ให้กับครอบครัวของตนเอง ดังคำของผู้นำทางศาสนารูปหนึ่งได้กล่าวไว้ว่า มนุษย์เป็นสัตว์ที่ทำอะไรแปลก กล่าวคือ ทำงานเยอะ ทำงานมาก ทำงานหนัก เพื่อเป้าหมายความสุข และความสุขจะได้มาก็ต่อเมื่อมีเงินเยอะ มีเงินมาก แต่พอร่างกาย สติปัญญาถดถอย โรคภัยเข้ามาหา เราก็เอาเงินที่เราทุ่มเทและหามาได้มาดูแลสุขภาพของตนเอง วนเวียนกันอยู่อย่างนี้
ในบรรดาหลายๆ ครอบครัวที่ตั้งเป้าไว้ว่าจะต้องร่ำรวยให้ได้ สักครั้งในช่วงชีวิตนี้ ผู้นำครอบครัวจะตั้งความฝันไว้ว่าในอนาคตตนเองจะต้องมีเงินเยอะๆ หากมีเงินเยอะแยะมากมายเท่ากับว่ามีความสุขมากๆ ดังนั้น การละทิ้งการเอาใจใส่ดูแลลูกและภรรยา คนใกล้ชิด มิตรสหาย ตั้งหน้าตั้งตา ทุ่มเทแต่กับธุรกิจที่ตนเองวาดหวังและลงทุนไว้ แม้ว่าลูก เมีย ญาติสนิทมิตรสหาย ขอให้เพลาๆ ลงมาบ้างก็ไม่ยอม ใครต่อใครบอกให้พักก็ไม่สนใจ
ละทิ้งคนใกล้ตัว ผมหมายถึงละทิ้งการดูแลจิตใจของคู่สมรสมุ่งหาเงิน หาเงิน และก็หาเงินเพื่อเอาจำนวนตัวเลขที่ได้รับ (คิดเตลิดเป็นว่ามันคือความสำเร็จ) มาเป็นตัวตั้ง
ทีนี้พอเศรษฐกิจมันไม่ดีอย่างที่คิด ค้าขายไม่ได้อย่างที่หวัง คู่แข่งเข้ามาใหม่มากหน้าหลายตา รสนิยมของคนซื้อเปลี่ยนไป ของที่เราทำออกขายไม่ได้ มันก็เจ๊ง ไม่มีเงินไปคืนเงินที่กู้เจ้าหนี้เขามา ความเครียดก็เกิด เกิดแล้วก็สะสม ที่สุดคือคนในครอบครัวทะเลาะกัน
คุยกันไม่รู้เรื่อง หายนะของเรื่องคือการแยกทางเดิน แบ่งทรัพย์สิน ครอบครัวล่มสลาย ต้องขายทรัพย์สินเพื่อนำเงินไปชำระหนี้
สมการชีวิตที่กำหนดไว้ว่า ความสำเร็จที่สังคมยอมรับ = เงินเยอะ = จะมีความสุขเยอะ = นำไปเสนอ นำไปอวดอ้างกับสังคม = การยอมรับของสังคมว่าเราเป็นคนรวย เด่น ดัง นี่คือหลุมดำ นี่คือหลักคิดที่ไม่ถูกต้อง นี่คือฐานคิดที่ผิด นี่คือตรรกะที่ไม่ควรจะไปใช้ในการดำเนินชีวิตที่เต็มไปด้วยสิ่งเร้า สิ่งของอันเกินความจำเป็น ที่ถูกคือควรลด ละ เลิก ครับ ถ้าเราไม่รู้จักพอ ไม่รู้จักว่าอะไรเป็นสิ่งที่มีแล้วเราพอเพียงแล้วละก็ จุดที่เรารู้สึกว่าตัวเองมีความสุข ความสุขนั้นก็จะวิ่งห่างออกไปเรื่อยๆ พอเราวิ่งตาม
ใกล้ไปถึงจุดนั้น ใกล้จะเอื้อมมือคว้ามาได้
ก็จะพบว่า สุขที่ตามหา สุขที่มาจากการมีเงินเยอะๆ นั้นไม่ใช่สุขแท้จริง...ดังที่ผมได้ข้อคิดจากการสนทนากับมืออาชีพข้างต้น ที่ตอนนี้ต้องอยู่คนเดียว อยู่กับความจริง ความจริงที่ว่า
“สุขที่เคยมีอยู่ แต่ไม่ให้ค่ามันได้ หายไปแล้ว สุขนั้นคือสุขที่ได้อยู่กับครอบครัวอันเป็นที่รัก”
ในภาวะที่เศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอนสูง การไปยึดมั่นเอาความสุข ความสำเร็จต้องมาจาก จำนวนเงินที่ตนเองหามาได้เป็นเกณฑ์
ผมคิดว่า ท่านที่เอาเงินเป็นตัวตั้งนั้นคิดผิดอย่างมาก ชีวิตเราๆ ท่านๆ วันนี้มุ่งแต่เรื่องเงินเพื่อความสุขเท่านั้นหรือ มันใช่หรือไม่ ผมนั่งมอง ยืนมอง ในทุกวันจันทร์ของการทำงานและในทุกวันศุกร์ (ที่ใครๆ มักจะส่งไลน์หากันว่าเป็นวันสุขแห่งชาติ) จะเห็นและสัมผัสได้ถึงความเครียดสะสม ต้องทำงานเพื่อหาเงิน หาเงินมาใช้ มากิน มาซื้อของ มาช็อปปิ้ง มาผ่อนข้าวของ มา...สารพัด จำเป็นบ้าง ไม่จำเป็นบ้าง จะขาดจะเกินจะพอดีกับฐานานุรูปของตนเองหรือไม่
ผมมีคำแนะนำเสนอให้ลองพิจารณาเพื่อใช้เป็นแนวทางบริหารชีวิตและเศรษฐกิจของเราๆ ท่านๆ ไว้ดังนี้
1.กำหนดสมการชีวิตเสียใหม่เป็นว่า เมื่อมีรายได้ให้หักเป็นเงินออมเงินเก็บส่วนหนึ่งทันที เงินที่เหลือก็ให้คิดว่าเราเป็นคนร่ำรวยเท่าที่เหลืออยู่
2.กินอยู่แบบไม่ปรุงแต่ง ทำอะไรให้คิด คิดก่อนพูด คิดก่อนโพสต์ข้อความ คิดก่อน Like คิดก่อนจะ Share อะไรออกไป คิดถึงใจเขาใจเรา คิดว่าจะออมอย่างไร คิดก่อนใช้ คิดก่อนจ่าย คิดก่อนกู้ คิดก่อนจะทำอะไรทุกครั้ง ดังคำโบราณว่า ชีวิตนั้นจะมั่นคงได้นั้นต้องยึดถือแนวทางในการบริหารเงิน “ฝากออมสิน ฝังดินไว้ ใช้หนี้เก่า ให้เขากู้ ทิ้งสู่เหว” ท่านผู้อ่านลองค้นหาคติที่อยู่ในประโยคที่ผมเสนอนี้นะครับ มันมีปรัชญาซ่อนอยู่ครับ...
เครดิต-คุณทองเนื้อเก้า Pantip
#อยากให้คุณมีความสุขในทุกๆ วัน


