posttoday

"จัสมิน" ประกาศทุ่ม2 หมื่นล้านลุย4จี ตั้งเป้า 3 ปีโกยลูกค้า5ล้านราย

21 ธันวาคม 2558

พิชญ์ โพธารามิก เปิดใจหลังคว้าคลื่น 900 MHz “สลายจุดอ่อน เพิ่มจุดแข็ง” ตั้งเป้า 3 ปี ชิงแชร์ 10% ตลาดเครือข่ายมือถือ 3 แสนล้านบาท

พิชญ์ โพธารามิก เปิดใจหลังคว้าคลื่น 900 MHz “สลายจุดอ่อน เพิ่มจุดแข็ง” ตั้งเป้า 3 ปี ชิงแชร์ 10% ตลาดเครือข่ายมือถือ 3 แสนล้านบาท

หลังจากคว้าชัยชนะการปรระมูลคลื่น 900 MHz จาก กสทช. ในชุดใบอนุญาตที่ 1 ในราคา 75,654 ล้านบาท ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. นายพิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล ได้จัดงานแถลงข่าวเปิดเผยแนวทางและเป้าหมายธุรกิจเป็นครั้งแรก

"แม้ตัวเลขการประมูลหลายคนจะบอกว่าสูง แต่สำหรับเราที่เป็นรายใหม่ถือว่าไม่สูงและคุ้มค่ากับการลงทุน เพราะหากเราสามารถได้ลูกค้ามือถือมา 1 คนก็เท่ากับเป็นรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาแล้ว ต่างจากผู้ประกอบการรายเดิมทั้ง 3 รายที่เป็นการรักษาตลาดเดิมและชิงลูกค้าจากรายอื่น ตลาดฟิกซ์บรอดแบนด์มูลค่า 5-6 หมื่นล้านบาท แต่ตลาดมือถือ 3 แสนล้านบาท เราได้แชร์ 10% ก็ถือว่าน่าพอใจแล้ว"

นอกจากนี้ยังถือเป็นการกำจัดจุดอ่อนของกลุ่มจัสมิน ที่เดิมมีเพียงฟิกซ์บรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต คือ 3BB การขยายสู่บริการเครือข่ายมือถือจึงเป็นการเพิ่มจุดแข็งให้กับกลุ่มจัสมินในการให้บริการลูกค้าได้ครบทั้งโมบาย แท็บเล็ต และพีซีหรือทั้งการใช้งานในบ้านและใช้งานนอกบ้าน

“ตลาดเครือข่ายมือถือสำหรับรายเดิมอาจมองว่าเป็นเรดโอเชียนที่แข่งขันรุนแรง แต่สำหรับเราถือเป็นบลูโอเชียน เพราะที่ผ่านมาตลาดเครือข่ายมือถือส่วนใหญ่มาจากวอยซ์หรือการโทร แต่นับจากนี้ ดาต้าคือหัวใจสำคัญ ซึ่งในไทยตลาดบรอดแบนด์ยังใหม่มากและมีเพียงจัสมินกับทรูที่มีครบทั้งดาต้าและวอยซ์ ส่วนเอไอเอสเพิ่งเริ่มบรอดแบนด์ทำให้ฐานลูกค้ายังน้อย”

ขณะที่แผนธุรกิจนับจากนี้ จะเริ่มปักธงลุยเครือข่ายมือถือแบรนด์ใหม่ตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นไป โดยเตรียมงบลงทุนไว้ 2 หมื่นล้านบาทภายใน 3 ปีนับจากนี้ พร้อมตั้งเป้าหมายจะมีลูกค้าปีแรก 2 ล้านรายและปีที่ 3 เพิ่มเป็น 5 ล้านราย ซึ่งในปีที่ 3 คาดว่าจะเริ่มทำกำไรได้

ทั้งนี้ เบื้องต้นจะใช้ฐานลูกค้าจาก 3BB ที่มีอยู่ 8 ล้านราย หรือ 2 ล้านครัวเรือน โดยจะจัดแพคเกจสำหรับลูกค้าให้ใช้งานได้ไม่จำกัด เหมือนบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต ที่ปัจจุบันมีการใช้งานเฉลี่ย 30 GB ต่อเดือน เพื่อสร้างจุดแข็งของกลุ่มจัสมิน ต่างจากการใช้งานมือถือในปัจจุบันที่ยังจำกัดการใช้งานอินเทอร์เน็ต และถือว่ายังมีราคาสูงเมื่อเทียบกับต่างประเทศ

