Craft Shop แหล่งช็อปคนรักหัตถกรรม
ปัจจุบันงานศิลปหัตถกรรมของไทยเริ่มเป็นที่ยอมรับและดึงดูดความสนใจทั้งจากชาวต่างชาติและชาวไทยเองได้มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะว่างานศิลปหัตถกรรมมิได้เป็นแค่เพียงสินค้าสำหรับอุปโภคหรือบริโภคเท่านั้น หากแต่ยังเป็นกลุ่มสินค้าที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจของคนไทยที่บอกเล่าเรื่องราวมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าจากรุ่นสู่รุ่น แต่ใช่ว่าสินค้ากลุ่มดังกล่าวจะไม่ประสบปัญหาในการทำธุรกิจนะครับ วันนี้ Hi Crafts มีอีกหนึ่งมุมมองของงานศิลปหัตถกรรมไทยมาฝากครับ
ปัจจุบันงานศิลปหัตถกรรมของไทยเริ่มเป็นที่ยอมรับและดึงดูดความสนใจทั้งจากชาวต่างชาติและชาวไทยเองได้มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะว่างานศิลปหัตถกรรมมิได้เป็นแค่เพียงสินค้าสำหรับอุปโภคหรือบริโภคเท่านั้น หากแต่ยังเป็นกลุ่มสินค้าที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจของคนไทยที่บอกเล่าเรื่องราวมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าจากรุ่นสู่รุ่น แต่ใช่ว่าสินค้ากลุ่มดังกล่าวจะไม่ประสบปัญหาในการทำธุรกิจนะครับ วันนี้ Hi Crafts มีอีกหนึ่งมุมมองของงานศิลปหัตถกรรมไทยมาฝากครับ
ที่ผ่านมา Hi Crafts ได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกับผู้ผลิตและผู้ประกอบการงานศิลปหัตถกรรม จึงได้รับทราบถึงปัญหาที่เรียกว่าเป็นปัญหาหนักอกของคนหัตถกรรมเลยก็ว่าได้ ซึ่งได้แก่ ปัญหาด้านการตลาดและช่องทางการจัดจำหน่าย ใช่ครับ ถึงแม้ผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมจะมีความได้เปรียบในด้านตัวสินค้า แต่กลับประสบปัญหาการเข้าถึงลูกค้าและปัญหาเหล่านั้นได้มาสู่กิจกรรมดีๆ ที่ Hi Crafts นำมาฝากผู้อ่านในวันนี้ครับ
การขยายช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ ศ.ศ.ป. ได้ให้ความสำคัญมาโดยตลอด ผ่านช่องทางการตลาดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าภายในประเทศและต่างประเทศ และการจำหน่ายสินค้าผ่าน 3 จุดจำหน่าย ได้แก่ ห้างอัมรินทร์พลาซ่า สนามบินสุวรรณภูมิ และศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ
สำหรับในปี 2557 ช่องทางการจำหน่ายที่จะใช้เป็นกลไกสำคัญในการขยายตลาดงานศิลปหัตถกรรมคือการใช้ประโยชน์จากร้านค้าหัตถกรรมที่ดำเนินการโดยภาคเอกชน ซึ่ง Hi Crafts มองว่าวิธีนี้เป็นการพัฒนาช่องทางการจำหน่ายที่ยั่งยืนอีกช่องทางหนึ่ง กล่าวคือร้านค้าก็ต้องพัฒนาร้านและปรับเปลี่ยนรูปแบบและประโยชน์ใช้สอยของสินค้าที่จะนำเข้ามาจำหน่ายในร้านให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงและความต้องการของลูกค้า ในขณะที่ผู้ผลิตและผู้ประกอบการก็ต้องหันมาใส่ใจกับเรื่องของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เข้ากับตลาดได้
เรียกได้ว่าเป็นการพัฒนาแบบครบวงจรโดยแท้จริง การริเริ่มโครงการส่งเสริมร้านค้าหัตถศิลป์ไทย ภายใต้แนวคิด “Craft Villa wisdom of Siam” ที่เน้นกิจกรรมเพิ่มความเข้มแข็งด้านการตลาดขยายช่องทางการตลาดแบบถาวรให้กับสมาชิกผู้ผลิต กระตุ้นให้เกิดการซื้อขาย เกิดธุรกิจที่ยั่งยืนและเติบโตได้ และเชื่อมโยงเครือข่ายร้านค้าหัตถกรรมเอกชนกับผู้ผลิต โดยสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับข้อมูล ความรู้ ความต้องการทางการตลาดอย่างต่อเนื่องและใกล้ชิดกับร้านค้า
Hi Crafts มองว่าการส่งเสริมการจำหน่ายผลิตภัณฑ์หัตถศิลป์ไทยผ่านเครือข่ายร้านค้าเอกชนนอกจากจะส่งผลต่อการขยายธุรกิจการค้างานศิลปหัตถกรรมไทยแล้ว ยังเป็นการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ และตัวผลิตภัณฑ์ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกับความต้องการของตลาดด้วย ตัวอย่างร้านค้าที่เข้าร่วมในกิจกรรมนี้ อาทิเรามาดูกันครับว่าว่าหน้าตา และผลิตภัณฑ์ในร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการเป็นอย่างไร และน่าสนใจเพียงใด
ร้านค้าตัวอย่างที่ Hi Crafts จะแนะนำให้รู้จักในวันนี้ เป็นร้านค้ากลุ่มหนึ่งในร้านค้าจำนวนมากที่จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทย แต่จุดเด่นของกลุ่มร้านค้าที่ Hi Crafts จะหยิบยกมาเล่าให้ผู้อ่านฟังนั้นล้วนเป็นร้านค้า ที่จะช่วยให้เกิดการเชื่อมโยงเครือข่ายการผลิตกับเครือข่ายการค้าหัตถศิลป์ไทยอย่างเป็นรูปธรรม กล่าวคือ เป็นตัวอย่างร้านค้าที่ผู้ผลิตจะต้องมีการปรับปรุงและพัฒนารูปแบบสินค้าให้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค ไปพร้อมๆ กับการที่ร้านค้าเองก็พัฒนาศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ ภาพลักษณ์ร้านค้า การจัดวางสินค้า และการพัฒนาสื่อการขายที่เหมาะสม เช่นกัน
1.“พันธ์สุข ฟู้ด แอนด์ ฟาร์ม” อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี สถานที่แวะพัก ช็อป ชิม ชิล ภายใต้คอนเซปต์ “สาระพันความสุข” ได้รวมความสุขทุกอย่างไว้ในที่เดียว จึงไม่ได้เป็นเพียงที่เที่ยวใหม่ของ อ. ชะอำ แต่ยังเป็นทั้งที่กินและที่ ช้อปปิ้งอีกด้วย โดยมีของที่ระลึกและของฝากจากจังหวัดเพชรบุรี ให้นักท่องเที่ยวได้ช้อปปิ้งไปฝากครอบครัว อีกทั้งทางร้านค้ายังมีการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อ ทำให้ร้านค้าเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี มีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องในแต่ละเทศกาล มีสินค้าและบริการที่หลากหลายตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ค่อนข้างครบวงจร
2.คีรีไหมไทย เป็นร้านค้าจำหน่ายผ้าไหมและผลิตภัณฑ์จากผ้าไหมตั้งอยู่ในเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ โกดัง 2 ตรอก 1 ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ทำให้สร้างโอกาสที่ดีในการประชาสัมพันธ์ร้านค้าในโครงการร่วมกับการประชาสัมพันธ์ของสถานที่หลัก สินค้าภายในร้านมีความหลายหลาย ตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวต่างชาติได้ค่อนข้างครบถ้วน
