posttoday

ศึกชิง‘SSC’ยื้อ

15 มิถุนายน 2553

เป๊ปซี่&บุลสุขดันหุ้น3บาทโอสถานุเคราะห์ขายตามคาด

โพสต์ทูเดย์ — 2 ตระกูลโผล่ บุลสุขโอสถานุเคราะห์สารภาพบิ๊กล็อต 32 ล้านหุ้น ศึกแย่งหุ้นเสริมสุขไม่จบ ราคาหุ้นพุ่งแรง

รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า นายสมชาย บุลสุข และนายฐิติวุฒิ์ บุลสุข พ่อลูก ได้มาหุ้นบริษัท เสริมสุข (SSC) เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา เป็นการได้มาจากนายสุรินทร์ นางสมพร และนายนิติ โอสถานุเคราะห์ จำนวนรวม 32.21 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 29 บาท คิดเป็น 12.11% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว ผ่านบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง

ภายหลังการได้มาส่งผลให้นายสมชายและลูกชายมีหุ้น SSC รวมกัน 14.5% ของที่กลุ่มโอสถานุเคราะห์คงเหลือหุ้นจากการขาย 2.3% เทียบกับการถือหุ้น ณ วันที่ 31 มี.ค. 2553 ก่อนการขายหุ้นถืออยู่รวม 14.44%

นางจารุพรรณ อินทรรุ่ง ผู้อำนวยการสำนักงานเลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า กรณีที่ 2 กลุ่มผู้ถือหุ้น คือ กลุ่มบุลสุขและกลุ่มโอสถานุเคราะห์ซื้อขายหุ้นโดยการซื้อขายรายการใหญ่ (บิ๊กล็อต) 12% นั้น เป็นเรื่องของผู้ถือหุ้นที่เปลี่ยนมือถือหุ้นระหว่างกัน ไม่ถือว่าเป็นการขัดขวางการทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ของกลุ่มเป๊ปซี่ ขณะเดียวกันระหว่างการทำเทนเดอร์ฯ ผู้ถือหุ้นรายย่อยสามารถขายหุ้นบนกระดานได้ หากเห็นว่าราคาเสนอซื้อไม่เหมาะสม

สิ่งที่กฎหมายห้ามก็คือ ตัวบริษัทไปขัดขวางการทำเทนเดอร์เพื่อกีดกันคนทำเทนเดอร์ให้มีต้นทุนเพิ่มหรือเสียงไม่ถึง แต่กรณีเสริมสุขเป็นเรื่องผู้ถือหุ้นที่เปลี่ยนมือถือหุ้นระหว่างกันโดยความพอใจ หรือเป็นเรื่องทางธุรกิจระหว่างกัน ซึ่ง ก.ล.ต. จะไม่เข้าแทรกแซงนางจารุพรรณ กล่าว

นอกจากนี้ สำนักงาน ก.ล.ต. เห็นว่าราคาเสนอซื้อ 29 บาท เป็นเรื่องที่ผู้ทำคำเสนอซื้อเห็นว่าเหมาะสม ถือเป็นเรื่องปกติในการกำหนดราคาสำหรับการทำคำเสนอซื้อที่ไม่ได้มุ่งนำบริษัทออกจากตลาดหลักทรัพย์

สำหรับกรณีการทำคำเสนอซื้อ และมีจุดมุ่งหมายเพื่อนำบริษัทออกจากตลาดหลักทรัพย์ ก.ล.ต.จะเข้าแทรกแซงและพิจารณาหลักเกณฑ์การกำหนดราคาของสำนักงาน ก.ล.ต.ว่าราคาเสนอซื้อเหมาะสมหรือไม่ เพื่อปกป้องนักลงทุนรายย่อย

กรณีการเสนอราคาของกลุ่มเป๊ปซี่ 29 บาท เป็นเรื่องของผู้เสนอซื้อเห็นว่าเหมาะสม ซึ่งผู้ถือหุ้นก็จะมีที่ปรึกษาทางการเงินอิสระช่วยพิจารณาว่าจะขายหุ้นหรือไม่

ขณะที่นายสมชาย บุลสุข กรรมการผู้จัดการและผู้ถือหุ้น บริษัท เสริมสุข กล่าวว่า สาเหตุที่การทำเทนเดอร์ของกลุ่มเป๊ปซี่ไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากนักลงทุนรายย่อยและผู้ถือหุ้นไม่เสนอขายหุ้น โดยเชื่อมั่นการดำเนินงานและผลดำเนินงานของ SSC รวมทั้งที่ปรึกษาการเงิน ให้คำเสนอแนะราคาที่ยุติธรรมเหมาะสมคือ 41 บาท กับผู้ถือหุ้นทั้งหมด เมื่อวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา

ผู้ถือหุ้นทั้งหมดเห็นด้วยกับซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ที่ปรึกษาการเงินอิสระ ที่เสนอราคายุติธรรม 41 บาท จึงไม่ได้ขายหุ้นให้กลุ่มเป๊ปซี่

สำหรับกรณีกลุ่มโอสถานุเคราะห์เสนอขายหุ้น 29 บาท ให้กับกลุ่มบุลสุขเป็นสัดส่วน 12% นั้น เป็นความต้องการของกลุ่มโอสถานุเคราะห์ที่มีความสนิทกับกลุ่มบุลสุข

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์ เปิดเผยว่า การซื้อขายหุ้นของ 2 กลุ่มนี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่าไม่สนับสนุนและขัดขวางการถือหุ้นจำนวนมาก 51% ของกลุ่มเป๊ปซี่ และคาดว่ากลุ่มเป๊ปซี่และกลุ่มบุลสุขจะเข้ามาแย่งเก็บหุ้นบนกระดาน จนส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง

ล่าสุด ราคา SSC ปิดที่ 33 บาท เพิ่มขึ้น 3 บาท ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 94 ล้านบาท

ข่าวล่าสุด

ตำรวจไซเบอร์-ทหาร ถกเข้มชายแดนสระแก้ว เตรียมรับคนไทยจากกัมพูชากลับบ้าน!