หัตถศิลป์ฟาร์ม ‘ทานตะวันอ่อน’ ทำเงิน

โดย...ดวงใจ จิตต์มงคล

กระแสการเพาะเห็ดเพื่อทำตลาด ที่มาแรงในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทำให้มีหลายคนตั้งตัวได้จากกิจการเกษตรครัวเรือนเล็กๆ และก็มีเกษตรกรอีกหลายคนที่มองหาช่องทางต่อยอดผลผลิตเดิมที่มีอยู่ไปสู่ธุรกิจสินค้าเกษตรใหม่ เพื่อหนีการแข่งขันที่เริ่มสูงขึ้นในตลาดเดียวกัน

อิทธิกร สุนีศูนย์ เจ้าของ หัตถศิลป์ฟาร์ม ต้นอ่อนทานตะวันครบวงจร ผลิตและจำหน่ายวัตถุดิบการเพาะปลูกต้นอ่อนทานตะวัน จ.สระบุรี ที่เริ่มต้นธุรกิจเกษตรครัวเรือนด้วยการเพาะเห็ดนางฟ้าภูฏาน และเห็ดนางรม ตั้งแต่ 3-4 ปีก่อน โดยใช้พื้นที่บริเวณหลังบ้านสร้างโรงเรือนเพาะเห็ด ทั้งแบบเปิดดอก และวัตถุดิบก้อนเชื้อเห็ด เพื่อทำตลาดในละแวกชุมชน ที่มีกลุ่มลูกค้าจากตลาดสดและทั่วไป มาขอซื้อถึงบ้านที่เป็นหน้าร้านไปพร้อมกัน

หลังจากเพาะเห็ดขายมาระยะหนึ่ง ก็เริ่มมองเห็นช่องทางธุรกิจสินค้าเกษตรใหม่ ด้วยเป็นคนในพื้นที่ จ.สระบุรี และอยู่ติดกับ จ.ลพบุรี ซึ่งเป็นบริเวณที่มีการปลูกต้นทานตะวันจำนวนมากที่สุดในประเทศ บวกกับเห็นแนวโน้มการบริโภคเพื่อสุขภาพที่มาแรงต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเลือกรับประทานผักสดประเภทต่างๆ ซึ่งต้นอ่อนทานตะวันงอกก็ถูกจัดเข้าไปอยู่ในกลุ่มผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง จึงสนใจหันมาทดลองปลูกต้นอ่อนทานตะวันเมื่อปี 2557 ที่ผ่านมา เพื่อทำตลาดทั้งค้าปลีกและค้าส่ง

“ในช่วงแรกที่เริ่มเพาะต้นอ่อนทานตะวันขาย ก็จะใช้ก้อนดินจากการเพาะเห็ดมาใช้ ซึ่งเป็นการรียูสของที่กำลังจะทิ้งกลับมาใช้ใหม่ให้เป็นประโยชน์ ขณะเดียวกันก้อนเชื้อเห็ดที่ไม่ใช้แล้ว ยังนำมาใช้เพื่อเพาะต้นอ่อนทานตะวันได้ดีกว่าการใช้ดินทั่วไปด้วย ซึ่งเป็นที่มาของหัตถศิลป์ฟาร์ม ต้นอ่อนทานตะวันครบวงจร ที่จำหน่ายตั้งแต่วัตถุดิบก้อนดิน เมล็ดทานตะวัน และต้นอ่อนทานตะวัน” อิทธิกร เสริม

สำหรับเมล็ดทานตะวันนั้น ทางฟาร์มจะใช้วิธีรับซื้อจากเกษตรกรผู้ปลูกดอกทานตะวันที่อยู่ในชุมชนรอบๆ ที่นำมาขายให้ โดยปัจจุบันฟาร์มจะมีรายได้หลักมาจากการจำหน่าย 1.เมล็ดทานตะวัน ราว 90% วางราคาขายไซส์ใหญ่อยู่ที่ 85 บาท/กก. ไซส์กลาง 75 บาท/กก. และไซส์เล็กอยู่ที่ 65 บาท/กก.

2.ก้อนดิน จะวางขายที่ราคา 8 ถุง 100 บาท โดย 1 ถุงมีขนาดน้ำหนักราว 3 กก.

3.ต้นอ่อนทานตะวัน วางราคาขายส่งอยู่ที่ 80 บาท/กก. และราคาขายปลีกอยู่ที่ 100 บาท/กก. ซึ่งผลิตภัณฑ์ 2 กลุ่มหลังมีสัดส่วนรายได้ราว 10%

อิทธิกร เสริมว่า แม้รายได้หรือยอดขายหลักในปัจจุบันจะมาจากกลุ่มสินค้าต้นอ่อนทานตะวันแบบครบวงจร แต่ทางฟาร์มก็ยังไม่ทิ้งการเพาะเห็ดเพื่อทำตลาดควบคู่กันไป เพื่อนำวัตถุดิบก้อนดินที่เหลือหลังจากเปิดดอกเห็ดแล้วมาขาย รวมถึงได้ต่อยอดผลผลิตดอกเห็ดไปสู่การแปรรูปเป็นอาหารว่าง หรือ ของขบเคี้ยว (สแน็ก) เห็ดปรุงรสพร้อมบรรจุซองภายใต้แบรนด์หัตถศิลป์ฟาร์ม จำหน่ายราคา 15 บาท ขนาดบรรจุ 50 กรัม มี 4 รสชาติ คือ รสสาหร่ายโนริ รสพิซซ่า รสปาปริกา รสชีส และรสธรรมชาติ ผ่านช่องทางขายร้านอาหารในละแวกชุมชนที่มาซื้อที่บ้านเช่นกัน

แม้จะใช้ชื่อแบรนด์สินค้าหัตถศิลป์ฟาร์ม แต่อันที่จริงแล้วฟาร์มที่ใช้เพาะปลูกผลผลิตทั้งเห็ดและต้นอ่อนทานตะวันนั้น ใช้เนื้อที่หลังบ้านกว่า 3 ตารางวาเท่านั้น เพราะไม่อยากปล่อยให้ที่ดินรกร้างไร้ประโยชน์ ที่ปัจจุบันผันมาเป็นรายได้ยังไม่หักค่าใช้จ่ายอยู่ที่หลัก 2-3 หมื่นบาท/เดือน

ปัจจุบันฟาร์มมียอดขายหลักเกือบ 100% จากการทำตลาดออนไลน์ผ่านเฟซบุ๊กหัตถศิลป์ฟาร์ม ต้นอ่อนทานตะวันครบวงจร ไปพร้อมกับการสร้างชุมชนออนไลน์เพื่อให้ความรู้ด้านต่างๆ กับสมาชิก

จากแนวโน้มผลิตภัณฑ์ต้นอ่อนทานตะวันงอกที่ยังขยายตัวสูง ที่ค่อนข้างพอใจกับรายได้และวิถีทางธุรกิจ จากต้นทุนรอบด้านที่ไม่สูงมากนัก แถมยังได้อยู่ในบ้านเกิด หากเทียบกับธุรกิจอื่นๆ ในเมืองที่จะต้องใช้ทุนเปิดหน้าร้าน หรือทำตลาดเพื่อเข้าช่องทางค้าปลีกสมัยใหม่ที่มีการแข่งขันสูงมาก