posttoday

แอพ Claim Di บริการเคลมไวไกลทั่วโลก

20 มีนาคม 2558

โดย...ดวงใจ จิตต์มงคล

โดย...ดวงใจ จิตต์มงคล

ไทยถือเป็นตลาดที่มีการพัฒนาแอพพลิเคชั่นออกมาจำนวนมาก ตามการใช้งานสมาร์ทโฟนที่สูงสุดประเทศหนึ่งในโลก แอพเคลมดิ (Claim Di) เป็นอีกหนึ่งแอพ ภายใต้การพัฒนาของ กิตตินันท์ อนุพันธ์ ผู้ก่อตั้งบริษัท Anywhere to go หนึ่งในทีมที่เข้าร่วมโครงการ Dtac Accelerate ในปี 2557 ที่ผ่านมา มีโอกาสได้เข้าไปนำเสนอผลงานให้กับเวนเจอร์ แคปปิตอล กลุ่มทุนรายใหญ่ อย่าง 500 Startup และ Golden Gate Venture จนเข้าตา 2 นักลงทุนอย่าง ไคลี (Khailee) และ เดฟ (Dave) ที่ตัดสินใจให้เงินร่วมลงทุนจำนวนหนึ่งกับทีม เพื่อนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ในระยะต่อไป

กิตตินันท์ เล่าถึงปัจจัยหลักที่มีผลให้กลุ่มนักลงทุนสนใจร่วมทุนในธุรกิจเทคโนโลยีสตาร์ทอัพของเขานั้น คาดว่ามาจากตัวผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นมาด้วยตัวเอง จากความรู้ความเข้าใจในงานบริการระบบประกันภัยเป็นอย่างดี เห็นได้จากฟีเจอร์ต่างๆ ที่ให้บริการภายในแอพพลิเคชั่น ที่ได้มาจากประสบการณ์ การทำงานในฐานะผู้วางระบบซอฟต์แวร์ด้านการให้บริการประกันภัยมานานกว่า 10 ปี และการนำงานวิจัยมาร่วมใช้กับการทำธุรกิจจริง

ก่อนหน้านี้ เขาได้เป็นผู้พัฒนาระบบซอฟต์แวร์ในงานบริการประกันภัย ที่เรียกว่า “มาเร็ว เคลมเร็ว” บนระบบปฏิบัติการวินโดวส์ เพื่ออำนวยความสะดวกในการประสานงานร่วมกันระหว่างผู้ขับรถ ที่โทรศัพท์ไปยังบริษัทประกันภัยเพื่อติดต่อไปยังพนักงานเคลมประกันภัยของบริษัท หรือเซอร์เวย์เยอร์ ที่จะสามารถทราบตำแหน่งหรือพิกัดของที่เกิดเหตุและมาได้อย่างรวดเร็ว

หลักการทำงานของระบบการบริการดังกล่าว มีการต่อยอดไปสู่การพัฒนาในเวอร์ชั่นรูปแบบแอพพลิเคชั่น ไอ เลิร์ท ยู (I lert u) ที่ผู้ใช้บริการสามารถดาวน์โหลดแอพไว้ และหากเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ ในกรณีที่มีคู่กรณีก็สามารถแนะนำให้ดาวน์โหลดแอพ จากนั้นถ่ายรูปในที่เกิดเหตุขึ้น พร้อมนำสมาร์ทโฟนมาเขย่าหรือการเชก (Shake) ด้วยกัน ก็สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลในที่เกิดเหตุและสามารถแยกย้ายได้ทันที

“ด้วยวิธีการนี้จะช่วยลดขั้นตอนการเคลมประกันบนท้องถนน หรือในจุดที่เกิดเหตุได้เร็วขึ้น ใช้เวลาจนจบกระบวนการไม่เกิน 10 นาที โดยไม่ต้องรอเซอร์เวย์เยอร์ จากเดิมหากเหตุบนท้องถนนอาจจะต้องใช้ระยะเวลาดำเนินการไม่ต่ำกว่า 45 นาที หรือราว 1-3 ชั่วโมง/เคส” กิตตินันท์ กล่าว

ขณะที่แอพเคลมดิ (Claim Di) ยังได้พัฒนาต่อไปอีก เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับบริษัทตัวแทนประกันภัย ในกรณีที่ลูกค้าหรือผู้ขับรถยนต์ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุสามารถดำเนินการแจ้งเคลมได้ด้วยตัวเอง จากการถ่ายรูปต่างๆ ตามขั้นตอนในแอพที่ระบุไว้แล้วจัดส่งไปยังบริษัทประกันภัย เพื่อขอติดต่อรับการซ่อมจากอู่ซ่อม ซึ่งตัวอู่ซ่อมรถก็จะทำการจัดซ่อมตามรายการที่ระบุไว้ และไม่สามารถแอบอ้างรายการซ่อมอื่นๆ เพิ่มเติมเข้าไปอีก เพื่อเรียกเก็บค่าบริการเพิ่มจากบริษัทประกันภัยได้ เป็นต้น

ปัจจุบัน แอพเคลมดิมีพันธมิตรบริษัทประกันภัยที่เข้าร่วมใช้ระบบบริการดังกล่าวแล้ว 15 ราย และอยู่ระหว่างขยายพันธมิตรธุรกิจเพิ่ม ทั้งในส่วนของบริษัทประกันภัย และตัวแทนบริษัทประกันภัย (โบรกเกอร์) ต่างๆ ขณะที่ช่องทางรายได้นั้นจะคิดตามการทำธุรกรรมที่เกิดขึ้นจากการใช้บริการผ่านแอพต่อครั้ง หรืออยู่ที่อัตรา 50 บาท/รายการ เป็นต้น และหากในกรณีที่ทำเคลมไม่สำเร็จก็จะไม่คิดค่าบริการ เป็นต้น

พร้อมกันนี้ บริษัทยังวางแผนขยายการทำตลาดแอพดังกล่าวในระดับภูมิภาคเอเชียด้วยในอนาคต โดยเตรียมแผนเข้าไปทำตลาดในประเทศมาเลเซีย เกาหลีใต้ และไต้หวัน ซึ่งรวมถึงในตลาดกลุ่มประเทศยุโรป โรมาเนีย โดยอาศัยโอกาสที่ทีมได้เข้าร่วมในโครงการ Dtac Accelerate ซึ่งมีบริษัท เทเลนอร์ จากนอร์เวย์ เข้ามาดูแลด้วย

สำหรับปีนี้วางเป้าหมายไว้ภายใน 3 ปี (2557-2559) จะต้องสร้างรายได้รวมไม่ต่ำกว่า 450 ล้านบาท จากในปีที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้ปีละ 20 ล้านราย

ถือเป็นอีกหนึ่งผู้พัฒนาธุรกิจแอพพลิเคชั่นในประเทศไทย ที่คิดค้นและพัฒนาผลงานจนเป็นที่ต้องตาในตลาดโลก รวมถึงโอกาสในการขยายธุรกิจที่กว้างไกลกว่าเดิม

ข่าวล่าสุด

ถ่ายทอดสด 'บิว ภูริพล' นำทัพ วิ่ง 4x100 ชาย ซีเกมส์2025 วันนี้ 15 ธ.ค.68