โรงแรมพัทยาเบนเป้าปรับรุกกลุ่มคนไทย
วินาทีนี้ต้องยืดอกรับอย่างเต็มภาคภูมิว่านักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่ได้กลับมาเที่ยวไทยมากจนเป็นปกติ
วินาทีนี้ต้องยืดอกรับอย่างเต็มภาคภูมิว่านักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่ได้กลับมาเที่ยวไทยมากจนเป็นปกติ แม้ว่าการเมืองไทยจะสงบลงแล้ว แต่ก็ยังมีอุปสรรคจากปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจในต่างประเทศมาคอยฉุดรั้งให้นักท่องเที่ยวกลับมาได้ไม่เต็มที่ โรงแรมต่างๆ จึงหันมาหวังพึ่งพิงตลาดคนไทย โดยเฉพาะพัทยา จุดหมายท่องเที่ยวหลักที่เคยให้น้ำหนักกับตลาดต่างชาติเป็นหลัก บัดนี้โรงแรมทุกระดับต่างพร้อมใจกันมาเพิ่มสัดส่วนตลาดคนไทยกันราวกับนัดหมาย
มารุต ศรีศุภผล ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด ฮาร์ดร็อค โฮเทล พัทยา เปิดเผยว่า โรงแรมเจาะตลาดระดับบนจึงพบว่า คนไทยที่มีกำลังซื้อสูงกลับมาเที่ยวมากขึ้นหลังการเมืองสงบเป็นตลาดอันดับหนึ่งมีสัดส่วน 30% ของลูกค้าทั้งหมด โดยจะมามากช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ วันหยุดยาว และมีการใช้จ่ายกับบริการในโรงแรมสูงกว่าต่างชาติ ดังนั้น ปีหน้าจะให้ความสำคัญกับตลาดคนไทยมากขึ้น โดยจะเน้นสร้างการจดจำในแบรนด์ ปรับปรุงโรงแรมใหม่ให้รูปลักษณ์โรงแรมดึงดูดกลุ่มคนไทยให้อยากมาพักเพื่อถ่ายรูปแบ่งปันเพื่อนทางสังคมออนไลน์ นอกจากนี้จะใช้งบตลาด 70% ของงบตลาดรวมทางออนไลน์
“ปีนี้เป็นปีที่พิสูจน์ว่าควรมีหลายตลาดผสมผสานในโรงแรม เพราะการไปอิงตลาดต่างชาติใดตลาดเดียว เมื่อเกิดอะไรขึ้นกับประเทศนั้น ยอดการใช้บริการโรงแรมนั้นก็จะหายไปรุนแรง จากที่ทราบมาบางโรงแรมที่เน้นรับตลาดรัสเซีย ซึ่งกำลังมีปัญหาการเมืองลูกค้าหายไปถึง 60% ขณะที่ตลาดคนไทยเป็นตลาดสำคัญมาก โรงแรมในเครือนานาชาติ (อินเตอร์เชน) ล้วนหันมาบุกตลาดคนไทยหมด” มารุต กล่าว
สำหรับกรณีที่รัฐบาลมีมาตรการให้คนไทยนำค่าใช้จ่ายจากการท่องเที่ยวในประเทศ ใช้บริการผู้ประกอบการท่องเที่ยว ถูกกฎหมายมาหักลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาได้ถึงสิ้นปี 2558 นั้น ยังไม่เห็นผลชัดเจน เพราะโรงแรมประเมินไม่ได้ว่าลูกค้าที่มาใช้บริการ นำรายจ่ายไปหักลดหย่อนภาษีหรือไม่ เนื่องจากโรงแรมให้ใบเสร็จกับลูกค้าเป็นปกติอยู่แล้ว และมองว่าภาครัฐอาจยังประชาสัมพันธ์มาตรการนี้น้อยเกินไป
ขณะที่ ชัชวาลย์ ศุภชยานนท์ กรรมการผู้จัดการ โรงแรมดุสิตธานี พัทยา และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สมาคมโรงแรมไทย กล่าวว่า กลุ่มประชุม สัมมนา ที่มาใช้บริการที่โรงแรมมากในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์คิดเป็นสัดส่วน 5060% ของทุกตลาดที่มาใช้บริการ และช่วยให้อัตราเข้าพักเฉลี่ยที่โรงแรม 80% ทรงตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน มองว่าตลาดคนไทยสำคัญมากสำหรับพัทยา แม้ที่ผ่านมามีปัญหาการเมืองไทย โรงแรมพัทยาก็ฝ่ามรสุมมาได้ด้วยตลาดคนไทย เพราะตลาดหลักอย่างเกาหลี จีน รัสเซีย ตอนนี้ลดลงไปมาก
