posttoday

SET ยังเคลื่อนไหวในกรอบ แนะ “Selective Buy” ชู KTB และ GPSC

30 เมษายน 2567

SET ยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ ภาพรวมตลาดยังขาดปัจจัยหนุน จับตาประชุมเฟด กลยุทธ์การลงทุน “Selective Buy” แนะนำ KTB และ GPSC

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) ประเมินว่า SET ยังอยู่ในกรอบ โดยกรอบบนถูกจำกัดที่แนวต้าน 1,365-1,370 จุด ขณะที่กรอบล่างมีแนวรับที่ 1,355 จุด หากต่ำกว่า จะเห็นการเคลื่อนไหวในแดนลบมากขึ้น และมีแนวรับถัดไป ที่ 1,350 จุด ด้านภาพรวมตลาดยังขาดปัจจัยหนุน และตัวเลขส่งออก มี.ค. ที่หดตัวมาก กดดันเป้าเติบโตเศรษฐกิจปีนี้ ประเด็นสำคัญ ติดตามประชุมเฟด

ทั้งนี้ ช่วงสั้นมองตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในภาวะเปราะบางตามตลาดหุ้นโลก จากความกังวลสถานการณ์ ตึงเครียดในตะวันออกกลาง และเฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยล่าช้ากว่าที่ตลาดคาดไว้เดิม โดยสัปดาห์นี้คาดอัตราการว่างงานของสหรัฐจะทรงตัว และการ ประชุมของเฟดจะยังมีมติคงดอกเบี้ยนโยบาย ขณะที่การเข้าสู่ฤดูกาลประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/2567 ของหุ้นกลุ่ม Real Sector คาดจะมีอัตราการเติบโตต่ำ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ "Selective Buy" ใน 3 ธีมหลัก ดังนี้

1) หุ้นเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 1/2567 ซึ่งคาดจะมีการเติบโตที่ดี YoY และจะประกาศในช่วง สองสัปดาห์หน้า เลือก HMPRO TRUE GFPT KCE TOP ขณะที่แนะนำระมัดระวังการลงทุนในหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า ซึ่งมีความเสี่ยงค่าเงินบาทอ่อนจะกดดันผลประกอบการไตรมาส 1/2567

2) นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ แนะนำหุ้นปลอดภัย (Defensive Stock) ซึ่งพื้นฐานแข็งแกร่ง ผลประกอบการไม่ผันผวนตามเศรษฐกิจ เลือก หุ้นการแพทย์ (BDMS BCH) หุ้นขนส่งทางบก (BEM) หุ้นค้าปลีก (CPALL CPAXT) หุ้นสื่อสาร (ADVANC) หุ้นอสังหาฯ ปันผลดี (AP)

3) หุ้นที่สามารถเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง (Hedging) จากกรณีความไม่สงบในตะวันออกกลาง ซึ่งยังมีความไม่แน่นอนสูง 

โดยนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง เลือกหุ้นน้ำมัน ยืนต้นอย่าง PTTEP ซึ่งคาดจะได้ประโยชน์โดยตรงจากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น และหุ้นโรงกลั่นจะได้ผลบวกผ่านกำไรสต๊อกที่เพิ่มขึ้นเชิงพื้นฐานชอบ BCP 

(ทั้งนี้ หากสถานการณ์ลุกลามไปสู่การสู้รบอย่างเต็มรูปแบบอาจหนุนราคาน้พมันเกิน 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในระยะสั้น เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่ออุปทานของอิหร่านที่คิดเป็น 3-4% ของอุปทานโลก และในกรณีเลวร้ายกระทบการส่งออกน้ำมันผ่านช่องแคบ Hormuz อาจกระทบการส่งออกได้สูงสุดถึงกว่า 17% ของอุปทานโลก) 

ขณะที่มองลบต่อกลุ่มค้าปลีกน้ำมัน (ค่าการตลาดแคบ) และกลุ่มสายการบิน (ต้นทุนเพิ่ม)

สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ KTB มองมี Upside จาก NIM (โอกาสที่จะคงดอกเบี้ยนโยบาย) และ Credit cost (จากการลดความเสี่ยงพอร์ตสินเชื่อ) และแนวโน้มที่จะเพิ่มอัตราการจ่ายเงินปันผล ปัจจุบัน Valuation ถูก ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลดี มีความเสี่ยงคุณภาพสินทรัพย์ต่ำ และกำไรมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องจาก credit cost ที่ลดลง

GPSC ช่วงสั้นมองได้ Sentiment บวกจากราคาก๊าซในยุโรป และ Bond Yield ของสหรัฐที่ปรับตัวลง ขณะที่เชื่อว่าปีที่เลวร้ายที่สุดสำหรับ GPSC ได้ผ่านพ้นไป แล้ว โดยแรงกดดันที่ลดน้อยลงจากต้นทุนพลังงานและกำไรที่ดีขึ้นจาก โรงไฟฟ้าทั่วไป จะหนุนให้ปี 2567 กำไรปกติจะเติบโตแข็งแกร่ง 49%YoY