posttoday

เซ็นทรัลทุ่ม 3.9 หมื่นล้านขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ

02 มีนาคม 2559

เซ็นทรัลประกาศเทงบ 3.9 หมื่นล้านบาท สยายปีกธุรกิจในเครือทั้งในและต่างประเทศ หวังสิ้นปีมีรายได้แตะ 3.37 แสนล้านบาท เติบโต 18% สวนกระแสเศรษฐกิจชะลอตัว

เซ็นทรัลประกาศเทงบ 3.9 หมื่นล้านบาท สยายปีกธุรกิจในเครือทั้งในและต่างประเทศ หวังสิ้นปีมีรายได้แตะ 3.37 แสนล้านบาท เติบโต 18% สวนกระแสเศรษฐกิจชะลอตัว

นายทศ  จิราธิวัฒน์  ประธานกรรมการบริหารบริษัท กลุ่มเซ็นทรัล เปิดเผยว่า  แผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้บริษัทมีแผนที่จะใช้งบประมาณ 3.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นงบลงทุนที่ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา เพื่อใช้ในการลงทุนขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยในส่วนของการลงทุนภายในประเทศหากเป็นศูนย์การค้าใหม่ปีนี้จะมีด้วยการ 2 แห่ง คือ  เปิดศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา นครศรีธรรมราช  และการเปิดให้บริการศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา (โคราช) ส่วนอีก 1 โครงการที่กำลังก่อสร้างในปีนี้และคาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2560 คือ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต เฟส 2

สำหรับในส่วนของห้างสรรพสินค้าปีนี้จะมีการเปิดให้บริการห้างสรรพสินค้าโรบินสัน  2 สาขา คือ  โรบินสัน สาขา นครศรีธรรมราช 2 ซึ่งตั้งอยู่ใน ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา นครศรีธรรมราช  และอีก1 สาขาในคอนเซ็ปต์ ไลฟ์สไตล์ มอลล์  คือ  โรบินสัน ไลฟ์สไตล์  เซ็นเตอร์ ลพบุรี ภายใต้คอนเซ็ปต์ EAT SHOP PLAY ซึ่งเป็นสาขาแรก ที่นำแผงโซล่าเซลล์มาใช้  เพื่อใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการลดปริมาณการใช้กระแสไฟฟ้า

ขณะที่ธุรกิจโรงแรมมีแผนที่จะเปิดตัว 5 แห่ง คือ เซ็นทรา มาริส รีสอร์ท จอมเทียน ,โรงแรมเซ็นทารา อเวนิว โฮเท็ล พัทยา  , เซ็นทรา Phu Pano รีสอร์ท  โรงแรมโคซี่ และโรงแรม ปาร์ค ไฮแอท กรุงเทพ นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัวคอนเวนชั่น คุ้มคำ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ ที่จังหวัดเชียงใหม่  ส่วนธุรกิจร้านค้าร้านอาหารอย่าง กลุ่มเซ็นทรัล เรสเตอรองส์ กรุ๊ป, กลุ่มเซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป, เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์, ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์  ซูเปอร์สโตร์, ท็อปส์ เดลี่, แฟมิลี่มาร์ท, โคโมโนยะ , มัทสึโมโตะ คิโยชิ, ซูเปอร์สปอร์ต, ออฟฟิศเมท, บีทูเอส, เพาเวอร์บาย, ไทวัสดุ ปีนี้มีแผนที่จะเปิดให้บริการทั้งหมด 420 สาขา ทั่วประเทศ

นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายธุรกิจเข้าไปในส่วนของอสังหาริมทรัพย์ ด้วยการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ “เอสเซ็นท์” 3 แห่ง คือ เอสเซ็นท์ เชียงใหม่ จำนวน 400 ยูนิต ,เอสเซ็นท์ ระยอง จำนวน 419 ยูนิต และเอสเซ็นท์ ขอนแก่น จำนวน 408 ยูนิต

ด้านการลงทุนในต่างประเทศยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องเช่นกันทั้งในส่วนของธุรกิจค้าปลีกและธุรกิจโรงแรม โดยในปีนี้จะเน้นการลงทุนไปในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ตูรกี และดูไบ หลังจากก่อนหน้านี้ได้ใช้งบลงทุนไปจำนวนมากกับการลงทุนค้าปลีกในกลุ่มประเทศยุโรป  โดยตลอดระยะเวลา 5 ปีที่เข้าไปลงทุนในยุโรปคิดเป็นมูลค่า 4.08 หมื่นล้านบาท และในอีก 5 ปีนับจากนี้คาดว่าจะใช้งบลงทุนอีกประมาณ 1.04 หมื่นล้านบาท

นายทศ กล่าวว่า หลังจากเดินหน้าขยายธุรกิจทั้งประเทศและต่างประเทศต่อเนื่องคาดว่าสิ้นปีจะมีรายได้อยู่ที่ 337,040 ล้านบาท  เติบโต 18.9% จากปี 2558  ที่มีรายได้อยู่ที่ประมาณ  283,450 ล้านบาท ถือเป็นการเติบโตส่วนกระแสภาพรวมเศรษฐกิจที่ชะลอตัว