ค่าตอบแทนกรรมการแบงก์ยังอู้ฟู่
การประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของธนาคารพาณิชย์ ที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประจำปี 2558
โดย...ทีมข่าวการเงินโพสต์ทูเดย์
การประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของธนาคารพาณิชย์ ที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประจำปี 2558 จะต้องมีการขอมติผู้ถือหุ้นเพื่อจ่ายค่าตอบแทนกรรมการ บางธนาคารอาจเสนอเพิ่มจำนวนกรรมการ บางธนาคารขอมติผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติให้กรรมการเก่าที่หมดวาระกลับเข้าเป็นกรรมการอีกรอบ
จากหนังสือเชิญประชุมผู้ถือหุ้น ธนาคารจะเปิดเผยค่าตอบแทนกรรมการให้ผู้ถือหุ้นรู้แต่ต้นปี โดยมากผู้ถือหุ้นสามารถแสดงความคิดเห็นได้ แต่ส่วนใหญ่เมื่อโหวตขอมติ เสียงส่วนน้อยมักจะแพ้โหวตเสมอ
ในการประชุมผู้ถือหุ้นธนาคารไทยพาณิชย์ มีผู้ถือหุ้นตั้งข้อสังเกตว่า ธนาคารไม่ควรเลือกให้ผลตอบแทนกรรมการตามผลประกอบการ และจำนวนกรรมการของธนาคารปัจจุบันมีมากเกินไป แต่คณะกรรมการธนาคารรับฟังแต่ก็ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำ
ในปีนี้ภาพรวมค่าตอบแทนกรรมการมีการเปลี่ยนแปลงน้อยมาก แม้ผลกำไรของธนาคารมีแนวโน้มเติบโตน้อยลงตามภาวะเศรษฐกิจ ธนาคารส่วนใหญ่ยังคงอัตราค่าตอบแทนเท่ากับปี 2557 และคงที่ติดต่อกันมาราว 3 ปีแล้ว ธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่ยังคงอัตราค่าตอบแทนกรรมการต่อเนื่องไปอีก 1 ปี โดยเห็นว่าเหมาะสมกับภารกิจและสภาพตลาด อาทิ กสิกรไทยคงค่าตอบแทนเกือบ 10 ปีแล้ว ล่าสุดปรับเพิ่มให้กรรมการอิสระที่ปฏิบัติงานเพิ่มขึ้น
อดิศวร์ หลายชูไทย รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารกสิกรไทยเตรียมเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นปรับขึ้นค่าตอบแทนให้แก่คณะกรรมการอิสระ เฉลี่ย 3 หมื่นบาท/คน/เดือน โดยค่าตอบแทนในตำแหน่งประธานกรรมการอิสระ ปรับเป็น 1 แสนบาท/เดือน จากเดิม 7 หมื่นบาท และกรรมการอิสระ ปรับเป็น 7 หมื่นบาท/เดือน จากเดิม 4 หมื่นบาท เนื่องจากกรรมการอิสระมีภารกิจมากขึ้น ต้องประชุมเพิ่มเป็นพิเศษอีกเดือนละครั้งเพื่อพิจารณาในเรื่องสำคัญ
ทั้งนี้ คณะกรรมการอิสระของธนาคารกสิกรไทย เพิ่งตั้งขึ้นเมื่อปี 2556 ตามนโยบายต้องการถ่วงดุลอำนาจการตัดสินใจในเรื่องสำคัญ แต่ปรากฏว่าภารกิจของกรรมการอิสระมีมากกว่าที่ประเมินไว้ จึงเห็นควรให้ปรับขึ้นค่าตอบแทนให้มีความเหมาะสม แต่การปรับขึ้นดังกล่าวถือว่าไม่มาก เมื่อเทียบกับภารกิจของกรรมการอิสระแต่ละท่านที่มีตำแหน่งหน้าที่ในหลายองค์กร แต่ต้องลามาประชุมทุกเดือน และต้องพิจารณาแต่ละเรื่องอย่างเข้มข้น
ส่วนค่าตอบแทนกรรมการคณะอื่นยังคงเดิม มาตั้งแต่ปี 2549 ซึ่งประธานกรรมการ มีค่าตอบแทน 1.54 แสนบาท/เดือน รองประธานกรรมการ 1.15 แสนบาท/เดือน ส่วนผู้ที่เป็นกรรมการธนาคาร มีค่าตอบแทน 1 แสนบาท/เดือน ซึ่งเป็นอัตราที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2551 แต่ค่าตอบแทนกรรมการไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะแต่ละคนเข้าใจบทบาทหน้าที่ตัวเอง
“การพิจารณาว่าจะคงหรือปรับเปลี่ยนค่าตอบแทนหรือไม่ ทางคณะกรรมการทรัพยากรบุคคลและกำหนดค่าตอบแทน จะพิจารณาจากปัจจัยหลัก คือ ภารกิจ หน้าที่ และความรับผิดชอบเพิ่มขึ้นหรือไม่ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ มาประกอบด้วย เช่น ค่าตอบแทนสอดคล้องกับภาพรวมในระบบหรือไม่ หรือไม่ได้ปรับมาเป็นเวลานาน ซึ่งโดยภาพรวมจะดูตามความเหมาะสมในแต่ละปี” อดิศวร์ กล่าว
ด้านธนาคารกรุงไทยปรับเปลี่ยนค่าตอบแทนในปี 2558 โดยพิจารณาจ่ายค่าตอบแทนให้กรรมการที่ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการกิจการสัมพันธ์ โดยจ่ายให้เฉพาะค่าเบี้ยประชุมในอัตรา 3 หมื่นบาท/ครั้งที่เข้าประชุม แต่ไม่เกินเดือนละ 1 ครั้ง ส่วนตำแหน่งอื่นยังไม่เปลี่ยน แปลงจากปีที่แล้ว โดยประธานกรรมการได้ค่าตอบแทน 1.3 แสนบาท/เดือน และกรรมการธนาคารอยู่ที่ 7 หมื่นบาท/เดือน
ขณะที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยามีการเสนอให้ผู้ถือหุ้นอนุมัติค่าตอบแทนแก่คณะกรรมการกำกับนโยบายความเสี่ยงและธรรมา ภิบาล ซึ่งเป็นกรรมการชุดย่อยที่แต่งตั้งขึ้นใหม่ โดยกำหนดค่าตอบแทนประธานคณะกรรมการชุดย่อยนี้ 6.1 หมื่นบาท/เดือน และกรรมการ 5.8 หมื่นบาท/เดือน ขอให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2558 ซึ่งเป็นวันที่แต่งตั้งกรรมการ
ธนาคารทิสโก้ได้ปรับเพิ่มเบี้ยประชุมของประธานคณะกรรมการตรวจสอบจาก 5 หมื่นบาท/การประชุม เป็น 5.5 หมื่นบาท/การประชุม ให้สอดคล้องกับหน้าที่และความรับผิดชอบ หลังจากไม่ได้ปรับมาตั้งแต่ปี 2553


