THE ขึ้นแท่น เอเยนต์เหล็กครบวงจร

เดอะสตีล ควบรวม “มหาชัยศูนย์รวมเหล็ก” เพิ่มทุนขายในกลุ่ม 750 ล้านบาท ขึ้นแท่นผู้ผลิตเหล็กครบวงจร ด้าน ไดเมท โยนหุ้นให้เอื้อวิทยา

ราคาหุ้นบริษัท เดอะสตีล (THE) ปรับตัวขึ้นทันทีที่ปลด SP เปิดให้ซื้อขายและชนเพดานสูงสุด (ซิลลิ่ง) สนิทที่ 7.50 บาท รับข่าวเพิ่มทุน 750 ล้านบาท หรือ 150 ล้านหุ้น ยกขายกลุ่มเครือญาติ “จิระพงษ์ตระกูล” จำนวน 2 ราย รายละ 375 ล้านบาท หรือ 75 ล้านหุ้น ราคาขายหุ้นละ 5 บาท ประกอบด้วย 1.สุรช จิระพงษ์ตระกูล และนิรุตต์ งามชำนัญฤทธิ์  ผู้ถือหุ้นทั้งสองราย ติดระยะเวลาห้ามขาย (ไซเลนต์พีเรียด) เป็นเวลา 1 ปี เช่นเดียวกับหุ้นที่เสนอขายให้ประชาชนครั้งแรก หรือ IPO

สำหรับ สุรช เป็นลูกพี่ลูกน้องกับ บุญชัย จิระพงษ์ตระกูล ผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้บริหาร THE สุรชเป็นเจ้าของบริษัท คิมเส็งค้าเหล็ก ส่วน นิรุตต์ เป็นลูกของซ้อลัดดา จิระพงษ์ตระกูล เจ้าของ “มหาชัยศูนย์รวมเหล็ก” รายใหญ่ ผู้ให้การสนับสนุนด้านการเงินแก่กลุ่มบริษัท จี สตีล (GSTEL)

การเพิ่มทุนของ THE เป็นการเพิ่มทุนจาก 400 ล้านบาท เป็น 550 ล้านบาท มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (พาร์ ) 1 บาท/หุ้น

การออกหุ้น PP ของ THE ครั้งนี้ไม่ได้ขายแค่หุ้นออกไปให้กับกลุ่มเครือญาติ แต่ได้แลกด้วยการเข้าซื้อสินทรัพย์  ที่ดิน อุปกรณ์ และเครื่องจักร รวมมูลค่า 348 ล้านบาทเศษ เป็นการแลกเปลี่ยน โดย THE ได้ซื้อที่ดิน โรงงานของซ้อลัดดาออกมาทั้งหมด ส่งผลให้กิจการค้าเหล็กของซ้อลัดดาทั้งหมด 8 บริษัท ปิดลงหมดภายในสิ้นปีนี้ แล้วยกทั้งหมดมาที่ THE  คือ บริษัท มหาชัยศูนย์รวมเหล็ก, มหาชัย สตีล อินเตอร์, เมทัล อินเตอร์, เอ็ม แอนด์ แอล สตีล, เอ็มสตีล, เอส สตีล, คิม สตีล และคิมฮวด สตีล

ส่วน สุรช ยกขายเครื่องจักร-อุปกรณ์ของ “บริษัท คิมเส็งค้าเหล็ก” ให้ THE เช่นกัน ซึ่ง 2 บริษัทในกลุ่มนี้ “คิมเส็งค้าเหล็ก และ เค สตีล เซ็นเตอร์” ต้องปิดกิจการในปี 2558 นี้

ผลการซื้อสินทรัพย์ อุปกรณ์ เครื่องจักร จาก “ สุรช-นิรุตต์” ครั้งนี้ ส่งผลให้ทั้งสองรายเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นเกิน 10% โดย สุรช ถือ 13.71% นิรุตต์และนิรันดร์ บิดา ถือรวมกัน 17.09%

บุญชัย จิระพงษ์ตระกูล ประธานกรรมการบริหาร THE กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของบริษัท ว่า เป็นการนำเหล็กในกลุ่มเครือญาติเข้ามารวมไว้ใน THE เพื่อความยิ่งใหญ่ของการเป็นเอเยนต์ (ตัวแทนจำหน่าย) รายใหญ่ที่สุดของเหล็กม้วนรีดร้อนให้กับกลุ่ม จี สตีล (GSTEL) ซึ่งปัจจุบันนี้กลุ่มเหล็กมหาชัย และ THE เป็นผู้สนับสนุนเงินทุนในการผลิตเหล็กรีดร้อนให้กับกลุ่มสตีลเพื่อผลิตเหล็กป้อนกลุ่มมหาชัยเป็นหลัก

ประธานกรรมการบริหาร กล่าวว่า การควบรวมกิจการในกลุ่ม ทำให้ THE แข็งแรงขึ้นจากเดิมที่ต้องพึ่งพาวัตถุดิบ ไม่สันทัดเหล็กเส้น แต่ขณะนี้มีจุดแข็งของแต่ละราย ซึ่ง “คิมเส็งค้าเหล็ก” ของสุรชมีความถนัดเหล็กเส้น THE ชำนาญเหล็กรูปพรรณ เหล็กดำ เหล็กตัวซี  ส่วน “กลุ่มเหล็กมหาชัย” ของซ้อลัดดา ค้าเหล็กม้วนขาว

