posttoday

เงินกู้รายใหญ่คึก

29 กรกฎาคม 2553

แบงก์เด้งรับกำลังผลิตจ่อ80% ลงขันปล่อยโรงไฟฟ้า5พันล้าน

โพสต์ทูเดย์ ธนาคารประสานเสียงลงทุนระยะยาวฟื้น หลังกำลังการผลิตทะลุ 70% เล็งปล่อยกลุ่มสื่อสาร พลังงาน และเกษตร

นายชาญศักดิ์ เฟื่องฟู รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า การลงทุนระยะยาวขณะนี้มีสัญญาณดีขึ้น โดยอัตรากำลังการผลิตของผู้ประกอบการไตรมาส 2 เพิ่มจาก 60% มาอยู่ที่ 70% และมีโอกาสพุ่งไปถึง 80% ซึ่งจะต้องเริ่มขยายการลงทุนใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มส่งออกยังไปได้ดีทุกกลุ่ม เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์และกลุ่มเกษตร แม้ลูกค้าเหล่านี้จะใช้เงินทุนหมุนเวียนเป็นหลักแต่ก็เริ่มเห็นสัญญาณเงินกู้ระยะยาวจากกำลังการผลิตที่ขยับขึ้น

นายวศิน วณิชย์วรนันต์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า การลงทุนครึ่งปีหลังมีสัญญาณที่ดี โดยจะเริ่มเห็นการลงทุนสินเชื่อโครงการ (โปรเจกต์ไฟแนนซ์) เพิ่มขึ้น ทั้งในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มสื่อสาร กลุ่มพลังงาน และกลุ่มเกษตร เป็นรูปแบบการปล่อยกู้ร่วมระหว่างธนาคาร

สำหรับที่ผ่านมาธนาคารกสิกรไทยเพิ่งปล่อยกู้ให้บริษัทสื่อสารแห่งหนึ่ง 1.2 หมื่นล้านบาท บริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ และโรงแรมในภาคใต้กว่า 1,000 ล้านบาท น่าจะทำให้ฐานสินเชื่อคงค้างลูกค้ารายใหญ่อยู่ที่ 2.93 แสนล้านบาท สิ้นปีนี้

นายนพเดช กรรณสูต ผู้อำนวยการฝ่าย ผู้บริหารความสัมพันธ์ลูกค้าสหบรรษัท ฝ่ายสหบรรษัทธนกิจ สายงานบรรษัทธุรกิจ ธนาคารกสิกร ไทย กล่าวว่า ธนาคารได้ปล่อยกู้ร่วมโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 73 เมกะวัตต์ ของบริษัท พัฒนาพลังงานธรรมชาติ หรือเอ็นอีดี ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ จ.ลพบุรี มูลค่า 8,000 ล้านบาท กู้เงินจากสถาบันการเงิน 70% หรือเป็นเม็ดเงิน 5,125 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินกู้จากธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) 1,742 ล้านบาท ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกรุงเทพ แห่งละ 1,127 ล้านบาท

นายนพเดช กล่าวว่า ธนาคารเน้นปล่อยกู้อุตสาหกรรมพลังงานเนื่องจากมีความถนัด โดยตั้งแต่ต้นปีปล่อยกู้กลุ่มพลังงานไปแล้ว 5,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 5% ของฐานสินเชื่อรวม และจากนี้ถึง ปลายปีมีแผนปล่อยกู้กลุ่มพลังงานอีก 1,0001,500 ล้านบาท เช่น โครงการพลังงานลมของราชบุรีโฮลดิ้ง ที่ลงทุนใน จ.เพชรบูรณ์ จากมูลค่าตลาดรวมกลุ่มพลังงานที่มีอยู่ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งหากทำได้ตามแผนจะทำให้สัดส่วนสินเชื่อกลุ่มพลังงานของธนาคารเพิ่มเป็น 10% ของฐานสินเชื่อรวม

อย่างไรก็ดีปัจจุบันธนาคารมีส่วนแบ่งทางการตลาดปล่อยกู้กลุ่มพลังงาน 10% แต่มีเป้าหมายระยะยาวเพิ่มเป็น 30%

โครงการแบ่งเป็น 3 เฟส มูลค่าการลงทุนเฟสละ 6,0009,000 ล้านบาท โดยธนาคารได้เข้าไปเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เหลือเพียงจัดหาแหล่งเงินกู้ ซึ่งจะเป็นการปล่อยกู้ร่วม

NED เปิดตัว ลพบุรี โซล่าร์ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ใหญ่ที่สุดในโลกเตรียมขยายการลงทุนเพิ่มเป็น 84 เมกะวัตต์ ฉลองปีมหามงคล

เอ็นอีดี ประกาศเปิดตัว ลพบุรี โซล่าร์ต้นแบบโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ด้วยกำลังการผลิตขนาด 73 เมกะวัตต์ ผนึกกำลังกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ ทั้ง ADB, KBank, SCB, BBL และชาร์ป คอร์ปอเรชั่น เตรียมก่อสร้างเดือนสิงหาคมนี้ และเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ปลายปี 2554 พร้อมเดินหน้าขยายการลงทุนเพิ่มอีก 11 เมกะวัตต์ รวมเป็น 84 เมกะวัตต์ เพื่อร่วมฉลองปีมหามงคลของประเทศไทยและคนไทยในปีหน้า

