‘ซัมซุง’ลุยโปรเจกเตอร์28รุ่น
โพสต์ทูเดย์ — ซัมซุงทุ่ม 25 ล้านบาท ส่งโปรเจกเตอร์ 28 รุ่น ลุยตลาดครึ่งปีหลัง พร้อมขยายช่องทางร้านค้าปลีก หวังโต 6 เท่า
นายบุญเลิศ วิบูลย์เกียรติ ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับแผนการตลาดสินค้ากลุ่มโปรเจกเตอร์ใหม่ ด้วยการขยายช่องทางจำหน่ายไปยังร้านค้าย่อยและห้างสรรพสินค้าทั่วไปเป็นครั้งแรก จากเดิมที่เน้นจำหน่ายตรงไปยังองค์กร หรือโครงการต่างๆ รวมทั้งรับสั่งซื้อจำนวนมากในครั้งเดียว
การขยายช่องทางจำหน่ายไปยังร้านค้าปลีกเพิ่มขึ้นครั้งนี้ ยังคงเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าองค์กร แต่เป็นการเพิ่มทางเลือกในการซื้อให้ลูกค้า พร้อมทั้งทุ่มงบการตลาดเป็นเงิน 25 ล้านบาท หรือ 10% ของยอดขายเพื่อทำการตลาดแบบ 360 องศา ผ่านทุกสื่อและการจัดกิจกรรมการตลาดเต็มรูปแบบ
ขณะเดียวกันยังให้ความสำคัญกับการเพิ่มสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้เปิดตัวโปรเจกเตอร์ใหม่ 8 ซีรีส์ รวม 25 รุ่น และในช่วงปลายปีจะเปิดตัวเพิ่มอีก 3 รุ่น รวมเป็น 28 รุ่น ในครึ่งปีหลังนี้ จากปีที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดตัวและจำหน่ายเครื่องโปรเจกเตอร์เพียง 13 รุ่น เท่านั้น
“
ตลาดไอทีในประเทศไทยหลังเกิดเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและคึกคักขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจากกำลังซื้อ และความต้องการสินค้าไอทีที่ยังมีอย่างต่อเนื่อง” นายบุญเลิศ กล่าวทั้งนี้ คาดว่าจากแผนดังกล่าวจะส่งผลให้ยอดขายโปรเจกเตอร์ของบริษัทในปีนี้มีอัตราการเติบโตถึง 600% หรือ 6 เท่าจากปีที่ผ่านมา ซึ่งคิดเป็นปริมาณ 1.4 หมื่นยูนิต จาก 2,300 ยูนิต และจะส่งผลให้ส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 15% จากปัจจุบันที่มีส่วนแบ่งอยู่ 10% ถือเป็นอันดับที่ 3 ของตลาด
สำหรับแนวโน้มตลาดโปรเจกเตอร์ทั่วโลกพบว่า มีอัตราการเติบโตที่ดี โดยปีนี้คาดการณ์ว่าจะมีอัตราการเติบโตราว 40% ทั่วโลก ในขณะที่ประเทศไทยก็มีอัตราการเติบโตไปในทิศทางเดียวกัน โดยในปีนี้คาดว่าตลาดโปรเจกเตอร์น่าจะมีมูลค่า 2,600 ล้านบาท เติบโตจากปีที่ผ่านมา 25% หรือคิดเป็นจำนวนราว 9.5 หมื่นยูนิต
ขณะที่ภาพรวมตลาดโปรเจกเตอร์ในประเทศไทยนั้น ตลาดหลักยังคงเป็นลูกค้าในรูปแบบองค์กร คิดเป็นสัดส่วนถึง 95% และอีก 5% เป็นลูกค้าทั่วไป โดยในตลาดลูกค้าที่เป็นองค์กรยังแบ่งเป็นลูกค้าองค์กรที่ซื้อในรูปแบบโปรเจกต์หรือโครงการ 45% และรูปแบบลูกค้าองค์กรที่ซื้อผ่านร้านค้าปลีกไอทีทั่วไป 55%
ดังนั้น ในส่วนของบริษัทได้ตั้งเป้าสัดส่วนยอดขาย โดยแบ่งเป็นยอดขายจากการจำหน่ายผ่านร้านค้าย่อย 35% ห้างสรรพสินค้า 20% และลูกค้าที่เป็นองค์กร 45%


