เด้งบิ๊กพาณิชย์สางปมทุจริตจำนำข้าว
พลันที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่งแต่งตั้ง ชุติมา บุณยประภัศร ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์
โดย...ทีมข่าวเศรษฐกิจภาครัฐโพสต์ทูเดย์
พลันที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่งแต่งตั้ง ชุติมา บุณยประภัศร ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ เป็นปลัดกระทรวงพาณิชย์ แทน ศรีรัตน์ รัษฐปานะ ที่ถูกย้ายไปเป็นที่ปรึกษาประจำสำนักนายกฯ ซึ่งเป็นตำแหน่งพิเศษที่ถูกตั้งขึ้นมาใหม่
ทว่าคล้อยหลังไม่ทันถึง 1 สัปดาห์ ชุติมา ใช้อำนาจรักษาการปลัดกระทรวงพาณิชย์ ออกหนังสือเวียนสั่งเด้ง สมชาติ สร้อยทอง อธิบดีกรมการค้าภายใน และ สุรศักดิ์ เรียงเครือ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ไปนั่งตบยุงในตำแหน่งผู้ตรวจฯ
จากนั้น ชุติมา ได้แต่งตั้ง จินตนา ชัยยวรรณาการ รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เป็นรักษาการในตำแหน่งอธิบดีกรมการค้าภายใน และแต่งตั้ง ดวงพร รอดพยาธิ์ ที่ปรึกษาการพาณิชย์ ให้ดำรงตำแหน่งรักษาการอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ทั้งสองคนล้วนแล้วแต่เคยทำงานใกล้ชิดกับ ชุติมา
แต่กระนั้น การสลับตำแหน่งข้าราชการระดับสูงในกระทรวงพาณิชย์ ไม่ได้อยู่นอกเหนือความคาดหมาย เพราะเป็นการล้างบางข้าราชการขั้วเก่าที่เติบโตในสมัยรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และแต่งตั้งข้าราชการขั้วใหม่ที่ถูกดองในสมัยรัฐบาลชุดก่อน ซึ่งเป็นกลุ่มข้าราชการที่ คสช.ไว้ใจ ขึ้นมาทำหน้าที่แทน
เพราะทั้ง สมชาติ และ สุรศักดิ์ ต่างได้รับการแต่งตั้งเป็นอธิบดีในสมัยรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ยุคที่ นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล เป็น รมว.พาณิชย์ และมี ยรรยง พวงราช เป็น รมช.พาณิชย์
โดยเฉพาะ สมชาติ ถือเป็นคนที่ได้รับความไว้วางใจจาก ยรรยง อย่างมาก เห็นได้จากสมัยที่ ยรรยง เลื่อนจากอธิบดีกรมการค้าภายใน ขึ้นรั้งตำแหน่งปลัดกระทรวงพาณิชย์ ยรรยง โยกย้าย สมชาติ จากตำแหน่งรองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า สลับขั้วมาเป็นรองอธิบดีกรมการค้าภายใน
นับจากนั้น สมชาติ ถือเป็นหนึ่งในหัวเรี่ยวหัวแรงหลักในการขับเคลื่อนโครงการรับจำนำข้าวในสมัยรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ต่อเนื่องจาก ยรรยง ที่เกษียณอายุในตำแหน่งปลัดกระทรวง และต่อเนื่องจนถึงยุคที่ วัชรี วิมุกตายน ที่เลื่อนจากอธิบดีกรมการค้าภายใน ก้าวขึ้นเป็นปลัดกระทรวงพาณิชย่ โดย วัชรี ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากอดีตปลัดกระทรวงที่ชื่อ ยรรยง
เมื่อตำแหน่งอธิบดีกรมการค้าภายในว่างลง วัชรี ผลักดัน วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ ที่ปรึกษาการพาณิชย์ ขึ้นเป็นอธิบดีกรมการค้าภายใน และแต่งตั้ง สมชาติ จากตำแหน่งรองอธิบดีกรมการค้าภายใน ซี 9 ขึ้นเป็นที่ปรึกษาการพาณิชย์ ซี 10 ภายในช่วงเวลา 2 ปีเท่านั้น จากนั้นเมื่อรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ดึง ยรรยง มาช่วยงานในตำแหน่ง รมช.พาณิชย์ จากนั้น สมชาติ ได้รับการแต่งตั้งเป็นอธิบดีกรมการค้าภายใน
ในขณะที่เส้นทาง สุรศักดิ์ ที่เพิ่งมีบทบาทในการระบายสต๊อกข้าวได้ไม่นาน หลังจากถูกโยกย้ายจากผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ มาเป็นอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ แทนที่ ปราณี ศิริพันธ์ ที่เกษียณอายุ ก.ย. 2556 แต่การโยกย้ายคราวนี้น่าจะทำให้ สุรศักดิ์ สบายใจมากกว่า เพราะชีวิตรับราชการที่ผ่านมา สุรศักดิ์ เชี่ยวชาญด้านเจรจาการค้าการขายกับต่างประเทศมากกว่าการขายข้าว เช่นเดียวกับ ปราณีที่มักติดภารกิจไปต่างประเทศบ่อยครั้ง
แต่ก็ได้ ทิฆัมพร นาทวรทัต รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ อดีตผู้อำนวยการสำนักบริหารการค้าข้าว ที่ทำหน้าที่เกาะติดการระบายข้าวสารเกือบเต็มตัว มาตั้งแต่ยุคที่ มนัส สร้อยพลอย เป็นอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ “เพื่อนซี้” ยรรยง พวงราช
ดังนั้น เหตุผลหลักในการโยกย้ายข้าราชการระดับซี 10 ทั้งสองตำแหน่ง ถือเป็นสัญญาณการล้างบางข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งมีข้อกล่าวหาและหลักฐานการทุจริตในโครงการชัดเจนก็ว่าได้ ก่อนที่จะมีการแต่งตั้งโยกย้ายในกระทรวงพาณิชย์ครั้งใหญ่ในช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค.
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงพาณิชย์ของ ชุติมา ซึ่งเป็นข้าราชการน้ำดี แต่ถูกดองยาวในตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ มาตั้งแต่ยุคที่ พรทิวา นาคาศัย เป็น รมว.พาณิชย์ จนถึงยุค นิวัฒน์ธำรง หรือเกือบ 5 ปีเต็ม ในข้อหาที่ได้รับความไว้ใจจาก กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองนายกฯ ซึ่งตัว กอร์ปศักดิ์ มีความขัดแย้งกับ พรทิวา มาโดยตลอดเกี่ยวกับการระบายข้าวในสต๊อก 2 ล้านตัน จนกระทั่ง กอร์ปศักดิ์ ถูกโยกไปเป็นเลขาธิการนายกฯ ในขณะที่ช่วง 5 ปีที่ ชุติมา นั่งเป็นผู้ตรวจ ตำแหน่งปลัดกระทรวงพาณิชย์เรียกได้ว่าเป็นสมบัติผลัดกันชม


