posttoday

เน็ตก้าฯปรับตัวรอท่า4จี ตั้งเป้าโต30%บุกต่อเออีซี

25 ธันวาคม 2558

เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี สำหรับผู้ให้บริการซอฟต์แวร์บริหารจัดการเครือข่ายสัญชาติไทยอย่าง บริษัท เน็ตก้า ซิสเต็ม ที่ใช้กระแสการประมูล 4จี

โดย...พลพัต สาเลยยกานนท์

เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี สำหรับผู้ให้บริการซอฟต์แวร์บริหารจัดการเครือข่ายสัญชาติไทยอย่าง บริษัท เน็ตก้า ซิสเต็ม ที่ใช้กระแสการประมูล 4จี ในการปรับองค์กรและแผนรับมือครั้งใหญ่

ชาญชัย เจียมโชติพัฒนกุล ประธานบริหาร บริษัท เน็ตก้า ซิสเต็ม กล่าวว่า ภาพรวมตลาดซอฟต์แวร์บริหารจัดการเครือข่ายในประเทศไทยมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยอ้างอิงจากข้อมูลบริษัทวิจัยไอดีซีที่คาดการณ์ไว้ว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทยในปี 2559 จะมีอัตราเติบโตอยู่ที่ 6.5% จากปี 2558 อยู่ที่ 6.2%

ทั้งนี้ สำหรับการประมูล 4จี ที่เกิดขึ้นจะส่งผลให้บริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์และองค์กรขนาดใหญ่จะมีการลงทุนด้านไอทีมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้มีความต้องการซอฟต์แวร์บริหารจัดการมากขึ้นตาม ซึ่งที่ผ่านมามีปัจจัยเศรษฐกิจยังฟื้นตัวไม่ชัดเจนทำให้อัตราเติบโตมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ขณะที่การใช้จ่ายด้านไอทีในประเทศไทยมีมูลค่า 2.07 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 7 แสนล้านบาท) สัดส่วนจากโทรคมนาคม 45.5% อื่นๆ 54.5% ซึ่งปกติการใช้จ่ายไอทีในประเทศไทยจะเติบโตมากกว่าการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี) ราว 3-8% แต่เนื่องจากปี 2558 ปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจจึงส่งผลให้มีอัตราเติบโตได้น้อยกว่า 1% ซึ่งหวังว่าในปีหน้าจะเริ่มปรับตัวดีขึ้น

ด้านบริษัทวิจัยเมสันได้มีการคาดการณ์ภาพรวมตลาดซอฟต์แวร์บริหารจัดการเน็ตเวิร์กทั่วโลกอยู่ที่ 5,600 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2 แสนล้านบาท) และมีอัตราเติบโตเฉลี่ย 3.9% ต่อปี จากปัจจัยการขยายตัวของเทคโนโลยีแอลทีอี (LTE) และเอฟทีทีเอ็กซ์

นอกจากนี้ แผนการบริหารงานของบริษัทหลังจากนี้ได้มีการปรับรูปแบบการบริหารงานใหม่ โดยได้เพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ เพื่อตอบสนองความต้องการ รวมถึงซอฟต์แวร์เพื่อตรวจสอบและระบุปัญหาการใช้งานเชิงลึกของเครือข่าย

ชาญชัย กล่าวว่า จะมีการแต่งตั้งผู้แทนจำหน่ายอย่างน้อย 1 ราย และผันตัวขึ้นเป็นผู้พัฒนาและให้บริการระบบ อีกทั้งขยายตลาดสู่ต่างประเทศในปีหน้าเริ่มต้นที่ประเทศเวียดนาม อินโดนีเซีย จากนั้นจะเข้าสู่ประเทศเมียนมาในอนาคต

สำหรับในปี 2559 จะใช้เม็ดเงินลงทุนมูลค่า 30 ล้านบาท ตั้งสำนักงานแห่งใหม่และศูนย์อบรมพัฒนาบุคลากร (เทรนนิ่งเซ็นเตอร์) และตั้งเป้าหมายเติบโตเพิ่มขึ้น 30% จากปัจจัยดังกล่าวข้างต้น หรือมีมูลค่าอยู่ที่ 100 ล้านบาท จากปีนี้อยู่ที่ 70 ล้านบาทสำหรับตลาดในประเทศ ส่วนตลาดต่างประเทศที่จะรับรู้รายได้เป็นครั้งแรกในปีหน้าจะมีมูลค่าอยู่ที่ 100 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน จะมีการขยายตลาดลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเพิ่มขึ้นในกลุ่มการศึกษา สถาบันการเงิน ค้าปลีก เพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วน 30% จากปีนี้อยู่ที่ 20% โดยลูกค้ากลุ่มหลักจะคงอยู่ที่ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์และองค์กรขนาดใหญ่ราว 80%

“ที่ผ่านมาได้ปรับโครงสร้างภายในพร้อมเร่งเจรจาคู่ค้าจนขณะนี้มีความพร้อมเต็มที่แล้ว และอีกงานสำคัญคือมุ่งสร้างการยอมรับในระดับนานาชาติ ปูทางให้ทำตลาดทั้งในและต่างประเทศง่ายขึ้น”

ข่าวล่าสุด

พรรคประชากรไทย ชู 4 เสาหลักพลิกฟื้นประเทศ ส่งชิงเก้าอี้ สส.261 คน สู้ศึกเลือกตั้ง‘69