posttoday

บ้านปักกะเป้า สตูดิโอสอนงานฝีมือ

29 พฤษภาคม 2553

8...ชนิกา สุขสมจิตร

หลายคนอาจมองว่าการทำงานที่เกิดจากความถนัด หรือความชอบ มักจะทำให้เกิดความสุขและนำมาซึ่งความสำเร็จในชีวิต แต่ก็มีอีกหลายคนที่มองว่า ความสุขที่แท้จริงนั้นจะต้องไม่ใช่มาจากงานเป็นผู้บงการชีวิต สิ่งสำคัญที่มากกว่าคือ เวลา ที่มีให้กับตัวเอง ครอบครัว ตลอดจนคนรอบข้าง

อย่างเช่นผู้บริหารหญิงจากธนาคารซีไอเอ็มบีคนนี้ ที่มีชีวิตการทำงานด้านประชาสัมพันธ์ในแวดวงธนาคารพาณิชย์มากว่า 34 ปี แต่กลับตัดสินใจผันตัวเองลาออกจากงานประจำก่อนเกษียณอายุ 3 ปี เข้าโครงการเออร์ลีรีไทร์ เพื่อมาทำในสิ่งที่ตัวเองรักและมีความสุข

ทับทิม สิงหเสนี สวมหมวกใบสุดท้ายของธนาคารซีไอเอ็มบี ในตำแหน่งผู้อำนวยการอาวุโสสำนักประชาสัมพันธ์ มีไอเดียที่จะเปิด บ้านปักกะเป้ามาจากความชื่นชอบงานเย็บปักผ้าเป็นงานอดิเรก ประกอบกับช่วงนั้นถึงจุดอิ่มตัวกับงานประจำ จนรู้สึกว่าถึงเวลาแล้วที่จะปิดฉากนักการตลาด นักประชาสัมพันธ์ซะที

ทำงานแบงก์มานาน กลับบ้านดึกทุกวัน ช่วงเวลานั้นก็ยังมีความสุข แต่รู้สึกว่าไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง อยากพักผ่อนบ้าง จึงอาศัยช่วงเวลาก่อนนอนนั่งปักเย็บกระเป๋าผ้าไว้ใช้เอง และทำแจกเพื่อนฝูงตามเทศกาลปีใหม่ เพราะช่วยทำให้มีสมาธิ เป็นการเรียนรู้ด้วยตัวเองเปิดตำราทำตามแบบ พอเริ่มทำไปได้ระยะหนึ่งมีโอกาสได้เรียนเพิ่มเติมจากผู้รู้ทางด้านปักผ้าโดยเฉพาะ ทำให้รู้เทคนิคการเย็บผ้ามากขึ้น

กระเป๋าผ้าที่เริ่มปักเย็บเองเป็นสไตล์มาจากญี่ปุ่น มีลักษณะเหมือนชุด Kit เป็นชุดอุปกรณ์เย็บปักกระเป๋าผ้าที่มีการออกแบบลวดลายแบบญี่ปุ่น ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองไม่ต้องใช้จักรเย็บผ้า เป็นการเรียนรู้ด้วยตัวเอง แต่อาจใช้เวลาบ้างในช่วงแรกๆ แต่ต้องอาศัยความตั้งใจและมีสมาธิ

ทำได้ระยะหนึ่ง เธอก็อยากให้คนไทยได้รู้จักใช้เวลาว่างปักผ้า เย็บผ้าบ้าง เลยเริ่มเปิดเว็บไซต์ในลักษณะช็อปปิ้งออนไลน์นำเข้าชุด Kit กระเป๋าผ้าจากญี่ปุ่นมาขาย ซึ่งได้รับการตอบรับดีมาก มีสมาชิกเพิ่มขึ้น มีโอกาสได้พูดคุยผ่านอีเมลบ้างหรือโทรศัพท์ จนจัดให้มีเวิร์กช็อปสอนวิธีการปักเย็บกระเป๋าผ้า เชิญคนญี่ปุ่นและเกาหลีที่เป็นเจ้าของสินค้าชุด Kit มาสอนเทคนิควิธีการทำด้วยตัวเอง

การจัดเวิร์กช็อปหลายๆ ครั้งทำให้เกิดความสนิทสนมกับผู้ที่มาเรียน จึงคิดที่จะหาสถานที่เพื่อเป็นจุดรวมคนรักงานปักผ้า และนั่นจึงเป็นที่มาของบ้านปักกะเป้า หรือถ้าจะอ่านตามภาษาอังกฤษ Pak Ka Pao ออกเสียงว่า ปักกระเป๋า ก็ได้

บ้านปักกะเป้า ตามคำนิยามของ ทับทิม ไม่ใช่โรงเรียน หรือสถาบันสอนงานฝีมือ แต่เป็นเหมือนสตูดิโอเล็กที่ผสมผสานระหว่างงานปักผ้า เย็บผ้า และงานศิลปะเข้าด้วยกัน ขณะเดียวกันยังเป็นจุดนัดพบของคนรักงานฝีมือ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ที่เข้ามาเรียนที่นี่ต่างต้องการหางานอดิเรกที่ตัวเองชื่นชอบทำในยามว่าง

