ฮ่องกงโมเดล
อุตสาหกรรมแฟชั่น อีกหนึ่งธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตสูงในบ้านเรา จากศักยภาพของผู้ประกอบการธุรกิจในกลุ่มนี้ ที่ต่างพัฒนารูปแบบธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้รับจ้างผลิต (โออีเอ็ม) แบรนด์สินค้าแฟชั่นต่างประเทศ ที่เริ่มเคลื่อนเข้าสู่ยุคของการผลิตพร้อมพัฒนาแบรนด์สินค้าของตัวเอง (โอดีเอ็ม) เพื่อแข่งขันในตลาดคู่กับแบรนด์สากล
อุตสาหกรรมแฟชั่น อีกหนึ่งธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตสูงในบ้านเรา จากศักยภาพของผู้ประกอบการธุรกิจในกลุ่มนี้ ที่ต่างพัฒนารูปแบบธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้รับจ้างผลิต (โออีเอ็ม) แบรนด์สินค้าแฟชั่นต่างประเทศ ที่เริ่มเคลื่อนเข้าสู่ยุคของการผลิตพร้อมพัฒนาแบรนด์สินค้าของตัวเอง (โอดีเอ็ม) เพื่อแข่งขันในตลาดคู่กับแบรนด์สากล
นอกจากการพัฒนาสินค้าแฟชั่นออกมาแล้ว การหาตลาดรองรับก็เป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะตลาดในต่างประเทศ อย่างกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม (ซีแอลเอ็มวี) ซึ่งเป็นตลาดที่น่าสนใจต่อการนำแบรนด์สินค้าแฟชั่นไทยเข้าไปทำตลาด
แต่หากเจ้าของสินค้าแฟชั่นไทย ที่กำลังวางแผนสร้างแบรนด์ระดับสากล การเข้าตลาดเจ้าแฟชั่นอย่างฮ่องกง ก็นับเป็นอีกหนึ่งเวทีที่น่าสนใจไม่น้อย
อรรชกา สีบุญเรือง อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ระบุในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.ค.) อุตสาหกรรมแฟชั่นไทยสามารถสร้างรายได้ให้ประเทศได้ถึง 3.7 แสนล้านบาท (สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม เครื่องหนังและรองเท้า และอัญมณีและเครื่องประดับ) แต่หากเทียบกับอีกหนึ่งผู้นำด้านแฟชั่นในเอเชียอย่างฮ่องกง ที่สามารถก้าวขึ้นเป็นผู้นำแฟชั่นแถวหน้าในภูมิภาคนี้ โดยมีตัวเลขการส่งออกสินค้าแฟชั่นสูงถึง 9.3 แสนล้านบาททีเดียว สูงกว่าประเทศไทยเกือบ 3 เท่าตัว
แนวโน้มที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งมาจากรัฐบาลให้การผลักดันส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมแฟชั่นอย่างต่อเนื่องและครบวงจร มีหน่วยงานที่ดูแลด้านแฟชั่นโดยเฉพาะ
ที่น่าสนใจ คือ ความสามารถในการสร้างแบรนด์สินค้าของตัวเองที่มีชื่อเสียงระดับโลก อย่าง จิออร์ดาโน่ (Giordano) ครอคโคไดล์ (Crocodile) จีทูเธาซันด์ (G2000) และราเบียนโค (RABEANCO) เป็นต้น และยังมีสินค้าส่งออกหลัก ได้แก่ สิ่งทอ เครื่องประดับ กระเป๋า และนาฬิกา ฯลฯ
ที่สำคัญอีกประการหนึ่ง อุตสาหกรรมแฟชั่นฮ่องกง ยังเป็นตัวแปรสำคัญในการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวฮ่องกง ซึ่งมีสูงถึงปีละ 50 ล้านคน โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มีจุดหมายปลายทางที่ย่านการค้าแฟชั่นต่างๆ อย่าง คอสเวย์เบย์ (Causeway Bay) และย่านแอดมิรัลตี้ เซ็นทรัล ซึ่งเป็นย่านจำหน่ายสินค้าระดับแฟชั่นระดับไฮเอนด์
ขณะที่อุตสาหกรรมแฟชั่นไทย มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจไทย และมีบทบาทต่อการจ้างงานกว่า 2 ล้านคน ถูกจัดอันดับอยู่ 1 ใน 5 ของอุตสาหกรรมแฟชั่นเอเชียอีกด้วย จากข้อได้เปรียบในเรื่องต่างๆ ที่ยังสามารถต่อยอดอุตฯ พร้อมศึกษาความสำเร็จตามฮ่องกงโมเดล มาปรับใช้ให้เหมาะสมกับอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย