ลงทุนหลักพันเริ่มต้นธุรกิจเครื่องสำอาง
ตลาดเครื่องสำอางของคนไทยยังมีโอกาสเติบโตอีกมากในอนาคต โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ตลาดอาเซียน
ดวงใจ จิตต์มงคล
ความสวยความงามและสุขภาพ ยังเป็นกระแสที่มาแรงและได้การตอบรับดีในตลาดทั่วโลก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเครื่องสำอางในไทย ที่พบว่าเป็นอีกหนึ่งตลาดที่แข็งแกร่ง ด้วยยังมีอัตราเติบโต2 หลักต่อเนื่อง ในช่วงครึ่งปีแรกจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และการเมืองที่เกิดขึ้น
กฤษณ์ แจ้งจรัส กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็ม.วาย.อาร์.คอสเมติคส์โซลูชั่น ผู้ให้บริการธุรกิจเครื่องสำอางครบวงจร กล่าวว่าอุตสาหกรรมธุรกิจเครื่องสำอางในไทย มีแนวโน้มเติบโตสูงต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เห็นได้จากมูลค่าตลาดรวมในปัจจุบัน ที่ขยับขึ้นมาสูงถึง 2 แสนล้านบาท ซึ่งหากไม่มีปัจจัยลบต่างๆเกิดขึ้นเมื่อต้นปีที่ผ่าน คาดว่าอุตฯดังกล่าวจะยังเติบโตได้มากกว่านี้
ขณะที่มูลค่าตลาดดังกล่าว แบ่งออก3 กลุ่มหลัก คือ 1.เจ้าของสินค้าแบรนด์ไทยสัญชาติไทยมีสัดส่วนมากกว่า50% กลุ่มที่2.เครืองสำอางแบรนด์เนม ที่มีผู้ผลิตหรือเจ้าของสินค้าจากต่างประเทศ เข้ามาทำตลาดทั่วไป และ3.กลุ่มเครื่องสำอางนำเข้าจากต่างประเทศ หรือ เคาน์เตอร์แบรนด์ในห้างสรรพสินค้าต่างๆ
กฤษณ์ อธิบายว่าปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้ตลาดดังกล่าวขยายตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น ส่วนหนึ่งมาจากการเข้ามาของนักลงทุนธุรกิจ หรือ เจ้าของสินค้าที่ต้องการสร้างแบรนด์เครื่องสำอางของตัวเองเพื่อทำตลาดด้วยธุรกิจนี้ส่วนใหญ่แล้วจะมีกำไรสูงถึง100% ต่อชิ้น แม้จะหักทุนและค่าการตลาดแล้ว ต่างจากธุรกิจอื่นๆ อย่างร้านอาหารอาจได้กำไร 5-10 บาทต่อชาม หลังจาดหักต้นทุนต่อชาม30-40 บาท เป็นต้น
ขณะที่แนวทางการดำเนินธุรกิจหลักของบริษัท จะเป็นผู้รับจ้างผลิตสินค้า(โออีเอ็ม) 100% พร้อมชูจุดเด่นการให้บริการที่ปรึกษาธุรกิจแบบครบวงจร จำนวน 9 ขั้นตอน เริ่มตั้งแต่วางแผนธุรกิจ พัฒนาสูตรเครื่องสำอาง การออกแบบตราสินค้า และบรรจุภัณฑ์ เป็นต้น
โดยลูกค้าที่สนใจลงทุนธุรกิจเครื่องสำอาง จะแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก คือ 1. ผู้ที่ไม่เคยทำธุรกิจมาก่อน แต่สนใจทำเครื่องสำอางด้วยแบรนด์ตัวเอง และ2.กลุ่มที่มีสินค้าอื่นทำตลาดอยู่แล้ว และต้องการขยายไลน์สินค้าเครื่องสำอาง ที่ปัจจุบันมีสัดส่วนเท่ากัน50%
ขณะที่รูปแบบการลงทุนธุรกิจเครื่องสำอางของบริษัท สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้ตั้งแต่ใช้งบลงทุนหลักพันบาทในช่วงที่บริษัทมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย(โปรโมชัน) โดยจะได้รับสินค้ารุ่นจำนวนจำกัด(ลิมิเต็ด เอดิชัน) ซื้อ1 แถม2 ฟรี ซื้อครบ 1,000 บาท รับสิทธิ์แลกซื้อสินค้าราคาพิเศษ 99 บาท เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีแพคเกจอื่นๆ เช่น เริ่มต้นธุรกิจ 5,555 บาท รับสินค้า 100 ชิ้น 1 รายการ, ลงทุน1.8 หมื่นบาท รับสินค้า100 ชิ้นและของแถม100 ชิ้น รวมสินค้า200 ชิ้น, ลงทุนเริ่มต้น8,500 บาท รับสินค้า100 ชิ้น 2 รายการ และลงทุน 4 หมื่นบาท รับสินค้า 50 ชุดและของแถม100 ชิ้น รวมรับสินค้า300 ชิ้น เป็นต้น โดยผู้สนใจติดต่อได้ผ่านเว็บไซต์ www.myrcosmeticssolotion.com
กฤษณ์ สำทับว่าตลาดเครื่องสำอางของคนไทยยังมีโอกาสเติบโตอีกมากในอนาคต โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ตลาดอาเซียน ซึ่งเจ้าของธุรกิจเครื่องสำอางทั้งรายเดิม หรือรายใหม่สามารถขยับไปเล่นในตลาดบลูโอเชียน เพื่อหนีการ
แข่งขันสูงในตลาดเรดโอเชียน ที่เจ้าของเครื่องสำอางส่วนใหญ่ต่างมุ่งพัฒนาสูตรไวท์เทนนิง ดูแลผิวขาวเพราะเป็นตลาดที่มูลค่าและอัตราเติบโตสูงที่สุดในไทยด้วยตลาดบลูโอเชียนเครื่องสำอางนั้น ยังมีช่องว่างอยู่อีกมาก ที่เจ้าของสินค้าสามารถนำเสนอสินค้าดูแลได้ตั้งแต่ศรีษะจรดปลายเท้า ในรูปแบบผลิตภัณฑ์เฉพาะด้านการดูแล ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ สำหรับ ผม คิ้ว ใต้ตาหมองคล้ำ รอยตีนกา รักแร้ ต้นขา ฯลฯ
ทั้งหมด เป็นโอกาสในการทำธุรกิจเครื่องสำอางได้ทุกส่วนของร่างกาย ที่อนาคตตลาดยังจะขยายมากขึ้นเมื่อเข้าสู่ประขาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี) ด้วย.