ดังนั้น การเป็นมือถือรายที่ 4 จึงมั่นใจในจุดแข็งที่มีอยู่และจุดแข็งใหม่เรื่อง 4G ที่เพิ่มเข้ามา สิ่งที่ต้องเพิ่มเติมคือ การบริการซึ่งเป็นหัวใจสำคัญ และมองว่าจุดอ่อนของโอเปอเรเตอร์รายอื่นที่มีอยู่ โดยเฉพาะการใช้งานดาต้าในปัจจุบันที่ราคายังสูงอยู่ 3-4 GB ราคา 100 กว่าบาท ใช้ได้ไม่ถึงเดือน ฉะนั้น ทาง แจส แจส โมบาย บรอดแบนด์ จะทำให้กับลูกค้าให้มากที่สุด ในราคาที่ดีที่สุด  ซึ่งถือเป็นพันธกิจของแจส

ในส่วนของการลงทุนโครงข่ายนั้น เชื่อว่าจะใช้เงินไม่มากนัก เนื่องจากส่วนหนึ่งจะใช้เครือข่ายของ 3BB ที่ปัจจุบันครอบคลุมถึง 75% จาก 5,500 ตำบลทั่วประเทศ มีฮอตสปอตหลายแสนจุด  โดยจะลงทุนตั้งเสาสัญญานเองไม่มากนัก และอีกส่วนหนึ่งจะใช้เสาสัญญานร่วมกับรัฐวิสาหกิจที่มีเสาสัญญานอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรต่างชาติ 1-2 รายซึ่งจะเข้ามาช่วยเสริมในเรื่องของเทคโนโลยี

อีกเรื่องที่หลายคนสงสัยคือแหล่งเงินทุน ซึ่งนายพิชญ์ไขข้อข้องใจว่า มีแหล่งเงินทุนหลากหลาย  เริ่มจากกองทุน Jasif ที่ตั้งขึ้นยังมีเงินสดเหลืออยู่กว่า 10,000 ล้านบาท โดย กองทุน Jasif มูลค่ากองทุน 55,000 ล้านยังสามารถกู้เงินมาได้อีก3 เท่า เพื่อนำมาซื้อทรัพย์สินของ แจส โมบายฯ ได้อีก

นอกจากนี้ยังมีรายได้จาก 3BB ปีละกว่า 5,000 ล้านบาท และออก warrant ไปแล้ว warrant มีอายุ 5 ปี ถ้าครบอายุก็จะมีเงินอีก 15,000 ล้านบาท รวมทั้งอยู่ระหว่างเจรจากับธนาคารอีก 1-2 ราย หากสรุปได้จะมีเงินเข้ามาอีกหลายหมื่นล้านบาทซึ่งถือว่าเพียงพอ โดยการลงทุนทั้งหมดจะลงทุนในนามบริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์

“การที่เราเลือกคลื่น 900 เพราะมีต้นทุนต่ำ การลงทุนถูกกว่า 1800 แน่นอน และต้องขอบคุณ กสทช. ที่วางโครงสร้างการชำระเงินมาที่ 900 เป็นการจ่ายที่ดีกว่า เพราะคลื่น 1800 ต้องจ่าย 50%  ของเงินประมูลทั้งหมด และปี 2-3 อีก 25 % แต่คลื่น 900 จ่ายที่ 8000 ล้านบาทปีแรก ปีที่ 2-3 จ่ายอีกปีละ 4,000 ล้านบาท ที่เหลือจ่ายปีที่ 4 การจ่ายเงินแบบนี้เอื้อต่อผู้เล่นรายใหม่อย่างเรา ดังนั้น หากลูกค้าที่ไม่ได้อะไรจากโอเปอเรเตอร์รายเดิมๆ เราจะทำให้”พิชญ์กล่าวปิดท้าย 

ข่าวล่าสุด

เปิด Top 3 ดวงขึ้นแรงสุด 12 นักษัตร นักธุรกิจ ใครปัง รับปีม้าไฟ