นายวินิจ แตงน้อย ประธานกรรมการ บริษัท พัฒนาพลังงานธรรมชาติ หรือเอ็นอีดี กล่าวว่า โครงการ ลพบุรี โซลาร์ตั้งอยู่ที่ ต.วังเพลิง อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี มูลค่า 8,000 ล้านบาท ขณะนี้บริษัทพร้อมเริ่มก่อสร้างโครงการแล้ว โดยมีกำหนดเริ่มงานในเดือน ส.ค.นี้ และเตรียมเดินหน้าโครงการขยายการลงทุนเพิ่มอีกประมาณ 1,200 ล้านบาท เพื่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดกำลังการผลิต 11 เมกะวัตต์ ในพื้นที่เดียวกับโครงการเฟสแรก จะทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตรวม 84 เมกะวัตต์ เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในปีมหามงคลแห่งการบรมราชาภิเษกปีที่ 60 และเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา ในปี 2554

ทั้งนี้ โครงการขยายการลงทุนของบริษัทฯ ได้รับหนังสือสนับสนุนการดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จากองค์การบริหารส่วนตำบลวังเพลิง และองค์การบริหารส่วนตำบลเขาแหลม รวมทั้งได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ภายใต้โครงการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (VSPP) เรียบร้อยแล้ว และได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) แล้วด้วย ซึ่งคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ภายในปีหน้า

นายวินิจ กล่าวเพิ่มเติมว่า เอ็นอีดีได้ลงนามในสัญญาจัดซื้อแผงโซล่าร์ แบบทินฟิล์ม จำนวนกว่า 540,000 แผง กับชาร์ป คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นผู้ผลิตแผงโซล่าร์ระดับโลก และลงนามในสัญญาก่อสร้างกับ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท อิตัลไทยเอ็นจิเนียร์ริ่ง จำกัด ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2554

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนในการพัฒนาและตั้งศูนย์นวัตถกรรมพลังงานทดแทนขึ้นในพื้นที่โครงการ โดยเน้นพลังงานแสงอาทิตย์เป็นหลัก เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ และเป็นจุดท่องเที่ยวของจังหวัดลพบุรี ร่วมกับเขื่อนป่าศักดิ์ชลสิทธิ์และทุ่งดอกทานตะวัน ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดในปัจจุบันด้วย โดยบริษัทฯ เล็งเห็นว่าการดำเนินงานในส่วนนี้จะช่วยให้ชุมชนและพื้นที่รอบข้างมีรายได้เพิ่มเติมจากการเยี่ยมชมของนักท่องเที่ยวและผู้มาศึกษาดูงานโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์

สานฝันโครงการพลังงานทดแทนของประเทศไทย

นายวรมน ขำขนิษฐ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พัฒนาพลังงานธรรมชาติ จำกัด (Natural Energy Development Co., Ltd. NED) กล่าวเสริมว่า โครงการ ลพบุรี โซล่าร์เป็นโครงการแรกที่ขานรับแผนพัฒนาพลังงานทดแทน 15 ปี (2551 – 2565) ของประเทศไทย ซึ่งในระยะแรกของแผนนี้ (2551 – 2554) มีเป้าหมายที่จะผลักดันให้เกิดการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวน 55 เมกะวัตต์ ซึ่งโครงการ ลพบุรี โซล่าร์" เป็นโครงการที่สนับสนุนให้เป้าหมายดังกล่าวบรรลุได้

นอกจากนี้ โครงการ ลพบุรี โซล่าร์ยังมีส่วนร่วมในการช่วยประเทศไทยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่ชั้นบรรยากาศได้มากกกว่า 1.3 ล้านตันตลอดอายุการดำเนินโครงการ 25 ปี และช่วยลดการนำเข้าเชื้อเพลิงได้มากถึงปีละ 35,000 ตัน ซึ่งสอดคล้องกับการที่ประเทศไทยได้ให้คำมั่นสัญญากับประชาคมโลกที่เมืองโคเปนเฮเกนในเรื่องของการร่วมกันดูแลการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศโลก

สถาบันการเงินทั้งในและต่างประเทศหนุนโครงการเต็มที่โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 73 เมกะวัตต์ของเอ็นอีดี ได้รับการสนับสนุนจากสถาบันการเงินชั้นนำทั้งในและจากต่างประเทศ ได้แก่ ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank: ADB) ซึ่งให้เงินกู้แก่โครงการ มูลค่า 70 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณกว่า 2 พันล้านบาท รวมถึงธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)และ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งต่างให้เงินกู้แก่โครงการรวมกันมูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท โดยมีธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท หลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

ข่าวล่าสุด

LH Bank ออกผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพผู้ป่วยนอก “LHB OPD SAVER”