กรณีศึกษามาม่า-แม็กนั่ม ใช้ดาราสร้างกระแสฟีเวอร์
นับเป็นอีกหนึ่งรายที่ประสบความสำเร็จจากการใช้ดาราที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมในสังคมมาเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสินค้า นั่นคือ บริษัท สหพัฒนพิบูล ที่ออกมาย้ำการเป็นผู้นำตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ด้วยการดึง อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ มาเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรามาม่าจำนวน 3 รสชาติ คือ มาม่าต้มยำกุ้ง มาม่าต้มยำกุ้งน้ำข้น และมาม่าเย็นตาโฟต้มยำ
นับเป็นอีกหนึ่งรายที่ประสบความสำเร็จจากการใช้ดาราที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมในสังคมมาเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสินค้า นั่นคือ บริษัท สหพัฒนพิบูล ที่ออกมาย้ำการเป็นผู้นำตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ด้วยการดึง อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ มาเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรามาม่าจำนวน 3 รสชาติ คือ มาม่าต้มยำกุ้ง มาม่าต้มยำกุ้งน้ำข้น และมาม่าเย็นตาโฟต้มยำ
หลังจากตกผลึกเคาะโต๊ะตกลงใช้ อั้ม-พัชราภา เป็นแม่เหล็กในการสร้างกระแส และนำมาซึ่งยอดขาย บริษัท สหพัฒนบิบูล เลยยอมควักงบก้อนโต 200 ล้านบาท เพื่อทำแคมเปญ “ตระกูลแซ่บ” โดยใช้อั้ม-พัชราภา เป็นตัวแทนสินค้าสื่อสารไปยังผู้บริโภค
ด้วยความแซ่บของเนื้อหาของโฆษณา และความเซ็กซี่ของดาราที่เป็นตัวแทนการนำเสนอมาม่าทั้ง 3 รสชาติ โดยในส่วนของมาม่าต้มยำกุ้ง ประโยคเด็ดของโฆษณาชุดนี้ คือ หน้าชามกับหน้าอั้ม หน้าไหนแซ่บกว่า ขณะที่มาม่าต้มยำกุ้งน้ำข้น ใช้ประโยคเด็ดว่า “ท่ากิน กับท่าอั้ม ท่าไหนแซ่บกว่า” และมาม่าเย็นตาโฟต้มยำ ใช้ประโยคเด็ดที่ว่า “สีชมพูของน้ำซุปกับริมฝีปากอั้ม อันไหนแซ่บกว่ากัน”
จากความเซ็กซี่ของพรีเซนเตอร์ที่นำเสนอผ่าน อั้ม-พัชราภา ส่งผลให้โฆษณาชุดนี้ได้ผลการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค โดยเฉพาะในโลกโซเชียลมีเดีย เนื่องจากตอนนี้มีหลายคนที่พยายามอยากจะรับประทานมาม่าให้เซ็กซี่เหมือนกับอั้ม-พัชราภา
กระแสความนิยมที่มาม่าได้รับดังกล่าว ส่งผลให้ยอดขายของมาม่าสามารถผงกหัวเติบโตขึ้นมาทันที 40% จากเดิมที่อาการร่อแร่ในช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคยังไม่ฟื้นตัวตามสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซา
ความสำเร็จที่มาม่าได้รับในครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นการเดินตามรอย บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง เคยประสบความสำเร็จมาแล้วกับการเปิดตัวไอศกรีมแม็กนั่ม เข้ามาทำตลาดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากหลายคนอยากรับประทานไอศกรีมแม็กนั่มให้เซ็กซี่ดูดีเหมือนกับ อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม หนึ่งใน 5 พรีเซนเตอร์ที่ใช้ในการเปิดตัวสินค้าเมื่อปี 2555 ซึ่งครั้งนั้นไอศกรีมแม็กนั่มได้สร้างปรากฏการณ์ “แม็กนั่มฟีเวอร์” ที่กลายเป็นกระแสฮือฮาไปทั่วทั้งโลกออนไลน์และออฟไลน์
ใครที่อยากจะเดินตามสินค้า 2 แบรนด์นี้ คงต้องมองลึกไปที่กลุ่มเป้าหมายและพรีเซนเตอร์ที่นำมาใช้ ว่าสามารถสะท้อนภาพลักษณ์ของสินค้าและทำให้ผู้บริโภคเชื่อได้แค่ไหน


