เจ้าของอาณาจักร 'ทู'
โดย...ปรียานิจ กุลตั้งเจริญ
โดย...ปรียานิจ กุลตั้งเจริญ
หนึ่งในนักธุรกิจแถวหน้าของเมียนมา ที่เชื่อกันว่าเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดของประเทศ คือ เทย์ ซา เจ้าของอาณาจักร ทู กรุ๊ป เครือธุรกิจขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมธุรกิจหลากหลายด้าน
เทย์ ซา เคยให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์อิตาเลียนว่า ทู กรุ๊ป ของเขา มีรายได้ต่อปีประมาณ 500 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งถือเป็นกลุ่มธุรกิจใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของเมียนมา โดยมี เทย์ ซา เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ทำธุรกิจทั้งค้าไม้ อัญมณี หยก น้ำมันปาล์ม ก่อสร้าง โรงแรมและธุรกิจท่องเที่ยว บริการโทรศัพท์มือถือ สายการบิน
มหาเศรษฐีหนุ่มใหญ่รายนี้ เป็นนักธุรกิจระดับไฮโปรไฟล์ของเอเชีย เพราะธุรกิจของเขาได้สยายปีกไปถึงสิงคโปร์ ไทย และประเทศอื่นๆ แต่ขณะเดียวกันธุรกิจของเขาก็เป็นเป้าหมายสำคัญของการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตก โดยเมื่อปีที่แล้วเจ้าหน้าที่สหรัฐได้สั่งปิดบัญชีของ เทย์ ซา ในบริษัทการลงทุนในสิงคโปร์ เนื่องจากสงสัยว่าจะมีการโอนเงินระหว่างบัญชีดังกล่าวกับบริษัทที่เชื่อมโยงกับเกาหลีเหนือ
เว็บไซต์อิรวดีของเมียนมา ระบุว่า เทย์ ซา มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของเมียนมา เพราะอาณาจักรธุรกิจของเขาครอบคลุมหลายอุตสาหกรรมในประเทศ และที่ผ่านมาสายสัมพันธ์อันแนบแน่นกับทหาร คือกุญแจสำคัญที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จทางธุรกิจ
เชื่อกันว่าเขามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพลเอกอาวุโส ตานฉ่วย อดีตผู้นำสูงสุดของรัฐบาลทหารเมียนมา รวมถึงพลเอก ฉ่วยมาน ประธานสภาผู้แทนราษฎรเมียนมา ที่เพิ่งประกาศว่าหากได้รับการสนับสนุนจากพรรค ก็พร้อมจะลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนต่อไปของประเทศด้วย
ในด้านของธุรกิจ หลังจากก่อตั้ง ทู คอมปะนี เมื่อต้นทศวรรษ 1990 เทย์ ซา ก็ได้ขยายธุรกิจของเขา โดยการทำงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลทหาร ณ ขณะนั้น เช่น ตั้งบริษัท เมียนมา อเวีย เอ็กซ์ปอร์ต เพื่อจัดหาชิ้นส่วนเครื่องบินให้กับกองทัพ และเป็นตัวแทนรายเดียวของเอ็กซ์ปอร์ต มิลิทารี อินดัสทรี กรุ๊ป และบริษัทผลิตเฮลิคอปเตอร์ของรัสเซีย ซึ่งเขาเป็นผู้ควบคุมธุรกิจทุกอย่างในเมียนมาที่เชื่อมโยงกับรัสเซีย
ขณะเดียวกัน เขายังเป็นเจ้าของ ทู วู้ด โปรดักส์ ผู้ส่งออกไม้ซุงรายใหญ่ของประเทศ ซึ่งได้รับสัมปทานป่าใกล้กับชายแดนประเทศไทย
อาณาจักรธุรกิจของเขา ยังเป็นเจ้าของสายการบินบากันสายการบินเอกชนแห่งแรกของประเทศ มีฐานการบินอยู่ที่ย่างกุ้งและมัณฑะเลย์ เปิดให้บริการเที่ยวบินไปยัง 15 เมือง รวมถึง จ.เชียงใหม่ ของไทย
สำหรับเป้าหมายธุรกิจของทู กรุ๊ป เทย์ ซา ระบุว่า ยังคงดำเนินธุรกิจตามปกติ ไม่ว่ารัฐบาลจะเป็นทหาร หรือระบบอื่นๆขณะที่เป้าหมายชีวิตของเขาเอง คือ ทุ่มเททำงานการกุศล ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ โดยเขาได้ตั้งมูลนิธิทู เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2551 หรือหลังพายุไซโคลนนาร์กิส พัดถล่มเมียนมา เพียงไม่กี่วัน
ครั้งนั้น เขาและเครือธุรกิจได้ให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินแก่ผู้ประสบภัยในเมืองโบกาเลย์ ซึ่งได้รับความเสียหายมากที่สุดเมืองหนึ่ง และบริษัทของเทย์ ซา ได้ทุ่มเม็ดเงินประมาณ 5 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อซ่อมแซมก่อสร้างโรงเรียนโรงพยาบาล วัด และอาคารของหน่วยงานราชการอีกหลายแห่งในเมืองดังกล่าว
หลังจากเมียนมาเปิดประเทศ ลูกชายของเทย์ ซา บอกว่า ตอนนี้ พ่อของตัวเองได้ทุ่มเทเวลาทำงานให้มูลนิธิทู และพยายามช่วยเหลือสังคมมากขึ้นอีก


