อาหารอังกฤษลั่นรุกไทย เนื้อวัวหวนลุยรอบ 20 ปี

หลังจากหายไปจากไทยนานถึง 20 ปี ในที่สุดเนื้อวัวอังกฤษก็หวนกลับมาทำตลาดประเทศไทยอีกครั้ง โดยสถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทย ร่วมกับกูร์เมต์ วัน ฟู้ด เซอร์วิส จัดโปรโมท

นายมาร์ก เคนท์ เอกอัคร ราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย กล่าวว่า เนื้อวัวและเนื้อแกะ อังกฤษมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์พิเศษเฉพาะตัว เนื้อวัวมีมาตรฐานสูง มีสายพันธุ์ที่มีชื่อเสียง อาทิ เฮเรฟอร์ด ชอร์ตฮอร์น อาเบอร์ดีนอังกัส ซึ่งมีประวัติมากว่า 400 ปี เลี้ยงในทุ่งหญ้า ผ่านกระบวนการมาเป็นเนื้อวัวคุณภาพ ส่วนเนื้อแกะมีวางจำหน่ายในประเทศไทยอยู่แล้ว

สำหรับแผนทำตลาดในไทยครั้งนี้ ทางสถานทูตอังกฤษได้เชิญ แกร์รี โรดส์ เชฟมิชลินชื่อดังจากเมืองผู้ดี และทูตทางด้านอาหารของรัฐบาลอังกฤษ มาช่วยโปรโมทเนื้อวัวและเนื้อแกะ โดยเชฟโรดส์ได้สาธิตการทำเมนูเนื้ออันขึ้นชื่อผ่านสื่อ ส่วนการขายจะจับกลุ่มพรีเมียมผ่านโรงแรมและร้านอาหารหรู

เชฟโรดส์ กล่าวว่า การกลับมาของเนื้อวัวและเนื้อแกะจากอังกฤษในไทย จะเปิดประสบการณ์การกินอาหารไปอีกระดับ

ขณะที่องค์กรส่งเสริมเนื้อวัวและเนื้อแกะในอังกฤษ Agriculture and Horticulture Development Board (AHDB) คาดว่าการกลับมาของเนื้อวัวไร้กระดูกในตลาดไทย จะมีมูลค่าถึง 10.8 ล้านปอนด์ (ราว 572 ล้านบาท) ใน 5 ปีข้างหน้า

นอกจากนี้ อังกฤษยังมีโครงการสนับสนุนอาหารอื่น เช่น โครงการ Food is GREAT สนับสนุนวัตถุดิบ เช่น แซลมอนจากสกอตแลนด์ ออยสเตอร์จากวิทสเตเบิล พุดดิ้งเหนียวจากคาร์ทเมล

ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า เมื่อปี 2557 ไทยนำเข้าเนื้อวัวไร้กระดูกทั้งหมด 10,166 ตัน คิดเป็นมูลค่า 1,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 71% เป็นเนื้อแช่แข็งเกือบ 9,000 ตัน ที่เหลือเป็นเนื้อชิลด์ เนื้อแช่แข็งส่วนใหญ่นำเข้าจากออสเตรเลีย (73% ของปริมาณการนำเข้าทั้งหมด) รองลงมาคือ ประเทศญี่ปุ่น และสหรัฐ

เนื้อวัวออสเตรเลียได้เปรียบที่ราคาถูกกว่าเนื้อวัวสหรัฐและอังกฤษ เพราะภาษีนำเข้าเนื้อวัวออสเตรเลียอยู่ที่ 13.3% (ภายใต้ข้อตกลงการค้าเอฟทีเอ) แต่ภาษีนำเข้าเนื้อวัวจากอังกฤษและสหรัฐสูงถึง 50%