posttoday

กฎหมายค้ำประกันจำนอง ฉบับใหม่

13 พฤศจิกายน 2557

สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้ผ่านกฎหมายค้ำประกันและกฎหมายจำนองทรัพย์สินของตนเพื่อประกันหนี้ของบุคคลอื่น ซึ่งกฎหมายฉบับนี้ที่มีการแก้ไขใหม่ รวม 14 ประเด็นสำคัญ จะมีประโยชน์อย่างมากต่อผู้บริโภคและผู้ที่เป็นผู้ค้ำประกัน โดยใช้ตัวเองค้ำประกันหนี้บุคคลอื่น หรือนำที่ดินไปจำนองค้ำประกันหนี้บุคคลอื่น สาระสำคัญของกฎหมายเดิมกับกฎหมายใหม่ ทนายคลายทุกข์ขอนำมาเสนอเปรียบเทียบเฉพาะประเด็นที่สำคัญดังนี้

สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้ผ่านกฎหมายค้ำประกันและกฎหมายจำนองทรัพย์สินของตนเพื่อประกันหนี้ของบุคคลอื่น ซึ่งกฎหมายฉบับนี้ที่มีการแก้ไขใหม่ รวม 14 ประเด็นสำคัญ จะมีประโยชน์อย่างมากต่อผู้บริโภคและผู้ที่เป็นผู้ค้ำประกัน โดยใช้ตัวเองค้ำประกันหนี้บุคคลอื่น หรือนำที่ดินไปจำนองค้ำประกันหนี้บุคคลอื่น สาระสำคัญของกฎหมายเดิมกับกฎหมายใหม่ ทนายคลายทุกข์ขอนำมาเสนอเปรียบเทียบเฉพาะประเด็นที่สำคัญดังนี้

ประเด็นแรก กฎหมายเดิม สถาบันการเงินเจ้าหนี้มักมีข้อตกลงในสัญญาค้ำประกันว่า ผู้ค้ำประกันยอมค้ำประกันหนี้ของลูกหนี้ในอนาคตทุกประเภทสินเชื่อ ทุกวงเงิน ทุกระยะเวลา กฎหมายใหม่ สถาบันการเงินเจ้าหนี้จะมีข้อตกลงแบบเดิมไม่ได้แล้ว เพราะไม่เป็นธรรมกับผู้ค้ำประกัน ซึ่งมีเจตนาเพื่อค้ำประกันหนี้เงินกู้ตามสัญญากู้เท่านั้น และไม่ได้มีความประสงค์ค้ำประกันหนี้อื่นๆ ในอนาคต โดยไม่มีข้อจำกัด และหากมีข้อตกลงดังกล่าว ยกเว้นสิทธิหรือขัดต่อกฎหมาย ก็จะไม่มีผลใช้บังคับเป็นโมฆะ ทำให้ผู้ค้ำประกันตามกฎหมายใหม่ไม่ต้องรับผิดในหนี้ในอนาคตที่ไม่ได้ระบุไว้อย่างชัดเจนในขณะทำสัญญาค้ำประกัน

ประเด็นที่สอง กฎหมายเดิม เมื่อลูกหนี้ผิดนัดเจ้าหนี้สถาบันการเงินทวงหนี้กับผู้ค้ำประกันได้ทันทีในฐานะลูกหนี้ร่วม กฎหมายใหม่ ทำไม่ได้แล้ว ต้องมีจดหมายบอกกล่าวไปยังผู้ค้ำประกันก่อน และต้องให้จดหมายไปถึงผู้ค้ำประกันก่อนจึงจะทวงหนี้ได้ และเมื่อทวงก็ต้องให้เวลาถึง 60 วัน เพื่อให้ผู้ค้ำประกันหาเงินมาชำระหนี้แทนลูกหนี้ ทำให้ผู้ค้ำประกันมีเวลาหายใจมากขึ้น ส่วนประเด็นอื่นๆ อยู่ในหลักการและเหตุผลข้างล่างนี้

หลักการและเหตุผลประกอบร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์(ฉบับที่...) พ.ศ. ...

หลักการ

แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ดังต่อไปนี้

(1) แก้ไขเพิ่มเติมให้การค้ำประกันหนี้ในอนาคตหรือหนี้มีเงื่อนไข ต้องกำหนดรายละเอียดของหนี้หรือขอบข่ายความรับผิดของผู้ค้ำประกัน รวมทั้งจำกัดความรับผิดของผู้ค้ำประกันไว้เฉพาะหนี้ตามสัญญานั้น (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 681)

(2) กำหนดให้ข้อตกลงที่ผู้ค้ำประกันต้องรับผิดอย่างเดียวกับลูกหนี้ร่วมหรือในฐานะเป็นลูกหนี้ร่วมเป็นโมฆะ (เพิ่มเติมมาตรา 681/1)

(3) กำหนดให้ข้อตกลงเกี่ยวกับการค้ำประกันหรือการจำนองที่แตกต่างไปจากบทบัญญัติที่มีไว้ เพื่อคุ้มครองผู้ค้ำประกันหรือผู้จำนองมิให้ต้องรับผิดเกินสมควรเป็นโมฆะ (เพิ่มเติมมาตรา 685/1 และมาตรา 714/1)

(4) แก้ไขเพิ่มเติมหน้าที่ของเจ้าหนี้ในการบอกกล่าวไปยังผู้ค้ำประกัน เมื่อลูกหนี้ผิดนัดและกำหนดผลในกรณีที่เจ้าหนี้ไม่บอกกล่าว รวมถึงให้สิทธิแก่ผู้ค้ำประกันในการชำระหนี้ที่ถึงกำหนดได้ (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 686)

