posttoday

คุณธรรม 12 ประการกับแนวทางการร่างธรรมนูญครอบครัว

26 สิงหาคม 2557

ผมได้เขียนถึงคุณธรรม 12 ข้อมาแล้ว 6 ข้อ จากหนังสือเรื่อง โหลหนึ่งก็ถึง : คุณธรรม 12 ประการ เพื่อความสำเร็จในการศึกษาวิถีพุทธ โดยคุณธรรม 6 ข้อที่ผ่านมา ได้แก่

ผมได้เขียนถึงคุณธรรม 12 ข้อมาแล้ว 6 ข้อ จากหนังสือเรื่อง โหลหนึ่งก็ถึง : คุณธรรม 12 ประการ เพื่อความสำเร็จในการศึกษาวิถีพุทธ โดยคุณธรรม 6 ข้อที่ผ่านมา ได้แก่

คุณธรรมข้อที่ 1 สำรวมระวังอินทรีย์ (Governing the sense) หรือหลักอินทรียสังวร

คุณธรรมข้อที่ 2 รู้จักพอ รู้จักพอดี (Seeking the optimum) หรือหลักโภชเนมัตตัญญุตา

คุณธรรมข้อที่ 3 ไม่เบียดเบียน (Not harming) หรือหลักอวิหิงสา

คุณธรรมข้อที่ 4 อดทน ใจสู้ (Forbearing) หรือหลักขันติ

คุณธรรมข้อที่ 5 ใฝ่ดี ใฝ่รู้ ใฝ่ความจริง (Desiring knowledge, truth and goodness) หรือหลักฉันทะ

คุณธรรมข้อที่ 6 พูดจริง ทำจริง จริงใจ (Uphold integrity) หรือหลักสัจจะ

บทความตอนสุดท้ายนี้ ผมขอนำคุณธรรมอีก 6 ข้อ ที่เหลือมาเขียนต่อให้ครบ 12 ข้อครับ

คุณธรรมข้อที่ 7 ขยัน ไม่เกียจคร้าน (Putting forth effort persistently) หรือหลักวิริยะ ชาคริยานุโยค คุณธรรมข้อนี้เป็นข้อสำคัญมากของธุรกิจครอบครัว ข้อนี้เป็นข้อที่สมาชิกในครอบครัวพึงตระหนักไว้ว่าเพราะความขยัน ไม่เกียจคร้าน จะเป็นความอดทนเพื่อต่อสู้ ฝ่าฟันอุปสรรค เพื่อได้มาซึ่งสิ่งที่มีคุณค่าและความขยันจะนำมาซึ่งความสำเร็จของธุรกิจครอบครัว สมาชิกครอบครัวที่เป็นผู้ส่งมอบหรือรุ่นก่อตั้งธุรกิจ หรือที่เรียกว่า รุ่นแรก และสามารถสร้างความสำเร็จให้แก่ธุรกิจครอบครัวนั้นได้ก็เพราะความขยัน ไม่เกียจคร้านนั่นเอง ดังนั้นคุณธรรมข้อนี้จึงย่อมเป็นปัจจัยที่สำคัญมากที่สมาชิกในครอบครัวควรประพฤติปฏิบัติตามและในสภาพความเป็นจริงผู้รับมอบธุรกิจรุ่น 2 หรือ 3 มักจะมีความขยันน้อยกว่ารุ่นแรกเสมอ เพราะมักจะสบายแล้ว ไม่เดือดร้อน จึงทำให้ความขยันย่อหย่อนลงได้

หากสมาชิกในครอบครัวปฏิบัติได้ตามคุณธรรมที่จะเขียนไว้ในธรรมนูญครอบครัวข้อนี้แล้ว ผมกล้ารับประกันได้เลยว่าความเจริญรุ่งเรืองและความยั่งยืนย่อมเกิดขึ้นกับธุรกิจครอบครัวได้อย่างแน่นอน โดยการปฏิบัติคุณธรรมข้อนี้ต้องไม่ให้เสื่อมลงได้ ต้องให้มีสติตามคุณธรรมข้อที่ 10

คุณธรรมข้อที่ 8 ความเสียสละ (Being Generous) หรือหลักจาคะ การเสียสละของสมาชิกในครอบครัวให้แก่สมาชิกในครอบครัวด้วยกันหรือผู้มีส่วนได้เสีย(ที่เป็นลูกค้า) การให้มีทั้งการให้ในสิ่งที่เป็นประโยชน์ที่เรียกว่าให้ทานและให้ในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ที่เรียกว่าการปล่อยวางกิเลส (เป็นการสละความไม่ดีออกจากตัวเรา เพื่อลดความเห็นแก่ตัว) หากสมาชิกในครอบครัวมีความเสียสละซึ่งกันและกัน ไม่เอาเปรียบ ก็ย่อมนำมาซึ่งความรัก ความสามัคคีในครอบครัว ผู้มีส่วนได้เสียไม่ว่าเป็นพนักงาน คู่ค้า ลูกค้า ก็ย่อมจะนิยมชมชอบธุรกิจครอบครัวที่มีความเสียสละ ไม่เอาเปรียบ ก็จะนำมาซึ่งความเจริญกับธุรกิจครอบครัวได้

คุณธรรมข้อที่ 9 ใจเอื้อหรือมีน้ำใจ (Being Kind and Compassionate) หรือหลักพรหมวิหาร 4 และสังคหวัตถุ โดยความมีน้ำใจต้องมีคุณธรรมทั้ง 2 หมวด ความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา หลักธรรมข้อนี้เป็นข้อที่สำคัญมากของการดำเนินธุรกิจครอบครัว ผมเคยได้เขียนไว้ในธรรมกับธุรกิจครอบครัวในหนังสือวางแผนสืบทอดธุรกิจครอบครัวมาแล้ว และได้นำหลักเกณฑ์ของธรรมดังกล่าวไปประยุกต์ใช้ในการร่างธรรมนูญครอบครัวตลอดหลายปีที่ทำงานมา

