ประมาณการกำไรสุทธิขาดเกิน 25%
การยื่นแบบเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งรอบระยะเวลาบัญชี 6 เดือนแรก (ภ.ง.ด.51) ปี 2557 ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่เสียภาษีจากฐานกำไรสุทธิ หากบริษัท ฯลฯ ที่เสียภาษีครึ่งรอบระยะเวลาบัญชี 6 เดือนแรกจากประมาณการกำไรสุทธิได้ประมาณการกำไรสุทธิสูงเกินกว่ากำไรสุทธิที่เกิดขึ้นจริงในรอบระยะเวลาบัญชีปี 2557 ก็คงไม่มีปัญหาใด แต่ถ้าประมาณการกำไรสุทธิขาดไปเกินกว่า 25% ของกำไรสุทธิที่เกิดขึ้นจริงในรอบระยะเวลาบัญชีปี 2557 แล้ว ได้เสียเงินเพิ่มนอกเหนือจากภาษีอย่างแน่นอน เว้นแต่ได้ประมาณการกำไรสุทธิขาดไปโดยมีเหตุอันสมควรจึงจะไม่เสียเงินเพิ่ม
การยื่นแบบเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งรอบระยะเวลาบัญชี 6 เดือนแรก (ภ.ง.ด.51) ปี 2557 ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่เสียภาษีจากฐานกำไรสุทธิ หากบริษัท ฯลฯ ที่เสียภาษีครึ่งรอบระยะเวลาบัญชี 6 เดือนแรกจากประมาณการกำไรสุทธิได้ประมาณการกำไรสุทธิสูงเกินกว่ากำไรสุทธิที่เกิดขึ้นจริงในรอบระยะเวลาบัญชีปี 2557 ก็คงไม่มีปัญหาใด แต่ถ้าประมาณการกำไรสุทธิขาดไปเกินกว่า 25% ของกำไรสุทธิที่เกิดขึ้นจริงในรอบระยะเวลาบัญชีปี 2557 แล้ว ได้เสียเงินเพิ่มนอกเหนือจากภาษีอย่างแน่นอน เว้นแต่ได้ประมาณการกำไรสุทธิขาดไปโดยมีเหตุอันสมควรจึงจะไม่เสียเงินเพิ่ม
การยื่นแบบเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามแบบ ภ.ง.ด.51 ถ้าประมาณการกำไรสุทธิขาดไปเกินกว่า 25% ต้องเสียเงินเพิ่ม 20% ของภาษีที่คำนวณจากประมาณการกำไรสุทธิที่ได้ประมาณการขาดไป ซึ่งคิดเป็นเงินมิใช่น้อยเลยทีเดียว
จริงๆ แล้วมีข้อผ่อนปรนในกรณีที่บริษัท ฯลฯ ได้ยื่นแบบ ภ.ง.ด.51 ไว้แล้ว แต่ได้ประมาณการกำไรสุทธิขาดไปเกินกว่า 25% หากมีเหตุอันสมควรตามที่กรมสรรพากรกำหนดไว้ก็ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม 20% แต่อย่างใด หรือถ้าได้ประมาณการกำไรสุทธิขาดไปเกินกว่า 25% โดยไม่มีเหตุอันสมควร กฎหมายก็ยังผ่อนปรนให้บริษัท ฯลฯ มีสิทธิเสียเงินเพิ่มต่ำกว่า 20% หากเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด
เหตุอันสมควรจากการประมาณการกำไรสุทธิขาดไปเกินกว่า 25% ที่ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม 20% ของภาษีที่คำนวณจากประมาณการกำไรสุทธิที่ได้ประมาณการขาดไป สรุปได้ดังนี้
ยื่นแบบฯ ภ.ง.ด.51 โดยได้ประมาณการกำไรสุทธิและยื่นเสียภาษีครึ่งรอบระยะเวลาบัญชีแรกไว้ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ได้ยื่นแบบเสียภาษีตามแบบฯ ภ.ง.ด.50 ของรอบระยะเวลาบัญชีปีที่ผ่านมา
อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเปลี่ยนแปลงอย่างผิดปกติ
อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมลดต่ำลง ทำให้ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยต่ำลงไป
ค่าใช้จ่ายลดต่ำลง เนื่องจากได้มีการปรับปรุงบริหารงานได้มีประสิทธิภาพขึ้น
การส่งสินค้าออกมีความไม่แน่นอน ทั้งปริมาณและราคาสินค้า
ปริมาณและราคาของสินค้าที่ขายเพิ่มสูงขึ้นเกินความคาดหมาย
การรับค่าจ้างที่มีค่าจ้างไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับผู้ว่าจ้างและความยากง่ายของงานที่ทำ
มีกำไรหรือขาดทุนจากการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์อย่างผิดปกติ (บริษัทฯลฯ ไม่ได้ประกอบกิจการหลักทรัพย์)
ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มเติมตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่เพื่อปรับปรุงรายได้เพิ่มขึ้นตามข้อเท็จจริงของผลการตรวจสภาพกิจการ
เริ่มมีรายได้จากการประกอบกิจการในรอบระยะเวลา 6 เดือนหลังของรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มมีรายได้จากการประกอบกิจการ
บริษัท ฯลฯ ที่ได้ประมาณการกำไรสุทธิขาดไปเกินกว่า 25% โดยไม่มีเหตุอันสมควรต้องเสียเงินเพิ่ม 20% ของภาษีที่คำนวณจากประมาณการกำไรสุทธิที่ได้ประมาณการขาดไป
แต่บริษัท ฯลฯ อาจเสียเงินเพิ่มไม่เกิน 1.5% ต่อเดือนของภาษี หากเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป.81/2542 กล่าวคือได้ยื่นแบบฯ ภ.ง.ด.51 เพิ่มเติม โดยที่ไม่ได้รับคำเตือนหรือคำเรียกตรวจสอบไต่สวนเป็นหนังสือจากเจ้าหน้าที่ (***ภาษีที่ถูกหัก ณ ที่จ่ายไว้ มิให้นำมาหักออกจากภาษีที่คำนวณจากประมาณการกำไรสุทธิที่ได้ประมาณการขาดไป)
บริษัท ฯลฯ ที่ได้ยื่นแบบ ภ.ง.ด.51 ไว้แล้ว ต่อมาพบว่าได้ประมาณการกำไรสุทธิขาดไปเกินกว่า 25% ลองพิจารณาดูว่ามีเหตุอันสมควรที่ไม่ต้องเสียเงินเพิ่มหรือไม่
สวัสดีครับ