สำหรับปีหน้าโรงแรมก็คงจะให้น้ำหนักตลาดคนไทยมากขึ้นกว่านี้อีก เนื่องจากโรงแรมพึ่งตลาดคนไทยมาตั้งแต่เปิดบริการ โดยเน้นที่ตลาดประชุม สัมมนา ท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล โดยเฉพาะกลุ่มผู้ทำงานในเขตนิคมอุตสาหกรรม แหลมฉบัง มาบตาพุด ให้มาจัดงานที่โรงแรม ขณะที่โรงแรมอื่นในพัทยาก็คงจะให้น้ำหนักตลาดคนไทยมากขึ้นเช่นกัน
สมชัย รัตนโอภาส กรรมการผู้จัดการ กลุ่มโรงแรมเอวัน กล่าวว่า เอวัน สตาร์ ที่เพิ่งเปิดให้บริการครบทั้ง 260 ห้องไม่นานนี้ ให้ความสำคัญตลาดคนไทยมากเป็นสัดส่วน 3040% ของลูกค้ารวม โดยเจาะตลาดคนไทยผ่านตัวแทนจำหน่ายท่องเที่ยวออนไลน์ (โอทีเอ) เป็นหลัก เพื่อให้สอดคล้องพฤติกรรมคนไทยรุ่นใหม่อายุตั้งแต่ 2040 ปี ที่นิยมจองห้องพักทางออนไลน์ ขณะเดียวกันก็ให้ความสำคัญกับตลาดประชุม สัมมนา ท่องเที่ยว เพื่อเป็นรางวัลแก่คนไทยมาก เพราะโรงแรมมีห้องประชุมใหญ่พอรองรับได้ถึง 500 คน
ทั้งนี้ มองว่าพัทยาจะต้องเน้นสร้างกิจกรรมในพื้นที่มากขึ้น เพราะกิจกรรมจะดึงนักท่องเที่ยวไทยได้ดี คนไทยจะรู้สึกว่ามาเที่ยวแล้วมีกิจกรรมที่น่าสนใจด้วย ส่วนกรณีรัฐบาลมีมาตรการนำค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวไปหักภาษีบุคคลธรรมดา โรงแรมยังมองไม่เห็นผลชัด เพราะปกติให้ใบเสร็จกับนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว ซึ่งก็ไม่ทราบว่าจะนำไปลดหย่อนภาษีหรือไม่ แต่เชื่อว่ามาตรการนี้คงจะช่วยการท่องเที่ยวได้บ้าง
ธนากรณ์ ศิวรักษ์ ผู้จัดการทั่วไป ซันบีม โฮเทล ชลบุรี กล่าวว่า ตลาดคนไทยยังมีอนาคตสดใสมาก ปัจจุบันโรงแรมมีลูกค้าคนไทย 60% เพิ่มจากปีก่อน ส่วนปีหน้าตั้งเป้า จะรักษาสัดส่วนคนไทยที่ใช้บริการให้อยู่ในระดับเดียวกับปีนี้
ก่อนหน้านี้ สินธ์ไชย วัฒนศาสตร์สาธร นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา กล่าวว่า 9 เดือน ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาพัทยากว่า 6 ล้านคน ลดลง 3040% จากปีก่อน คาดทั้งปีจะลด 20% จากปีก่อนที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 10 ล้านคน รายได้ 1.05 แสนล้านบาท ส่วนตลาดคนไทย 2.8 ล้านคน ลด 6% จากปีก่อนมี 3 ล้านคน และมีแนวโน้มดีขึ้นหลังการเมืองนิ่ง
จากสถิติที่ออกมาผนวกกับทิศทางที่เอกชนเดิน ต้องถือว่าเอกชนเดินทางมาถูกทางแล้ว เพราะเมื่อตลาดต่างชาติหดตัวไปมาก ก็มีแต่ตลาดคนไทยที่ดึงกลับมาได้เร็วที่สุด และช่วยให้ธุรกิจคึกคักได้เร็วกว่าการรอความหวังจากคนแดนไกล