(5) แก้ไขเพิ่มเติมให้ผู้ค้ำประกันได้รับประโยชน์จากการที่เจ้าหนี้กระทำการใดๆ อันมีผลเป็นการลดจำนวนหนี้ให้แก่ลูกหนี้ รวมทั้งกำหนดให้ข้อตกลงที่เป็นการเพิ่มภาระแก่ผู้ค้ำประกันเป็นโมฆะ (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 691)

(6) แก้ไขเพิ่มเติมให้ผู้ค้ำประกันหลุดพ้นจากความรับผิดในหนี้อันมีกำหนดเวลาแน่นอนและเจ้าหนี้ยอมผ่อนเวลาให้แก่ลูกหนี้ และห้ามกำหนดข้อตกลงไว้ล่วงหน้าให้ผู้ค้ำประกันยินยอมที่จะเป็นประกันหนี้นั้นต่อไป แม้ว่าเจ้าหนี้จะผ่อนเวลาชำระหนี้ให้แก่ลูกหนี้แล้ว (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 700)

(7) แก้ไขเพิ่มเติมให้นำมาตรา 691 มาตรา 697 มาตรา 700 และมาตรา 701 มาใช้บังคับเกี่ยวกับกรณีที่บุคคลหลายคนเป็นผู้จำนองทรัพย์สินเพื่อประกันหนี้อันบุคคลอื่นจะต้องชำระด้วยโดยอนุโลม (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 727)

(8) กำหนดให้ผู้จำนองซึ่งจำนองทรัพย์สินของตนไว้เป็นประกันหนี้ของบุคคลอื่นไม่ต้องรับผิดเกินราคา

ทรัพย์สินที่จำนองเมื่อมีการบังคับจำนองหรือเอาทรัพย์จำนองหลุด รวมถึงข้อตกลงที่กำหนดให้ผู้จำนองต้องรับผิดเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดเป็นโมฆะ ยกเว้นกรณีการจำนองทรัพย์สินของตนเพื่อประกันหนี้ของนิติบุคคล (เพิ่มเติมมาตรา 727/1)

(9) แก้ไขเพิ่มเติมขั้นตอนในการบังคับจำนองของผู้รับจำนองให้ชัดเจนขึ้น รวมถึงให้ความคุ้มครองผู้จำนองซึ่งจำนองทรัพย์สินของตนเพื่อประกันหนี้ของผู้อื่น จากกรณีที่ผู้รับจำนองไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 728)

(10) แก้ไขเพิ่มเติมขั้นตอนและเงื่อนไขที่ผู้รับจำนองจะฟ้องคดีต่อศาลเพื่อเรียกเอาทรัพย์จำนองหลุดแทนการขายทอดตลาดให้ชัดเจนขึ้น (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 729)

(11) กำหนดให้สิทธิแก่ผู้จำนองในการแจ้งต่อผู้รับจำนองเพื่อให้มีการขายทอดตลาดทรัพย์สินที่จำนองโดยไม่ต้องฟ้องเป็นคดีต่อศาล (เพิ่มเติมมาตรา 729/1)

(12) แก้ไขเพิ่มเติมระยะเวลาในการบอกกล่าวแก่ผู้รับโอนทรัพย์ ซึ่งจำนองเพื่อให้สอดคล้องกับการแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 728 (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 735)

(13) แก้ไขเพิ่มเติมระยะเวลาในการไถ่ถอนจำนองของผู้รับโอน ตามมาตรา 735 (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 737)

(14) แก้ไขเพิ่มเติมเหตุระงับจำนอง ให้รวมถึงการขายทอดตลาดทรัพย์สินซึ่งจำนองตามมาตรา 729/1 ด้วย (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 744)

เหตุผล

โดยที่บทบัญญัติของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน ยังไม่เพียงพอที่จะคุ้มครองสิทธิและให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ค้ำประกันและผู้จำนองซึ่งมิใช่ลูกหนี้ชั้นต้น แต่เป็นเพียงบุคคลภายนอกที่ยอมผูกพันตนต่อเจ้าหนี้ในการที่จะชำระหนี้แทนลูกหนี้เท่านั้น โดยข้อเท็จจริงในทางปฏิบัติปรากฏว่าเจ้าหนี้ส่วนใหญ่ซึ่งเป็นสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบอาชีพให้กู้ยืม มักจะอาศัยอำนาจต่อรองที่สูงกว่าหรือความได้เปรียบในทางการเงินกำหนดข้อตกลง อันเป็นการยกเว้นสิทธิของผู้ค้ำประกันหรือผู้จำนองตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ หรือให้ผู้ค้ำประกันหรือผู้จำนองต้องรับผิดเสมือนเป็นลูกหนี้ชั้นต้น กรณีจึงส่งผลให้ผู้ค้ำประกันหรือผู้จำนองซึ่งเป็นประชาชนทั่วไปไม่ได้รับความคุ้มครองตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย รวมทั้งต้องกลายเป็นผู้ถูกฟ้องล้มละลายอีกเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้แก่ผู้ค้ำประกันและผู้จำนอง จึงจำต้องตราพระราชบัญญัตินี้

ข่าวล่าสุด

จ่อตั้ง 1 จังหวัด 1 คลินิก 'การแพทย์แม่นยำ' ถอดรหัสพันธุกรรมโรคมะเร็ง-โรคหายาก