posttoday

นบข.อนุมัติเพิ่มวงเงินจำนำยุ้งฉางเป็น90%

24 ตุลาคม 2557

นบข.อนุมัติขยายสินเชื่อชะลอขายข้าวมะลิและข้าวเหนียวเป็น 90% จ่ายเงินจูงใจดูแลคุณภาพข้าวอีกตันละ1,000บาท

นบข.อนุมัติขยายสินเชื่อชะลอขายข้าวมะลิและข้าวเหนียวเป็น 90% จ่ายเงินจูงใจดูแลคุณภาพข้าวอีกตันละ1,000บาท  

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการข้าว (นบข.) ที่มีพลอ.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ครั้งที่4/57 ได้อนุมัติปรับปรุงโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนา ปีการผลิต 2557/58  โดยได้ปรับวงเงินที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) จะให้สินเชื่อเพื่อชะลอการขยายข้าวฯ จากเดิม 80% ของราคาเป้าหมาย เป็น 90% ของราคาเป้าหมาย สำหรับข้าวหอมมะลิที่มีราคาเป้าหมายที่ 16,000 บาทต่อตัน ข้าวเหนียว 13,000 บาทต่อตัน
                
ทำให้วงเงินสินเชื่อที่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับจะอยู่ที่ 14,400 บาทต่อตันสำหรับข้าวหอมมะลิ และ 11,700 บาทต่อตันสำหรับข้าวเหนียว 
                
นอกจากนี้ ยังได้อนุมัติมาตรการเพิ่มเติมคือการให้เงินสำหรับดูแลคุณภาพข้าวที่เข้ารวมโครงการตันละ 1,000 บาท เมื่อรวมกับวงเงินสินเชื่อแล้วชาวนาจะได้รับเงิน 15,400 บาทต่อตันสำหรับข้าวหอมมะลิ และ 12,700 บาทต่อตัน
                
พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า ในที่ประชุมครั้งนี้ไม่ได้มีการหารือเรื่องการระบายข้าวในสต๊อกรัฐ เนื่องจากยังต้องรอผลการตรวจสอบของคณะอนุกรรมการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวคงเหลือของรัฐที่มีมล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งขณะนี้ตรวจสอบไปได้ 95% ส่วนอีก 5% ไม่น่าจะเกินกลางเดือนพ.ย. จะทราบจำนวนสต๊อกทั้งหมดได้
               
“ประธาน นบข. ได้ย้ำว่า ให้ดำเนินการเรื่องนี้ให้รอบคอบโดยไม่ให้ขัดต่อกฎหมายและไม่กระทบต่อข้าวฤดูกาลใหม่ที่จะเข้ามา เพื่อไม่ให้กระทบกับราคา” พล.อ.ฉัตรชัย กล่าว
                
นางสาวชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า  โครงการนี้จะรับข้าวที่เข้าโครงการเฉพาะข้าวหอมมะลิและข้าวเหนียวเท่านั้น เพราะข้าวขาวได้มีมาตรการช่วยเหลือไปก่อนหน้านี้แล้ว สำหรับเกษตรกรที่สนใจจะเข้าร่วมโครงการต้องขึ้นทะเบียนกับ ธ.ก.ส. ส่วนที่คนที่ไม่มียุ้งฉางก็ให้ขึ้นทะเบียนกับสหกรณ์ โดยสามารถเข้าร่วมโครงการได้ไม่เกินรายละไม่เกิน 20 ตัน หรือสินเชื่อไม่เกิน 3 แสนบาทต่อราย โดยมีเป้าหมายที่จะมีข้าวเข้าร่วมโครงการทั้งหมด 2 ล้านตัน  ซึ่งหากมีความต้องการเข้าร่วมโครงการสูงกว่านี้จะต้องนำเรื่องเข้าให้ นบข. อนุมัติอีกครั้ง
                
สำหรับระยะเวลาดำเนินโครงการจะเริ่มตั้งแต่ 1 พ.ย. 2557- 28 ก.พ. 2558 ซึ่งเป็นระยะเวลา 4 เดือน ซึ่งเป็นช่วงที่ข้าวฤดูเก็บเกี่ยว 2557/2558 จะเข้าสู่ระบบซึ่งโครงการสินเชื่อเพื่อชะลอการขายข้าวนี้จะช่วยพยุงราคาข้าวไม่ให้ตกลงไป 
                
สำหรับอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อตามโครงการนี้ ธ.ก.ส. จะคิดจากเกษตรกรที่ 0% เพราะรัฐบาลจะเข้าไปรับภาระดอกเบี้ยนั้นแทนที่อัตรา 3% ส่วนว่ารัฐบาลจะต้องจ่ายเงินชดเชยดอกเบี้ยเท่าไรนั้นยังไม่สามารถคำนวณได้เพราะยังไม่ทราบว่าจะมีเกษตรกรเข้ามาร่วมโครงการมากน้อยเพียงใด
               
“ถ้าระหว่าง 4 เดือนตลอดระยะเวลาของโครงการ ราคาข้าวปรับตัวสูงขึ้นชาวนาก็สามารถขายข้าวได้ แต่ถ้าราคาไม่ขึ้นก็ปล่อยข้าวเหมือนขายให้ ธ.ก.ส. ซึ่งรัฐจะเป็นผู้ดูแลนำไปขายต่อไป”  นางสาวชุติมา กล่าว
                 
ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า  ไม่มีความกังวลว่า ธ.ก.ส.จะมีกำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอสำหรับการออกไปตรวจสต๊อกข้าวในยุ้งฉางเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ เพราะว่า ธ.ก.ส.ทำโครงการนี้มาตลอดเพิ่งมาไม่ได้ทำในช่วงที่มีโครงการรับจำนำข้าวเท่านั้น ซึ่งที่ประชุม นบข. ก็ได้สั่งให้ ธ.ก.ส.ไปเตรียมการเพื่อรองรับโครงการนี้แล้ว
                
อย่างไรก็ตาม ยังมีมาตรการช่วยเหลือสำหรับต้นทุนการเก็บเกี่ยวให้เกษตรกรอีกโดยจะเริ่มต้นวันที่ 1 พ.ย. นี้เช่นเดียวกันคือ ธ.ก.ส.จะให้สินเชื่อที่ 2,000 บาทต่อตัน อัตราดอกเบี้ย 0% ระยะเวลาชำระหนี้ภายใน 2 เดือน ซึ่งส่วนนี้รัฐบาลจะเป็นอุดหนุนดอกเบี้ยเช่นเดียวกัน  ซึ่งยังไม่สามารถคาดได้ว่าจะต้องใช้เงินเท่าไรเช่นกัน เพราะยังไม่ทราบจำนวนเกษตรรที่จะเข้าร่วมโครงการ
                
นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า  การอนุมัติให้มีการจำนำยุ้งฉ่างครั้งนี้ เพื่อเป็นการดูดซับปริมาณข้าวออกจากตลาด และเป็นการดันให้ราคาข้าวหอมมะลิขยับให้ได้ เฉลี่ยอยู่ที่ 15,000-16,000 บาทต่อตัน และข้าวเหนียวอยู่ที่  13,000  บาทต่อตัน แต่วิธีการนี้จะใช้ได้กับข้าว 2 ชนิด คือ ข้าวหอมมะลิ และข้าวเหนียว เพราะชาวนาทางภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มียุ้งฉางเป็นของตัวเอง สามารถเก็บข้าวไว้ได้ ซึ่งเชื่อว่า ปริมาณผลผลิตข้าวที่ออกในช่วงฤดูกาลนี้จะอยู่ที่ 6-7 ล้านตันข้าวเปลือก ส่วนกรณีข้าวขาว ที่ประชุมหารือโดยเน้นให้มีการเร่งระบายข้าวให้ได้มากที่สุด ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการดำเนินการระบายข้าวไปบ้างแล้ว
               
ทั้งนี้ รอลุ้นว่าทางฟิลิปปินส์ จะทำการเปิดประมูลข้าวอีกหรือไม่ ถ้าหากไทยมีการเร่งระบายข้าวออกมา เชื่อว่าข้าวเปลือกจะขยับราคาดีขึ้น โดยขณะนี้ราคาข้าวขาวเฉลี่ยอยู่ที่ 8,000 บาทต่อตัน และแนวโน้มจะขยับขึ้นอยู่ที่ 8,500 บาทต่อตันได้ ส่วนกรณีการระบายข้าว 2 แสนตัน ที่ประสบว่ามีการขาดทุน ไม่ต้องการให้มองเพียงระยะสั้น แต่ต้องการให้มองในภาพรวมว่าการที่ข้าวออกนอกประเทศ จะทำให้ราคาในตลาดปรับตัวดีขึ้น

ข่าวล่าสุด

LIVE ถ่ายทอดสด สเปอร์ส พบ ลิเวอร์พูล พรีเมียร์ลีก วันนี้ 20 ธ.ค.68