ดันนิคมมาบตาพุดเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศน์ปี2560
สมาคมเพื่อนชุมชนดึง 42 โรงงานนำร่องเป็นโรงงานเชิงนิเวศน์ภายใน 3 ปีข้างหน้า ก่อนผลักดันนิคมฯมาบตาพุดเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศน์ปี 2560
สมาคมเพื่อนชุมชนดึง 42 โรงงานนำร่องเป็นโรงงานเชิงนิเวศน์ภายใน 3 ปีข้างหน้า ก่อนผลักดันนิคมฯมาบตาพุดเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศน์ปี 2560
นายชลณัฐ ญาณารณพ นายกสมาคมเพื่อนชุมชน เปิดเผย ในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 5 ของสมาคมเพื่อนชุมชนว่า 5 กลุ่มบริษัทผู้ร่วมก่อตั้งสมาคมเพื่อนชุมชนได้ประกาศจับมือร่วมกันเพื่อปรับเปลี่ยนทุกโรงงานในกลุ่มสมาชิกที่มีอยู่ 42 แห่ง ให้เป็นต้นแบบโรงงานเชิงนิเวศ(Eco Factory) แห่งแรกของไทยภายในปี 2560 ซึ่งให้ความสำคัญกับการประกอบกิจการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกองค์กร อย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายผลักดันให้นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยองเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ(Eco Industrial Town) ภายในปี 2561
ทางสมาคมเพื่อนชุมชนได้นำหลักเกณฑ์โรงงานเชิงนิเวศน์ ที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)พัฒนาขึ้นและได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) และกรมโรงงานอุตสาหกรรม มาใช้ปรับเปลี่ยนกับ 42 โรงงานในกลุ่มสมาชิกผู้ก่อตั้งสมาคมฯ ทั้ง หมด ภายในปี 2558จากนั้น จะขยายความร่วมมือไปยังโรงงานของสมาชิกสมทบ และโรงงานอื่นๆ ในมาบตาพุดที่มีโรงงานอยู่ทั้งหมด120 แห่งขณะเดียวกันส่งเสริมให้เกิดต้นแบบชุมชนเชิงนิเวศ(Eco Community) และโรงเรียนเชิงนิเวศ (Eco School) ด้วย
สำหรับกรอบการดำเนินการตามแนวทางโรงงานเชิงนิเวศน์ ประกอบด้วยเกณฑ์การประเมินทั้งหมด14 ด้าน ได้แก่ 1.การใช้วัตถุดิบ2.การใช้พลังงาน 3.การจัดการด้านขนส่งและโลจิสติกส์ 4.ห่วงโซ่อุปทานสีเขียว5.การจัดการพื้นที่และภูมิทัศน์สีเขียว 6.การจัดการสารเคมีและวัตถุอันตราย 7.การจัดการน้ำและน้ำเสีย8.การปล่อยก๊าซเรือนกระจก 9.การจัดการมลภาวะทางอากาศ 10.การจัดการกากของเสีย11.ความปลอดภัยและสุขภาพของพนักงาน 12.ความหลากหลายทางชีวภาพ13.การสร้างอาชีพและกระจายรายได้ให้กับชุมชน และ 14.การเปิดเผยข้อมูลและรับผิดชอบต่อชุมชนโดยรอบ
การก้าวเข้าสู่เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ คือการพัฒนาเศรษฐกิจของทั้งภาคอุตสาหกรรมและภาคชุมชน ควบคู่กับการดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยคำนึงถึงการดำรงอยู่ของวิถีสังคม และวัฒนธรรม ให้อยู่แบบยั่งยืน โดยภาคอุตสาหกรรมดำเนินงานด้วยการคำนึงถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ควบคู่ไปกับการดูแลใส่ใจชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมให้สามารถอยู่ร่วมกับอุตสาหกรรมได้
ปัจจุบันบริษัทสมาชิกผู้ก่อตั้สมาคมฯ 5 บริษัท ได้แก่ 1. กลุ่มปตท. 2. กลุ่มปูนซิเมนต์ไทย(เอสซีจี) 3. กลุ่มบริษัทดาวประเทศไทย 4. โรงไฟฟ้าบีแอลซีพี และ 5. กลุ่มบริษัทโกลว์ โดยมีสมาชิกสมทบ 11 บริษัท ได้แก่ 1. บริษัท กรุงเทพ ซินธิติกส์ 2. บริษัท วีนิไทย 3. บริษัท เอบีบี 4. บริษัท บางกอกอินดัสเทรียลแก๊ส 5. บริษัท ลินเด้ (ประเทศไทย) 6. บริษัท ผาแดง อินดัสทรี 7. บริษัท เหล็กสยามยามาโตะ 8. บริษัท แอร์ ลิควิด 9. บริษัท ทีพีที ปิโตรเคมิคอลส์ 10. บริษัท อินโดรามา ปิโตรเคมี และ 11. บริษัท อินโดรามา โพลีเอสเตอร์ อินดัสตรีส์


