posttoday

ลมหายใจร้านถ่ายรูป

01 พฤษภาคม 2558

ในยุคที่คนขาด “ภาพ” ไม่ได้ ธุรกิจเกี่ยวกับการอัดขยายภาพยังอยู่อย่างต่อเนื่อง แม้การถ่ายภาพได้เปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ เพราะการถ่ายภาพแบบดิจิทัลเข้ามาแทนระบบฟิล์ม

ในยุคที่คนขาด “ภาพ” ไม่ได้ ธุรกิจเกี่ยวกับการอัดขยายภาพยังอยู่อย่างต่อเนื่อง แม้การถ่ายภาพได้เปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ เพราะการถ่ายภาพแบบดิจิทัลเข้ามาแทนระบบฟิล์ม

เมืองไทยเรานั้นฝรั่งนำการถ่ายภาพเข้ามาในสมัยรัชกาลที่ 3 สยามในเวลาต่อมามีคนจีนที่อพยพเข้ามาในสยามมาเป็นแรงงานหลายระลอก มีอยู่พวกหนึ่งเข้ามาเป็นช่างทอง ช่างทำฟัน รวมทั้งเป็นช่างถ่ายภาพ ฯลฯ

ราวต้นรัชกาลที่ 9 นี้เอง คนจีนได้เปิดร้านถ่ายภาพหลายแห่งในเมืองไทย ซึ่งเท่ากับว่าเป็นการสร้างรสนิยมพื้นฐานในการถ่ายภาพให้กับคนไทยไปด้วย หากไปดูภาพถ่ายของจีนที่เซี่ยงไฮ้กับภาพถ่ายในกรุงเทพฯ ที่ร่วมสมัยกันแล้ว จะเห็นว่าแสง เงา ท่าทาง เป็นรูปแบบเดียวกัน

ร้านถ่ายภาพสมัยก่อนมักจะอยู่ใกล้สถานศึกษาและสถานที่ราชการ เพราะเป็นกลุ่มลูกค้าที่แน่นอน นักเรียนจะต้องใช้ภาพถ่ายตอนเข้าโรงเรียนและตอนเรียนจบ และคนที่มียศตำแหน่งก็นิยมมาถ่ายภาพตัวเองไปติดบ้าน ร้านถ่ายภาพจะปั๊มนูนชื่อร้านไว้ที่ด้านล่างของภาพสร้าง Brand ที่ชัดเจน

ร้านถ่ายภาพจะเรียกลูกค้าโดยเลือกอัดภาพที่งามๆ คนที่มียศสูงๆ และดาราหรือคนมีชื่อเสียงที่มาถ่ายและขยายเป็นภาพขนาดใหญ่ออกโชว์หน้าร้าน เหมือนกับเป็น Portfolio ของร้าน นี่เป็นการทำ Direct Sales ให้คนผ่านไปมาเห็นและนำไปร่ำลือ และเป็นการสร้าง Word of Mouth Marketing ซึ่งเป็นวิธีการเดียวกับที่ร้านถ่ายภาพ (ทั่วโลก) ใช้กันค่ะ

ช่วงสงครามเวียดนามทหารอเมริกันมาตั้งฐานทัพในไทย ก็เข้าสู่ยุคภาพสี รสนิยมภาพถ่ายเมืองไทยเริ่มทิ้งความเป็นจีนกลายไปเป็นตะวันตกตามภาพในแมกกาซีน

การถ่ายภาพเมืองไทยและทั่วโลกบูมครั้งใหญ่ เมื่อญี่ปุ่นและอเมริกาทำกล้องถ่ายภาพราคาถูกออกขาย คนเป็นเจ้าของกล้องถ่ายภาพส่วนตัวกันมากขึ้น ร้านอัดขยายภาพสีกระจายไปเต็มเมือง คนอาจมาร้านถ่ายภาพเพื่อถ่ายภาพบุคคลเหมือนเมื่อก่อนบ้าง แต่ส่วนใหญ่กลับกลายเป็นลูกค้านำฟิล์มที่ตัวเองถ่ายมาล้างและอัดภาพ

ทำเลทองของร้านบริการถ่ายและอัดภาพเกิดขึ้น โดยจะตั้งที่ที่คนมาเที่ยววันหยุด เช่น สยามสแควร์ สะพานควาย และจุดที่คนแวะผ่านมากๆ เช่น ที่คนต่อรถเมล์ ...จนกระทั่งปัจจุบันไปปักหลักที่ศูนย์การค้า

ร้านอัดภาพต้องแข่งขันกันเข้มข้น ร้านอัดภาพหลายร้านที่เรียงรายอยู่ที่หน้าเซ็นทรัลลาดพร้าว พยายามสร้างความแตกต่างของตัวเองได้น่าศึกษาอย่างยิ่ง บางร้านมีที่จอดรถฟรีให้บริการแก่ลูกค้ามารอรับภาพที่อัด

แต่มีอยู่ร้านหนึ่งที่สร้างความแตกต่างจากร้านอื่นออกไปมาก คือ มีบริการถ่ายภาพ Portrait สำหรับสมัครงานให้ดูดี ร้านจะนำภาพถ่ายตัวอย่างมาแสดงให้เห็นที่หน้าร้าน

สมัยนี้คนเรียนจบมาแล้ว เวลาจะไปสมัครงานจะต้องมี Resume หรือทำ Profile หรือทำ Portfolio  การทำตลาดอย่างนี้น่าสนใจมากค่ะ เพราะเป็นการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่แตกต่างจากร้านอื่นชัดเจนและเร้าใจให้คนกำลังหางานเข้าไปใช้บริการ ยิ่งนานวันขึ้นทางร้านก็เลือกภาพสวยๆ จากลูกค้าที่มาถ่ายมาโชว์ที่หน้าร้านได้มากขึ้น ก็ยิ่งสร้างคุณค่าให้กับผลงานของร้านมากขึ้น

แนวโน้มของธุรกิจการอัดขยายภาพสมัยนี้ จะมีปริมาณไม่เติบโตก้าวกระโดดเหมือนกับสมัยฟิล์ม เพราะคนนิยมเก็บไฟล์ภาพไว้เป็นระบบดิจิทัล ไม่อัดภาพเป็นอัลบั้มเหมือนเมื่อก่อน ก็ต้องหาทางดึงดูดลูกค้ากันอย่างนี้

นี่ไงคะ ที่บอกว่าช่องทางการหารายได้จาก “ภาพ” ในเมืองไทยยังมีอีกเยอะ (อ่านต่อวันศุกร์หน้าค่ะ)

ข่าวล่าสุด

ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบ นักลงทุนรอข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสัปดาห์นี้