คุณธรรมข้อที่ 10 มีสติ (Mindful and Alert) การกำหนดแนวทางให้สมาชิกในครอบครัวมีสติในการทำธุรกิจและดูแลเรื่องครอบครัวก็สำคัญ ท่าน ป.อ. ปยุตฺโต ได้ให้ข้อสังเกตไว้ว่าการมีสติเป็นเรื่องสำคัญ เพราะสติเป็นธรรมสำคัญในทางจริยธรรม เพราะเป็นตัวคอยควบคุม เตือนให้ปฏิบัติหน้าที่ในสิ่งที่ดีและป้องกันไม่ให้ทำความชั่ว ซึ่งการมีสติก็จะไม่ประมาท ย่อมระมัดระวังไม่หลงไปในทางเสื่อมและไม่พลาดโอกาสในความเจริญก้าวหน้า มีสำนึกในหน้าที่ การทำด้วยความจริงจัง

การเขียนข้อนี้ลงในธรรมนูญครอบครัวจึงจำเป็นต้องแยก อธิบาย เรื่องหลักการจริยธรรมของการดำเนินงานธุรกิจครอบครัวและให้สมาชิกในครอบครัวในการทำกิจการใดโดยมีสติกำกับตามคุณธรรมข้อที่ 11

คุณธรรมข้อที่ 11 จิตแน่วแน่ (Calm and Firmly Focus) หรือหลักสมาธิ การเขียนเรื่องนี้ไว้ในธรรมนูญครอบครัวให้ฝึกสมาธิคงเป็นเรื่องที่ปฏิบัติได้ยาก แต่หากจะเขียนในแนวทางที่ว่าสมาชิกในครอบครัวพึงจะมีสติตามคุณธรรมข้อที่ 10 พร้อมทำกิจการด้วยจิตแน่วแน่หรือกำหนดไว้ว่าหากมีโอกาสควรจัดให้มีการฝึกสมาธิในระหว่างสมาชิกในครอบครัวอย่างสม่ำเสมอ การมีสมาธิหรือจิตแน่วแน่ จิตใจย่อมไม่ฟุ้งซ่าน ไม่หวั่นไหว สงบได้ ไม่ว่ามีสิ่งใดในการชักชวน ยั่วยุ ให้หลงใหลจิตใจมั่นคงอยู่ในหน้าที่ได้ ผมก็เชื่อมั่นว่าให้สมาชิกในครอบครัวมีโอกาสฝึกสมาธิในความเชื่อของศาสนาตนเองก็ย่อมจะทำให้สมาชิกในครอบครัวนั้นบริหารจัดการธุรกิจได้อย่างดีและยั่งยืนเช่นกัน

คุณธรรมข้อที่ 12 การคิดเป็น (Skillfully applying the mind) หรือหลักโยนิโสมนสิการ การสอนให้สมาชิกในครอบครัวคิดให้เป็น โดยคิดด้านความดีและด้านความจริง กล่าวคือ คิดแก้ปัญหาได้โดยคิดในทางที่ดีที่จะชนะที่จะระงับความคิดที่ไม่ดีและคิดในเรื่องความเป็นจริงเพื่อจะเอาชนะหรือระงับความหลงใหล หากสมาชิกในครอบครัวคิดเป็นแล้ว ความยั่งยืนของธุรกิจในครอบครัวย่อมมีอย่างแน่นอน

คุณธรรม 12 ประการที่กล่าวมาทั้งหมด ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะนำไปปฏิบัติ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะนำไปเขียนไว้ในธรรมนูญครอบครัวโดยจัดเป็นหมวดหมู่ตามความจำเป็นและความต้องการของแต่ละครอบครัว และเมื่อนำไปเขียนไว้แล้ว สมาชิกในครอบครัวก็ค่อยๆ หาแนวทางที่จะนำไปสู่การปฏิบัติจริงได้

การนำธรรมมาประยุกต์และปฏิบัติเพื่อใช้กับธุรกิจครอบครัวก็เช่นกัน ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการจะเชิญชวนให้สมาชิกในครอบครัวอยากนำไปปฏิบัติได้นั้น ทุกคนต้องเห็นประโยชน์ด้วยตนเองและครอบครัวก่อน จึงจะสามารถแปลงตัวหนังสือให้เป็นแนวทางการปฏิบัติได้

ผมเชื่อว่าธุรกิจครอบครัวใดก็ตามหากมีหลักธรรมเป็นที่ยึดเหนี่ยวหรือเครื่องมือหรือแนวทางในการทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นหลักธรรมตามความเชื่อของศาสนาใดก็ตาม ย่อมจะส่งผลให้ธุรกิจครอบครัวนั้นเติบโตได้อย่างยั่งยืน สำหรับผู้อยู่ในร่มบวรพระพุทธศาสนาผมก็เชื่อว่าหากสมาชิกในครอบครัวมีพุทธศาสนาเป็นที่พึ่งแล้ว และท่านสามารถนำหลักพระพุทธศาสนาโดยเฉพาะการบัญญัติไว้ในธรรมนูญครอบครัวและนำมาเป็นแนวทางปฏิบัติได้อย่างจริงจังแล้ว ความเจริญรุ่งเรืองและความยั่งยืนย่อมเกิดขึ้นกับธุรกิจครอบครัวของท่านเหล่านั้นอย่างแน่นอน

ข่าวล่าสุด

ดูบอลสด ถ่ายทอดสด ไทย พบ มาเลเซีย ฟุตบอลซีเกมส์วันนี้ 15 ธ.ค.68