นารายารุกตปท.ลดเสี่ยงในไทย
โพสต์ทูเดย์
— นารายา ชูโมเดลแฟรนไชส์ญี่ปุ่นบุกทั่วโลก พร้อมเสริมไลน์สินค้าผู้ชาย เด็ก เครื่องครัวในบ้าน คาดปีนี้ได้กว่า 800 ล้านนางวาสนา รุ่งแสนทอง ลาทูรัส ประธานกรรมการบริหาร บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์นารายา เปิดเผยว่า แผนจากนี้ไปบริษัทจะขยายสาขาต่างประเทศเป็นหลัก เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้มากขึ้นและลดความเสี่ยงจากปัญหาในประเทศ โดยปีนี้บริษัทมีแผนจะเปิดสาขาใหม่ 4 แห่ง ได้แก่ ฮ่องกง บริษัทจะลงทุนเอง เปิดในย่านนาธาน และไทม์สแควร์ โดยจะเปิดปีนี้ก่อน 1 แห่ง
สำหรับอีก 3 สาขาอยู่ที่ เมืองดูไบ สโลวาเกีย และอินโดนีเซีย ด้วยรูปแบบการขยายผ่านตัวแทนจำหน่ายในประเทศดังกล่าว ซึ่งจากการขยายสาขาทั้งหมดในปีนี้จะส่งผลให้บริษัทมีสาขาต่างประเทศ 14 สาขา
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะขยายสาขาในประเทศญี่ปุ่นในรูปแบบเดียวกันกับที่ฮ่องกงและมาเก๊า คือการตั้งบริษัท สร้างคลังสินค้า และเปิดเอาท์เลต แต่ในญี่ปุ่นบริษัทมีแผนจะขายแฟรนไชส์ด้วย ซึ่งในขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจากับคู่ค้าที่ร่วมทุน คาดปีหน้าจะเห็นความชัดเจนในการขยายสาขาประเทศญี่ปุ่น
“
การขยายสาขาในต่างประเทศ นอกจากจะเป็นการลดความเสี่ยงจากความไม่สงบภายในประเทศไทยแล้ว ยังเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าอีกด้วย ซึ่งบริษัทมีเป้าหมายที่จะขยายสาขาในเมืองสำคัญๆ ทั่วโลก เช่น ฝรั่งเศส นิวยอร์ก เป็นต้น” นางวาสนา กล่าวด้านแผนการดำเนินงานในประเทศจะขยายสาขาใหม่ 4 สาขา ได้แก่ พาราไดซ์ พาร์ค ,โตคิว มาบุญครอง,สยามดิสคัฟเวอรี่ และคิงพาวเวอร์ ซองรางน้ำ ด้วยงบลงทุนอย่างน้อยสาขาละ 20 ล้านบาท หรืองบลงทุนกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้ปีนี้บริษัทมีสาขาภายในประเทศทั้งสิ้น 14 สาขา ในรูปแบบการลงทุนเองทั้งหมด บริษัทมีแผนเพิ่มไลน์สินค้าให้ครอบคลุมทุกกลุ่มได้แก่ สินค้าสำหรับผู้ชาย เช่น กระเป๋าใส่เข็มขัด กลุ่มเด็ก สินค้าเครื่องครัว ในปลายปีนี้
บริษัทจะใช้งบ 80 ล้านบาท ขยายกำลังการผลิตโรงงาน จ.ขอนแก่น ในสิ้นปีนี้ และจะเพิ่มจักร 1,500 คัน จากปัจจุบันที่มี 1,600 คัน ดังนั้นในสิ้นปีนี้บริษัทจะมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 3,100 คัน หรือคิดเป็นกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นราว 30% จากกำลังการผลิตกระเป๋า 6
– 7 ล้านใบต่อปี ในการรองรับการขยายสาขาอย่างรวดเร็วขณะที่ภาพรวมรายได้ของบริษัทปีนี้โตตามเป้า 20% จากรายได้ในปีที่ผ่านมาที่ 700 ล้านบาทจากการขยายสาขาใหม่ทั้งในและต่างประเทศ แม้ในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทจะประสบปัญหาทางการเมือง ทำให้ยอดขายในครึ่งปีแรกเติบโตได้เพียง 10% เท่านั้น ซึ่งถือว่าไม่เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ ดังนั้นบริษัทจึงหวังว่าสิ้นปีนี้บริษัทจะมีรายได้ราว 840 ล้านบาท