“การควบรวมทำให้เดอะสตีลแข็งแรงขึ้นมากจากเดิมต้องง้อวัตถุดิบ ไม่สันทัดเหล็กเส้น ตอนนี้มีจุดแข็ง THE จะเป็นเอเยนต์เหล็กรายใหญ่ครบวงจรที่สุด มีวัตถุดิบต้นน้ำเป็นเหล็กม้วนจากกลุ่มจีสตีล กลางน้ำ เราจะเป็นผู้ผลิตเหล็กม้วนมาตัดเป็นเหล็กท่อ เหล็กตัวซี และปลายน้ำการขายเหล็ก”

บุญชัย กล่าวอีกว่า ยอดขายหลังควบรวมน่าจะเพิ่มขึ้นเท่าตัว แต่ปี 2558 สถานการณ์ราคาเหล็กไม่ดี ราคาเหล็กลง 35% ยอดขายคงใกล้เคียงปีก่อน 1.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งปีนี้การทำยอดขายเท่าเดิม ต้องเพิ่มปริมาณขายเหล็ก 35% จากปีก่อน

ด้าน บริษัท ไดเมท (DIMET) บอร์ดมีมติอนุมัติให้ บริษัท เอื้อวิทยา (UWC) และนิธิศ ศิลมัฐ ทำคำเสนอซื้อหุ้นสามัญ (เทนเดอร์ออฟเฟอร์) จากผู้ถือหุ้นเดิม ราคาหุ้นละ 3.60 บาท รวมทั้งสิ้น 125.63 ล้านหุ้น คิดเป็น 49% ของทุนชำระแล้ว โดยแบ่งรายละครึ่ง หรือ รายละ 62.81 ล้านหุ้น หากมีผู้ถือหุ้นเสนอขายมากกว่า 125.63 ล้านหุ้น จะรับไว้เพียง 125.63 ล้านหุ้นเท่านั้น จากนั้นนำไปแบ่งครึ่งกัน 

สำหรับ ไดเมท  ช่วงหลังมีการขายหุ้นของผู้ถือหุ้นเดิมออกไปให้กับกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ ชื่อย่อเรียกกันสั้นๆ ว่า “เสี่ยก้อย” ที่มีความสัมพันธ์ฉันเครือญาติกับ
ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ CEN (แคปปิทอล เอ็นจิเนียริ่ง เน็ตเวิร์ค) และ CEN เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ UWC

หุ้น DIMET ปั่นราคาขึ้นจากหุ้น 2 บาท ขึ้นไปเกือบ 20 บาท แต่เจ้าของขายออกไม่ได้ สุดท้ายต้องโยนหุ้นออกขายให้เครือญาติ ราคาต่ำ 3.60 บาท การโยนหุ้นออกขายครั้งนี้ อาจเป็นเพียงแค่เปลี่ยนมือจาก
“เสี่ยก้อย” ที่หมดความน่าเชื่อถือในตลาดหุ้น ตั้งแต่หุ้น ยานภัณฑ์ (YNP) แล้วมาปั่น DIMET กระทั่งนำบริษัทแห่งหนึ่งเข้ามา ซึ่งพัวพันการทุจริตค้าข้าวและคดีอยู่ในศาลขณะนี้

มณฑล เชตุวัลลภกุล รองกรรมการผู้จัดการ UWC กล่าวว่า การทำคำเสนอซื้อหุ้นบางส่วนของ DIMET (Partial Tender Offer) ของบริษัทในครั้งนี้ ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญของบริษัทในการขยายการลงทุนไปในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกันกับธุรกิจของบริษัท เสริมสร้างความแข็งแกร่งและศักยภาพในการขยายธุรกิจ

ส่วนผลกระทบต่อกิจการและผู้ถือหุ้นจากการดำเนินกิจการและนโยบายการบริหารจัดการภายหลังการทำรายการบริษัทจะให้การสนับสนุนการดำเนินงานของผู้บริหารเดิมโดยใช้เครือข่ายพันธมิตรช่วยสนับสนุนการดำเนินการของบริษัท

รวมถึงการส่งตัวแทนเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการบริษัท ในการนี้บริษัทไม่มีความประสงค์ที่จะเปลี่ยนแปลงนโยบายการจ่ายเงินปันผลของบริษัทแต่อย่างใด รวมทั้งบริษัทไม่มีความประสงค์ที่จะดำเนินการเพิกถอนกิจการออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

สำหรับผลประโยชน์ที่บริษัทคาดว่าจะได้รับจากการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์บางส่วนของ DIMET (Partial Tender Offer) ของบริษัทในครั้งนี้ ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญของบริษัทในการขยายการลงทุนไปในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกันกับธุรกิจของบริษัท เสริมสร้างความแข็งแกร่งและศักยภาพในการขยายธุรกิจของบริษัท

ด้านราคาหุ้น DIMET และ UWC ปิดตลาดปรับตัวลง หลังจากระหว่างวันปรับตัวขึ้นรับข่าวดีแล้ว