posttoday

"วิชัยกุล"เครื่องเขินไทยต่อยอดสินค้าสู่ตลาดไอที

01 ธันวาคม 2557

แปลงโฉมสินค้าหัตถกรรม “เครื่องเขิน” สู่สินค้าที่คนรุ่นใหม่ในกลุ่มไอที

โดย...วราภรณ์ เทียนเงิน

แปลงโฉมสินค้าหัตถกรรม “เครื่องเขิน” ครั้งใหญ่ในรอบกว่า 60 ปีจากสินค้าของใช้ในบ้าน สู่ของใช้ในชีวิตประจำวัน และเข้าสู่สินค้าที่คนรุ่นใหม่ สามารถใช้ได้ ทั้งสินค้าเคสโทรศัพท์มือถือ เคสไอแพด ไปจนถึง ทัมป์ไดร์ฟ

“ชาคริต สุวรรณชมภู” ผู้บริหาร ห้างหุ้นส่วนจำกัด วิชัยกุลเครื่องเขิน (Vichaikul Lacquerware) จาก จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ผมเป็นทายาทรุ่นที่ 7 ของวิชัยกุลเครื่องเขิน และเข้ามาบริหารแบรนด์ประมาณ 5 ปีที่ผ่านมา จึงได้มีการปรับโฉมเครื่องเขินครั้งใหญ่ โดยต้องการสร้างสินค้าเครื่องเขิน เข้าถึงลูกค้าได้ทุกกลุ่ม รวมถึงคนรุ่นใหม่ จากเดิมเครื่องเขิน จะมีลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ที่เป็นแฟนพันธุ์แท้เครื่องเขิน ที่นำไปใช้เป็นของตกแต่งบ้าน ของใช้ในวัด หรือส่งออกไปต่างประเทศ

ดังนั้นเมื่อมีการขยายกลุ่มสินค้าเครื่องเขิน ไปยังสินค้ากลุ่มไอที ทั้งเคสโทรศัพท์มือถือ เคสไอแพด ทัมป์ไดร์ฟ หรือสินค้าไอทีต่างๆ รวมทั้งมีการนำวัสดุโพลีเมอร์มาผสมใช้กับงานไม้ เพื่อให้สินค้ามีความคงทน และมีสีที่ติดทนนาน คงลวดลายไทยไว้ได้ยาวนาน จึงได้สินค้าแต่ละแบบที่มีเอกลักษณ์ และสินค้าในบางรายการมีชิ้นเดียวในโลก

พร้อมกันนี้ กำลังนำเครื่องเงิน และเครื่องหนัง มาผสมในสินค้าเครื่องเขิน เพื่อสร้างสินค้าให้มีรูปแบบหลากหลาย รวมทั้งได้เปิดตัวเครื่องประดับจากเครื่องเขิน ทั้งกำไล และสร้อยคอ ส่งผลให้ลูกค้าต่างชาติชื่นชอบอย่างมาก เพราะมีลวดลายไทยโบราณที่วิจิตร และสินค้าในทุกชิ้นมีการทำด้วยฝีมือคน (แฮนด์เมด) ที่มีการถ่ายทอดการผลิตเครื่องเขินมายาวนาน

เอกลักษณ์ของ วิชัยกุลเครื่องเขิน คือ การลงยางรัก ที่ใช้ยางรัก จากต้นรัก ที่มีอยู่ในธรรมชาติ มาลงในภาชนะของเครื่องเขินที่ทำมาจากไม้ ทำให้เครื่องเขิน มีความทนทาน มีคุณสมบัติกันน้ำ และความชื้น มีความมันวาว ตลอดอายุการใช้งาน ถือเป็นรายเดียวในประเทศไทยที่ใช้ยางรักจากธรรมชาติ และไม่มีสารเคมี มีการวาดลวดลายบนเครื่องเขินที่เป็นลวดลายไทย

“หัวใจของเครื่องเขิน คือ ยางรัก ที่บริษัทเป็นรายเดียว ที่นำยางรัก มาจากต้นรัก มีปลูกใน จ.เชียงใหม่ แตกต่างจากผู้ผลิตเครื่องเขินรายอื่นในประเทศจะนำสารเคมีมาผสม และในขณะนี้กำลังร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ทำศูนย์เรียนรู้ยางรัก ที่ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่”