3.ร้านลูกโดดเป็นร้านค้าปลีกส่งที่ใหญ่และถูกที่สุดในเมืองพัทยามีสินค้าให้เลือกมากกว่า 3,000 รายการ ทั้งงานหัตถกรรมและสินค้าภูมิปัญญาชาวบ้านเช่น เฟอร์นิเจอร์ไม้สัก, สินค้าแกะสลักด้วยมือ, ของที่ระลึก, สินค้าตกแต่งบ้าน ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีบริการส่งสินค้าฟรีในเขตเมืองพัทยา และรับส่งสินค้าออกทั่วโลก ทั้งยังเป็นจุดแวะรถสำหรับลูกค้าทัวร์ ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติอีกด้วย ทำเลที่ตั้งดี อยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวบริเวณพัทยากลาง และพัทยาเหนือ ในแต่ละวันจะมีจำนวนลูกค้าแวะเวียนเข้ามาในร้านอย่างต่อเนื่อง
4. ร้าน Thaniya ตั้งอยู่ที่ ชั้น 3 Terminal 21 เป็นร้านจำหน่ายเทียนหอม เครื่องหอม Natural soy wax Ceramic Candles หรือเทียนหอมจากถั่วเหลืองพร้อมบรรจุในบรรจุภัณฑ์สวยๆ ซึ่งเป็นงานฝีมือที่มีสไตล์ และกลิ่นอายความเป็นไทย เหมาะกับการนำไปตกแต่งบ้าน หรือเป็นของที่ระลึกได้ และนอกจากนี้ ร้าน Thaniya ยังมีอีกหนึ่งสาขาอยู่ที่ Central Plaza สมุย จ.สุราษฎร์ธานี อีกด้วย
5.ดาษดาแกลอรี่ & รีสอร์ท เขาใหญ่ (Dasada Gallery & The Flower Es’senses Resort Khaoyai)คือ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวโดดเด่นของ จ.ปราจีนบุรี ที่พร้อมจะนำเสนอประสบการณ์สุดแสนพิเศษแห่งความสดชื่นและความสวยงาม มีการจัดกิจกรรมในเทศกาลต่างๆ อย่างต่อเนื่อง และเร็วๆ นี้จะมีการจัดงานเทศกาลดอกไม้เมืองหนาวประจำปี ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมตั้งแต่ 5 ธันวาคม 2557 1 มีนาคม 2558 ซึ่งจะมีการออกร้านขายสินค้าจากงานฝีมือชุมชน งานหัตถกรรมต่างๆ
6. ร้าน busaba สินค้าไทยร่วมสมัย เมื่อผ้าขาวม้าที่ในอดีตเคยใช้ในชีวิตประจำวันของคนไทยทั้งนุ่งอาบน้ำ โพกหัว พาดบ่า คาดเอว แถมคุณแม่ลูกอ่อน ยังเอามาทำเปลกล่อมลูกน้อยกลอยใจให้หลับสบายเพลินๆ ร้านบุษบา ได้นำผ้าขาวม้าสกอตไทยสีสันสดใสมาพัฒนาและแปรรูป ด้วยการนำผ้าขาวม้าดั้งเดิมของไทยเพิ่มความทนทาน กันเปียก และนำมาผลิตเป็นสินค้าที่ทันสมัยในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นกรอบไอโฟน กระเป๋าไอแพด กระเป๋าแฟชั่น มากฟังก์ชั่นการใช้งาน ทำให้ผ้าขาวม้า ผ้าภูมิปัญญาไทยสาระพัดประโยชน์ กลับมาผูกพันกับวิถีคนไทยอีกครั้ง อีกทั้งร้านค้ายังมีสินค้ามากมาย มีการตกแต่งร้านค้าที่เน้นความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยลายผ้าขาวม้า สร้างความโดดเด่นและเป็นที่สนใจแก่ผู้พบเห็น
เตรียมพบการเปลี่ยนแปลงของทั้ง 6 ร้านค้า และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนงานศิลปหัตถกรรมไทยผ่านร้านค้าหัตถศิลป์ไทยทั้ง 6 ร้าน แล้วพบกันครับ


