เออร์โกกับ ความปลอดภัย
ทุกวันนี้เราจะพบเห็นคำว่า “เออร์โก” มากขึ้นทุกที โดยเฉพาะคำโฆษณาเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านประเภทโต๊ะ เก้าอี้ ตู้ เตียง หรือแม้แต่ปรากฏเป็นคุณสมบัติที่จับต้องได้ในตัวสินค้า เช่น เบาะนั่งรถยนต์ และอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ เพราะการออกแบบสินค้าหรืออุปกรณ์ต่างๆ เหล่านี้มักจะอ้างว่าออกแบบถูกต้องตามหลักเกณฑ์ของ “เออร์โกดีไซน์”
ทุกวันนี้เราจะพบเห็นคำว่า “เออร์โก” มากขึ้นทุกที โดยเฉพาะคำโฆษณาเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านประเภทโต๊ะ เก้าอี้ ตู้ เตียง หรือแม้แต่ปรากฏเป็นคุณสมบัติที่จับต้องได้ในตัวสินค้า เช่น เบาะนั่งรถยนต์ และอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ เพราะการออกแบบสินค้าหรืออุปกรณ์ต่างๆ เหล่านี้มักจะอ้างว่าออกแบบถูกต้องตามหลักเกณฑ์ของ “เออร์โกดีไซน์”
ที่จริงแล้ว คำว่า “เออร์โก” ย่อมาจากคำเต็มว่า“เออร์โกโนมิกส์” หรือ “Ergonomics” ซึ่งแปลเป็นไทยว่า“การยศาสตร์” (ราชบัณฑิตยสถาน) หรือทั่วๆ ไปอาจเรียกขานกันว่า “วิทยาการจัดสภาพงาน”
คำว่า “Ergonomics” มาจากการผสมภาษากรีก 2คำ เข้าด้วยกันคือ “Ergos” แปลว่า งาน (Work) กับ“Nomos” ซึ่งมีความหมายว่า กฎ (Laws) รวมความว่าErgonomics เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ “กฎที่เกี่ยวกับงาน” หรือ “กฎเกณฑ์ของการทำงาน” ก็ว่าได้
กฎ หรือวิทยาการที่ว่านี้ ถูกเริ่มนำมาใช้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 กับงานออกแบบเครื่องบิน เรดาร์ และอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ โดยทีมงานออกแบบที่ประกอบไปด้วยวิศวกร นักจิตวิทยา นักมานุษยวิทยา และนักสรีรวิทยา ต่อมาแนวการออกแบบตามวิทยาการนี้ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มวิชาชีพด้านวิศวกรรมจึงได้มีการบัญญัติศัพท์ขึ้นมาในทำนองเดียวกับ Ergonomics อาทิ Human Engineering, Human Factors Engineering, Engineering Psychology Bioengineering, Biomechanics ซึ่งมีแนวทางการศึกษาเป็นไปในลักษณะเดียวกันคือ เป็นการศึกษาถึงความสัมพันธ์ระหว่างคนกับงาน หรือคนกับเครื่องจักรอุปกรณ์ต่างๆ
การยศาสตร์ (Ergonomics) จึงเป็นแนวความรู้ที่ศึกษากิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์ที่มีความสัมพันธ์กับงาน สภาพงานและสิ่งแวดล้อมในการทำงาน วิทยาการนี้ต้องอาศัยหลักการและข้อมูลจากศาสตร์สาขาต่างๆ เช่น คณิตศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ สรีรวิทยา กายวิภาคศาสตร์ และพฤติกรรมศาสตร์
วัตถุประสงค์ของศาสตร์นี้ ก็เพื่อออกแบบและปรับปรุงสภาพงานและสิ่งแวดล้อมในการทำงานให้เหมาะสมกับผู้ปฏิบัติงาน โดยคำนึงถึงปัจจัยสรีรวิทยา พฤติกรรมและจิตวิทยา และสัดส่วนรูปร่างผู้ปฏิบัติงาน เพราะเมื่องานใดๆ มีความเหมาะสมกับผู้ที่จะปฏิบัติงาน คุณภาพชีวิตในการทำงานที่ดี เป้าหมายหลักของ “การยศาสตร์” ก็จะเกิดขึ้น
การทำให้ผู้ปฏิบัติงานทำงานร่วมกับเครื่องจักรอุปกรณ์และสภาพแวดล้อมได้อย่างเหมาะสม จึงมีความสำคัญทั้งในด้านการเพิ่มผลผลิต และความปลอดภัยในการทำงาน
การจัดสภาพงานและสิ่งแวดล้อมในการทำงานที่ไม่ได้คำนึงถึงปัจจัย ความแตกต่าง และขีดจำกัดของผู้ปฏิบัติงาน นอกจากจะก่อให้เกิดการปฏิบัติงานที่ไม่สะดวกสบาย และไม่มีประสิทธิภาพแล้ว ยังส่งผลถึงระดับความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุและปัญหาสุขภาพอนามัยของผู้ปฏิบัติงานด้วย
ตัวชี้วัดสำคัญที่มีผลมาจากสภาพงานและสิ่งแวดล้อมในการทำงานที่ไม่ถูกหลัก “การยศาสตร์” ก็คือ ความเมื่อยล้า (Fatigue) ความเมื่อยล้านี้ นอกจากจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดการผิดพลาดในการปฏิบัติงาน ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุ และการบาดเจ็บที่เห็นได้ทันทีแล้ว ยังมีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของผู้ปฏิบัติงานในระยะยาวอีกด้วย เช่น ก่อให้เกิดความเบื่อหน่ายในหน้าที่การงาน ปวดศีรษะเรื้อรัง เบื่ออาหารและนอนไม่หลับ เป็นต้น ความเมื่อยล้าที่เกิดในตัวหรือกลุ่มผู้ปฏิบัติงานนี้ จะทำให้ปริมาณผลผลิตและคุณภาพของสินค้าหรือบริการลดลงครับผม!