การขยายตลาดในประเทศ จะมุ่งสื่อออนไลน์ ทั้งการทำแฟนเฟจในเฟสบุ๊ค www.facebook.com/วิชัยกุลเครื่องเขิน และเว็บไซด์ ส่วนตลาดต่างประเทศ จะเข้าร่วมงานแสดงสินค้าเป็นประจำทุกปี โดยมีตลาดส่งออกสินค้าไปในประเทศ สหรัฐ ฝรั่งเศส เยอรมัน และญี่ปุ่น สัดส่วนยอดขายสินค้ามาจากตลาดในประเทศ 70% และส่งออกประมาณ 30% ซึ่งลูกค้าต่างชาติจะนิยมซื้อสินค้ากลุ่มกำไลและเครื่องประดับ

“เดิมเน้นส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ แต่ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ได้ปรับสินค้าเครื่องเขินใหม่ สร้างสินค้าให้เข้าถึงคนรุ่นใหม่มากขึ้น และก็มีสินค้าเครื่องเขินกลุ่มเดิมที่เจาะลูกค้าที่ชื่นชอบแบบเดิมอยู่ ทำให้สัดส่วนตลาดในประเทศเพิ่มขึ้น และอยากให้คนไทยรู้จักสินค้าเครื่องเขินมากขึ้น”ชาคริต กล่าว

ปัจจุบันสินค้าแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มของใช้ เครื่องประดับ และสินค้าไลฟ์สไตล์ต่างๆ โดยการผลิตสินค้าจะมีจำนวนหลายหมื่นชิ้นต่อปี ซึ่งสินค้ากลุ่มกำไล จะมียอดผลิตมากกว่า 1.2 หมื่นชิ้น ราคาสินค้าเริ่มตั้งแต่ 200 บาทไปจนถึงราคาสูงสุดระดับแสนบาท ขึ้นอยู่กับดีไซน์และขนาดสินค้า โดยงานแต่ละชิ้นใช้เวลาผลิตหลายสิบวัน บางรายการใช้เวลานานถึง 6 เดือน เพราะขั้นตอนการลงลวดลาย และลงยางรักจะใช้เวลานานมาก ถือเป็นงานที่มีความประณีตอย่างมาก

ส่วนคู่แข่งในตลาดอาเซียน จะเป็นประเทศเวียดนามและพม่า ที่ใช้สารเคมีในการผลิตสินค้า แตกต่างจากบริษัท ใช้ยางรักตามธรรมชาติ จึงมีความปลอดภัยต่อผู้ใช้ อีกทั้งได้เข้าร่วมโครงการ ล้านนาคอลเลคชั่น ของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เครือข่ายภาคเหนือ จึงได้สร้างสินค้ารุ่น ล้านนา คอลเลคชั่น ส่งผลให้งานมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น และช่วยถ่ายทอดสินค้าที่มีวัฒนธรรมล้านนาสู่ต่างประเทศได้อีกทวีคูณ

“ชาคริต” กล่าวต่อว่า เป้าหมายต่อจากนี้จะขยายตลาดในประเทศ สร้างสินค้าแบบใหม่ เพื่อสืบสานเครื่องเขิน ของไทยให้คงอยู่ในประเทศ และปลุกกระแสให้คนไทยในทุกอายุกลับมาใช้สินค้าเครื่องเขินไทยสูงขึ้น พร้อมกับขยายตลาดส่งออกไปต่างประเทศ เพื่อทำให้สินค้าเครื่องเขินของไทย โดดเด่นในตลาดโลกมากขึ้น

แนวคิดธุรกิจเครื่องเขิน
-ปรับโฉมสินค้าใหม่ ให้คนรุ่นใหม่ใช้สินค้า
-พัฒนาสินค้าเครื่องเขินแบบเดิมให้หลากหลาย
-สืบทอดการผลิตสินค้าเครื่องเขินให้อยู่ในประเทศต่อไป
-สร้างแบรนด์ให้โดดเด่นที่สุด

ข่าวล่าสุด

เปิดแฟ้มครม.9 ธ.ค.68 ลุ้นคนละครึ่งพลัส2 เคลียร์โครงการงบค้างท่อ