ปัจจุบัน บ้านปักกะเป้าเปิดให้บริการสอนทำชุด Kit ตั้งแต่วิธีการปักกระเป๋าผ้า การต่อผ้า และเทคนิคการเย็บผ้าในสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งผู้ที่ต้องการเรียนสามารถเลือกซื้อชุด Kit กระเป๋าผ้าที่มีให้เลือกกว่า 20 แบบ มีราคาตั้งแต่ 3002,300 บาท เพื่อนำมาเรียนกับครูสอน สามารถซื้อเป็นแพ็กเกจคูปองสำหรับค่าเรียนราคา 800 บาท เรียนได้ 16 ชั่วโมง เรียนได้ 2 วันเต็มๆ หรือเรียนครั้งละ 3 ชั่วโมง (ครึ่งวัน) จำนวน 4 ครั้ง รวมอาหารกลางวันและของว่าง

ทับทิม กล่าวว่า หลังจากเปิดบ้านปักกะเป้าผลตอบรับดีมาก ลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาเรียนเพราะต้องการหางานอดิเรกทำ มาจากหลากหลายอาชีพ และอายุก็ต่างกัน ซึ่งการปักผ้าก็เป็นคำตอบได้อย่างหนึ่งของกลุ่มคนเหล่านี้ การเรียนจะสอนเทคนิคการปักผ้าของญี่ปุ่น เริ่มตั้งแต่การจับเข็ม วิธีการเย็บและการต่อผ้า เนื่องจากในชุด Kit จะมีส่วนประกอบของผ้าหลายชิ้นกว่าจะออกมาเป็นกระเป๋าในแต่ละใบ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับลวดลาย แบบ ที่กำหนดไว้

แต่สิ่งที่ลูกค้าชอบมากคือในการเรียนแต่ละครั้งจะได้รับบริการจากเจ้าของเหมือนอยู่บ้านของตัวเอง โดยเฉพาะการลงมือทำอาหารกลางวันให้ลูกค้ารับประทานเอง เห็นแล้วทุกคนมีความสุข และเมนูที่ทำให้รับประทานก็เปลี่ยนไปทุกๆ ครั้ง

ในขณะที่การเรียนแต่ละคอร์สจะมีครูสอน 1 คน จะเลือกเรียนเต็มวันหรือครั้งละ 3 ชั่วโมงก็ได้ แล้วแต่หลักสูตรที่มีตั้งแต่ 12 วัน หลังจากนั้นอีก 2 สัปดาห์มาเจอกับครูที่สอนเพื่อสอบทานงานปักผ้าที่ได้ไป โดยจะเปิดเฉพาะวันอังคาร เสาร์ และอาทิตย์

หลายคนมักถามว่า ที่เปิดตรงนี้คุ้มหรือไม่กับเงินที่ลงทุนไป ซึ่งก็บอกไปตั้งแต่แรกแล้วว่า ที่มาทำตรงนี้เพราะใจรัก อีกอย่างหนึ่งช่วงที่เข้าโครงการเออร์ลีรีไทร์ เพื่อนบอกไว้แล้วว่า คนเคยทำงานมาแล้วไม่ได้ทำอะไรระวังสมองจะฝ่อ พอมาทำบ้านปักกะเป้า ก็รู้ว่าคิดไม่ผิด ดังนั้นในเรื่องผลกำไรที่จะได้รับกลับมาไม่เคยคิด ขออย่างเดียวให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้ และอย่าเพิ่มทุนบ่อยนัก

ตอนนี้บ้านปักกะเป้าเริ่มอยู่ตัวแล้ว แผนงานที่คิดทำต่อในตอนนี้ นอกจากเปิดสอนตามปกติแล้ว ยังคิดที่จะออกแบบชุด Kit เองจากเดิมที่ต้องนำเข้าจากญี่ปุ่นทั้งหมด เพียงแต่วัสดุอุปกรณ์ยังเป็นของญี่ปุ่นอยู่ เช่น กระเป๋าผ้าที่เป็นงานผสมผสานในแบบของคนไทยบ้าง โดยเก็บเกี่ยวจากประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้มา ทั้งจากครูญี่ปุ่นและเกาหลี ซึ่งตอนนี้เริ่มทำแบบเอง 34 แบบแล้ว

ที่หันมาออกแบบกระเป๋าผ้าเอง เพราะอยากทำอะไรใหม่ๆ ไม่ชอบอยู่เฉยๆ แต่ยังคงในสไตล์ญี่ปุ่นไว้ โดยเฉพาะอุปกรณ์นำเข้า เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีคุณภาพดี ได้มาตรฐาน เชื่อว่าในอนาคตบ้านปักกะเป้าจะเป็นทางเลือกให้คนที่ไขว่คว้าหางานอดิเรกไว้ทำในยามว่าง เพราะอย่างน้อยก็ช่วยฝึกสมาธิ และมีโอกาสพบปะผู้คนได้หลากหลาย ในยามที่บ้านเมืองยังหาความสงบไม่ได้

สนใจรายละเอียดเพิ่ม สอบถามได้ที่โทรศัพท์ 0851129843

ข่าวล่าสุด

ญี่ปุ่นเตรียมเดินเครื่องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ใหญ่ที่สุดของโลกอีกครั้ง หลังเหตุฟุกุชิมะ 15 ปี