ยีนส์ไทยครบเครื่องตอบโจทย์คนอาเซียน

โดย...ปรียนิจ กุลตั้งเจริญ

กางเกงยีนส์ สินค้าที่ได้รับความนิยมทั่วโลก เป็นแฟชั่นที่ไม่เคยตกยุค ไม่ว่าใครก็สวมใส่กางเกงยีนส์ แต่จะมีใครรู้ไหมว่าความนิยมกางเกงยีนส์ของคนในประเทศต่างๆ มีความแตกต่างกัน โดยเฉพาะในอาเซียนที่มีวัฒนธรรมการแต่งกายหลากหลายหากใครไม่ลองเข้าศึกษาตลาด คงไม่รู้ถึงความแตกต่างอย่างแน่นอน

แสงแข หาญวนิชย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป กล่าวว่า แม็คกรุ๊ปได้นำสินค้าออกไปจำหน่ายในตลาดอาเซียนมา 2 ปีแล้ว เริ่มจากพม่า ลาว และเวียดนาม เนื่องจากมองว่าเป็นตลาดที่น่าสนใจ เศรษฐกิจเติบโตสูง

สำหรับตลาดพม่า ยีนส์แม็คถือเป็นสินค้าระดับบน วางขายในห้างสรรพสินค้า ซึ่งคนท้องถิ่นให้การตอบรับสินค้าดีมาก เพราะคนกำลังรับวัฒนธรรมต่างชาติมากขึ้น เริ่มเปลี่ยนวัฒนธรรมการแต่งกาย

“คนพม่านิยมใส่กางเกงมากขึ้น โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ จากเดิมที่เห็นแต่นุ่งโสร่งก็หันมาสวมใส่กางเกง ทำให้กางเกงยีนส์ขายดีมาก”

ส่วนในอนาคตมีแนวโน้มจะเห็นคนพม่าใส่กางเกงยีนส์มากขึ้น ส่วนหนึ่งเห็นจากการที่บริษัทเริ่มนำสินค้ากลุ่มใหม่ คือ แม็ค มินิ หรือสินค้าสำหรับเด็กไปวางขายในพม่าก็มีการตอบรับดีเช่นกัน เชื่อว่าเด็กที่ใส่ยีนส์มาตั้งแต่เล็กๆ ต่อไปจะกลายมาเป็นลูกค้าเหมือนกัน

ขณะที่ชาวเวียดนามชอบสินค้าสไตล์แฟชั่น เช่น มีรอยขาดมากๆ สีสันฉูดฉาด มีการฟอกสี ไม่ชอบกางเกงยีนส์รุ่นคลาสสิก หรือรุ่นเบสิกธรรมดา ส่วนลาวยังเป็นตลาดเล็ก และชอบสินค้าเหมือนเมืองไทย ซึ่งการที่บริษัทมีสินค้าหลากหลายตอบสนองความต้องการได้ทุกรูปแบบก็ถือเป็นจุดแข็งที่ได้เปรียบคู่แข่ง

นอกจากเรื่องรสนิยมของผู้บริโภคแล้ว ช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน บริษัทจะทำงานร่วมกับผู้แทนจำหน่ายท้องถิ่น เนื่องจากเข้าใจตลาดมากกว่า รู้ช่องทางจัดจำหน่ายที่เข้าถึงผู้บริโภคมากที่สุด ส่วนบริการหน้าร้าน การจัดแต่งร้าน จะใช้มาตรฐานเดียวกับเมืองไทย ดังนั้นบริษัทจะเลือกผู้แทนจำหน่ายที่มีความเข้าใจตลาดแฟชั่นและการค้าปลีกมาร่วมทำงาน

ด้านกลยุทธ์ส่งเสริมการขายจะแตกต่างกันบ้างในแต่ละประเทศ เช่น พม่าจะใช้นักร้องนักแสดงที่มีชื่อเสียงมาเป็นพรีเซนเตอร์สินค้า ซึ่งวัยรุ่นจะนิยมใส่ยีนส์ตาม ถือว่าเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพมาก ขณะที่ในเวียดนามการทำตลาดไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีผู้ผลิตท้องถิ่นอยู่แล้ว แต่สินค้าเวียดนามจะเน้นตลาดแมสมากกว่า มีราคาและคุณภาพแตกต่างจากสินค้าไทย แม็คจะใช้วิธีทำตลาดผ่านอินเทอร์เน็ต เนื่องจากคนเวียดนามนิยมซื้อสินค้าออนไลน์ค่อนข้างมาก

“การทำตลาดใหม่เป็นเรื่องยาก เพราะลูกค้าไม่รู้จักเรามาก่อน จึงต้องทำงานร่วมกับผู้แทนจำหน่าย เพื่อขายสินค้าที่ตรงกับรสนิยมคนท้องถิ่นปรับรูปแบบการขาย การสื่อสารที่ตรงกับวิถีชีวิต การเปลี่ยนแปลงการแต่งกายของคนทำยาก ผู้แทนจำหน่ายกับบริษัทจึงต้องวิเคราะห์ตลาดร่วมกัน ไม่ใช่แค่การขายของผ่านไปเท่านั้น”

สำหรับแผนธุรกิจในอนาคต แม็คเน้นเพิ่มจุดจำหน่ายในประเทศที่มีสาขาอยู่แล้ว รวมทั้งบุกตลาดใหม่ที่น่าสนใจ เช่น อินโดนีเซีย กัมพูชา ฟิลิปปินส์ ส่วนการเข้าไปลงทุนตั้งโรงงานยังไม่ได้ตัดสินใจ เพราะปัจจุบันการผลิตสินค้าในเมืองไทยยังสามารถควบคุมต้นทุนและคุณภาพได้ดีอยู่ แม้ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้นก็ตาม