ผู้หญิง18-25ปีพร้อมช็อป
กระทุ้งนักการตลาดเกาะติดพฤติกรรม หลังผลสำรวจชี้ชัดตัดสินใจซื้อรวดเร็ว
กระทุ้งนักการตลาดเกาะติดพฤติกรรม หลังผลสำรวจชี้ชัดตัดสินใจซื้อรวดเร็ว
เจดับบลิวที แนะสินค้าความงามจับพฤติกรรมผู้หญิงอายุ 18-25 ปี เหตุเป็นกลุ่มมีกำลังซื้อ และตัดสินใจเร็ว
นางปรัชวัน เกตวัลห์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวางแผนการสื่อสาร เจดับบลิวที (กรุงเทพฯ) เปิดเผยว่า บริษัทได้จัดทำผลการศึกษากลุ่มผู้หญิงอายุ 18-25 ปี จำนวน 24 คน ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเกี่ยวกับ วูแมนนิช แลงเกวจ หรือภาษาของผู้หญิง โดยตั้งสมมติฐานว่า ผู้หญิงเป็นเพศที่ปากกับใจไม่ตรงกัน และพบว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของสินค้าหลายแบรนด์ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าอย่างมาก มีกำลังซื้อที่ดี และยังตัดสินใจซื้อรวดเร็วด้วย
นอกจากนี้ ยังพบว่าการแสดงออกของผู้หญิงกลุ่มดังกล่าว มีความขัดแย้งไม่สอดคล้องกับตัวตนและความต้องการที่แท้จริง ซึ่งสามารถสรุปได้ 8 ข้อหลัก คือ 1.สะท้อนตัวตนและความรู้สึกผ่านสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน 2.จากคนธรรมดากลายเป็นซัมวันหรือเป็นที่รู้จัก 3.เป็นเจ้าของกิจการพร้อมรายได้ก้อนโต
4.ความไม่เพอร์เฟกต์คือความงามที่แท้จริง 5.ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ปฏิเสธการทำศัลยกรรม 6.เคล็ดลับความงามภายใต้ความพยายาม 7.เราไม่ได้รักกันเสมอไปในกลุ่มเพื่อนฟูง และ 8.ยิ่งเครียดต้องยิ่งสนุก
ทั้งนี้ จากปัจจัยดังกล่าวนักการตลาดควรทำการศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์และความต้องการเชิงลึกของผู้บริโภคในกลุ่มนี้ เพื่อประมวลผลและนำมากำหนดกลยุทธ์ทางการตลาด การสื่อสารทางการตลาดและการโฆษณา รวมไปถึงการสร้างแบรนด์สินค้า เพื่อให้การทำตลาดสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค และนำมาซึ่งความสำเร็จในด้านของยอดขายสินค้านั่นเอง
“ในช่วงที่ผ่านมาลูกค้าของเจดับบลิวที คือ โอเรียนทอล พริ้นเซส ได้ทดลองทำการตลาดด้วยการเข้าไปศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคในกลุ่มดังกล่าว แล้วนำมาปรับใช้กับแนวทางการทำตลาด ส่งผลให้ประสบความสำเร็จในด้านของยอดขายสินค้ามาแล้ว เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายของโอเรียนทอล พริ้นเซส เป็นกลุ่มที่ตรงกับผลการศึกษาที่บริษัทจัดทำขึ้น พอดี” นางปรัชวัน กล่าว
ปัจจุบัน เจดับบลิวที (กรุงเทพฯ) มีลูกค้าที่อยู่ในกลุ่มความงามหลายราย ประกอบด้วย ซันซิล ลักส์ ซิตร้า และโซฟี ส่วนกลุ่มสินค้าที่น่าจะนำผลการศึกษาดังกล่าวเข้าไปทดลองใช้ได้น่าจะเป็นซันซิลและลักส์
นางปรัชวัน กล่าวอีกว่า จากข้อจำกัดของการสื่อสารการตลาด โดยเฉพาะการโฆษณาสินค้าผ่านสื่อกระแสหลักอย่างโทรทัศน์ ส่งผลให้ช่องทางออนไลน์เป็นอีกหนึ่งช่องทางหลักที่ผู้ประกอบการนำไปเป็นช่องทางในการโฆษณาอย่างเต็มรูปแบบมากขึ้นเพื่อการสื่อสารกับผู้บริโภค เนื่องจากไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของเวลา ซึ่งแนวทางดังกล่าวถือว่าสอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีแนวโน้มซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดี การซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ในปัจจุบันผู้บริโภคยังคงเน้นไปที่การซื้อสินค้าที่มีความคุ้นเคย หรือเคยใช้อยู่แล้ว ส่วนสินค้าใหม่ๆ ยังคงนิยมซื้อในช่องทางออฟไลน์ หรือร้านค้าทั่วไป เนื่องจากต้องการทดลองสินค้า และสัมผัสสินค้าใหม่ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ


