posttoday

ความสำคัญของการตัดขาดทุน (Cut Loss)

06 พฤศจิกายน 2557

ตลาดหุ้นทั่วโลกได้ปรับตัวลดลงค่อนข้างรุนแรง ซึ่งถือว่าเป็นการปรับตัวพร้อมๆ

ตลาดหุ้นทั่วโลกได้ปรับตัวลดลงค่อนข้างรุนแรง ซึ่งถือว่าเป็นการปรับตัวพร้อมๆ กันครั้งแรกในรอบปีนี้ โดยในส่วนของตลาดหุ้นไทยมีการคาดการณ์จากนักวิเคราะห์จากหลายแห่ง โดยให้ความเห็นที่หลากหลายว่า ตลาดหุ้นกำลังอยู่ในช่วงปรับฐานโดยอาจจะลงไปแตะที่ระดับ 1,500 จุด อีกทั้งยังมีเรื่องของตัวเลขทางเศรษฐกิจของประเทศยักษ์ใหญ่ทั้งหลายที่ประกาศออกมาในระดับที่ไม่ดีตามที่ตลาดได้คาดการณ์ไว้ โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มยูโรโซน สิ่งเหล่านี้อาจจะทำให้นักลงทุนหลายๆ ท่านเริ่มกังวลกับพอร์ตการลงทุนของตนเองอยู่ ดังนั้นจึงขอนำเสนอการตัดขาดทุน (Stop Loss) เพื่อจำกัดวงเงินการสูญเสียเงินทุนเริ่มต้น

โดยปกติของการลงทุนในหุ้น นอกจากการเลือกลงทุนในหุ้นที่ดีและการกำหนดจุดเข้าซื้อหรือขายออกในช่วงเวลาที่เหมาะสมแล้ว การพิจารณาเพื่อจำกัดความสูญเสียเงินต้นถือว่ามีความสำคัญไม่แพ้กัน แต่นักลงทุนหลายๆ ท่านอาจจะละเลยจุดนี้ไป อาจเป็นเพราะกลัวการขาดทุนหรือไม่ได้คาดการณ์ไว้ตั้งแต่แรกว่าจะมีการขาดทุนเกิดขึ้นจากการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ตลาดหุ้นเป็นช่วงขาลง การตัดขาดทุนจะเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เนื่องจากไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าราคาหุ้นที่ถืออยู่จะปรับลดลงถึงระดับใด แม้หุ้นที่เลือกมาลงทุนจะเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดีแล้วก็ตาม แต่โดยส่วนใหญ่ธรรมชาติของการลงทุนในหุ้นจะมีความผันผวนไปตามสภาวะตลาดในขณะนั้น

การตัดขาดทุนคือรักษาเงินต้นให้มีความสูญเสียน้อยที่สุด ท่ามกลางความผันผวนของตลาดหุ้น เนื่องจากหากผู้ลงทุนปล่อยให้ระดับราคาหุ้นปรับตัวลดลงไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่ทำการตัดขาดทุน ผู้ลงทุนอาจขาดวิจารณญาณที่ดีในการตัดสินใจลงทุนในครั้งต่อไป เนื่องจากผลขาดทุนที่เกิดขึ้นมีความสูญเสียเกินกว่าระดับที่สามารถยอมรับได้ เพราะโอกาสในการสร้างผลตอบแทนให้กลับมาในจำนวนเท่าเดิมจะยากขึ้นดังในตารางด้านล่าง

จากตาราง จะเห็นได้ว่าหากซื้อหุ้นที่ราคา 100 บาท และถือไว้จนราคาตกมาอยู่ที่ 50 บาท จะขาดทุน 50% และการที่หุ้นราคา 50 บาท จะกลับไปที่ 100 บาท หุ้นตัวนั้นจะต้องขึ้น 100% แต่ถ้าตัดขาดทุนที่ราคา 95 บาท ซึ่งขาดทุนเพียง 5% การที่จะนำเงิน 95 บาท ไปลงทุนใหม่อีกครั้งเพื่อให้กลับมาเป็น 100 บาท จะต้องการผลตอบแทนเพียง 5.26%

อย่างไรก็ดี จุด Cut Loss ที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับผู้ลงทุนแต่ละท่าน ซึ่งผู้ลงทุนควรพิจารณาความคุ้มค่าของผลตอบแทนที่ได้รับควบคู่กับความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนยอมรับได้ เพื่อกำหนดจุด Cut Loss ยกตัวอย่าง หากนักลงทุนคาดหวังผลตอบแทนที่ระดับ 15-20% ของการลงทุน ผู้ลงทุนควรกำหนด จุดตัดขาดทุนที่รับได้ (Cut Loss) ที่ระดับ 7-10% ของเงินลงทุน

ข่าวล่าสุด

ป.ป.ส. ผนึก DEA สหรัฐฯ เตรียมจัดประชุม Regional IDEC 2026 ที่เชียงราย