posttoday

วันวิปโยคในกัมพูชา

22 กันยายน 2557

ตลอด 35 ปีที่ผ่านมา เรื่องราวการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในยุคที่เขมรแดงยึดครองกัมพูชา ยังคงสร้างความสะเทือนใจแก่ผู้รับรู้เสมอ แม้จะผ่านห้วงเวลานั้นมานานหลายสิบปีแล้ว

ตลอด 35 ปีที่ผ่านมา เรื่องราวการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในยุคที่เขมรแดงยึดครองกัมพูชา ยังคงสร้างความสะเทือนใจแก่ผู้รับรู้เสมอ แม้จะผ่านห้วงเวลานั้นมานานหลายสิบปีแล้ว

เรื่องเล่าถึงความทุกข์ทรมานจากค่ายแรงงานและทุ่งสังหารอันโหดเหี้ยมทั่วประเทศ ความทุกข์ยากของคนกัมพูชาในตอนนั้น ล้วนเป็นเรื่องเล่าไม่รู้จบถึงการทำร้ายคนชาติเดียวกันอย่างเหี้ยมโหดและไร้เหตุผลเกินกว่าจะยอมรับได้ สร้างความสูญเสียให้กับหลายๆ ครอบครัว และทุกระดับชนชั้น

“ร่มไทร วิปโยค” เขียนโดย “วดี แรตเนอร์” ที่เล่าเรื่องจากความทรงจำของ “ศรีสวัสดิ์ วัตตารามี” ธิดาของ “ท่านเสือม.จ.ศรีสวัสดิ์ อายุรวรรณ” เชื้อพระวงศ์ในราชสกุลศรีสวัสดิ์ของกัมพูชา ที่ขณะนั้นมีอายุเพียง 7 ขวบ ในวันนั้นเธอยังไม่รู้เลยว่า การปฏิวัติคืออะไร และไม่รู้ว่าสายเลือดแห่งชนชั้นสูงในตัว จะนำภัยอันตรายอะไรมาสู่ชีวิต ครอบครัวของเธอถูกกวาดต้อนให้ออกจากเมืองไปยังชนบท เพราะถูกหมายหัวว่าเป็นศัตรูของเขมรแดง และต้องพบกับความโหดเหี้ยมชนิดที่ไม่อาจนึกภาพได้ หลังจากเหลือรอดมาได้แค่เธอกับแม่เท่านั้น

“ผู้เขียนถ่ายทอดความสูญเสียด้วยภาษาที่สละสลวยกินใจ ทั้งยังได้แทรกวัฒนธรรมอันสวยงามของกัมพูชาผ่านนิทาน ผ่านความเชื่อ ซึ่งสร้างความสะเทือนใจได้ลึกซึ้ง และตรึงใจผู้อ่านให้ติดตามชะตากรรมของเธอกับครอบครัว เพื่อเอาใจช่วยให้หนีรอดไปได้ สมแล้วกับที่เป็นลูกสาวของเจ้าชายนักกวี” นิลุบล พรพิทักษ์พันธุ์ ผู้แปลได้กล่าวสรุปพร้อมยกย่องเจ้าของเรื่องราวต้นฉบับไว้

หนังสือเล่มนี้ไม่ได้ต้องการตอกย้ำความโหดร้ายของเขมรแดง แต่เป็นภาพสะท้อนให้ผู้อ่านเข้าใจถึงความทุกข์ยากที่เพื่อนบ้านเราเคยเผชิญ

ข่าวล่าสุด

ป.ป.ส. ผนึก DEA สหรัฐฯ เตรียมจัดประชุม Regional IDEC 2026 ที่เชียงราย