อิสริยะ คูหาเปรมกิจจากธุรกิจการเงินสู่รอยัลมอเตอร์ส
ความแตกต่างของรุฟก็คือการพัฒนารถให้มีความแตกต่างจากพื้นฐานของรถปอร์เช่เองนอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถเลือกสีได้ทุกชิ้นส่วน
ความแตกต่างของรุฟก็คือการพัฒนารถให้มีความแตกต่างจากพื้นฐานของรถปอร์เช่เองนอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถเลือกสีได้ทุกชิ้นส่วน
โดย...พิสันต์ อิทธิวัฒนกุล
หนึ่งในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ไม่มีวันตาย และมีผู้เล่นรายใหม่หมุนเวียนเปลี่ยนหน้าเข้ามาอย่างต่อเนื่องก็คือ ธุรกิจนำเข้ารถยนต์รายย่อย หรือที่รู้จักกันในชื่อของเกรย์มาร์เก็ต ซึ่งเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีผู้เล่นจำนวนมากในประเทศไทย
แม้ในอดีตที่ผ่านมา ตลาดจะมีขนาดใหญ่ที่สุดแค่ 5,000 คันเท่านั้น แต่จำนวนผู้ประกอบการที่มีอยู่หลายราย ทำให้เกิดความสงสัยว่าธุรกิจที่มีการแข่งขันรุนแรงขนาดนี้ ทำไมถึงมีผู้ประกอบการมากหน้าหลายตาที่สนใจเข้ามาแข่งขันอย่างต่อเนื่อง
เช่นเดียวกับน้องใหม่ในธุรกิจเกรย์มาร์เก็ตอย่าง รอยัล มอเตอร์ส ที่แม้จะเป็นหน้าใหม่ของวงการนี้ แต่ชื่อของผู้บริหารหนุ่มและบริษัทที่เป็นแบ็กอัพของธุรกิจนี้ถือว่าไม่ธรรมดา และช่วยตัดคำถามเรื่องความพร้อมในการเจาะตลาดไปได้อย่างมาก
อิสริยะ คูหาเปรมกิจ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท รอยัล มอเตอร์ส เกรย์มาร์เก็ตน้องใหม่และผู้แทนจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ สำหรับซูเปอร์คาร์ยี่ห้อรุฟ จากประเทศเยอรมนี ที่วันนี้กระโดดลงมาเล่นในตลาดเบื้องหน้าอย่างเต็มตัว
“ธุรกิจพื้นฐานของครอบครัวผมก็คือโกลเบล็ก โฮลดิ้ง ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจด้านการเงินและทองคำเป็นหลัก ก่อนหน้านี้ผมก็เคยนำเข้ารถยนต์เข้ามาจำหน่ายให้ผู้ประกอบการรายอื่นอยู่แล้ว ซึ่งผมศึกษาตลาดตรงนี้มาหลายปี และพบว่ามีศักยภาพที่ดี ประกอบกับลูกค้าของฐานธุรกิจเดิมของเราก็มีอยู่ ทำให้เชื่อว่าเรามีความพร้อมที่จะเข้ามาในธุรกิจนี้”
7 เดือนหลังการเปิดตัวในช่วงกลางปี 2552 ที่ผ่านมา รอยัล มอเตอร์ส มียอดจำหน่ายรถยนต์นำเข้าไปแล้วกว่า 200 คัน โดยส่วนใหญ่จะเป็นรถยนต์ยุโรปกว่า 80% ที่เหลือเป็นรถยนต์เอ็มพีวีจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งอิสริยะมองว่าเป็นตลาดที่น่าสนใจ เพราะผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะจำหน่ายรถญี่ปุ่นมากกว่ารถยุโรป
นอกจากนี้ บริษัทยังเดินหน้ารุกตลาดครั้งใหญ่ด้วยการขอเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์รุฟ จากประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นรถยนต์ที่มีการพัฒนาบนพื้นฐานของรถยนต์ปอร์เช่ เพื่อให้ได้รถยนต์ที่มีความโดดเด่น แตกต่าง และสามารถใช้งานได้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งประเทศไทยถือเป็นประเทศที่สองในภูมิภาคนี้ที่รุฟแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
“ความแตกต่างของรุฟก็คือ การพัฒนารถให้มีความแตกต่างจากพื้นฐานของรถปอร์เช่เอง นอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถเลือกสีได้ทุกชิ้นส่วน เรียกว่าลูกค้านำสีที่ต้องการมา เราจะส่งให้ทางเยอรมนีหาสีที่มีความใกล้เคียงกับสิ่งที่ลูกค้าต้องการที่สุด ซึ่งถือเป็นความแตกต่างและโดดเด่นของรุฟ ที่ผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นทำไม่ได้”
อิสริยะ บอกว่า ด้วยความมั่นใจว่ารุฟจะเกิดอย่างแน่นอนในประเทศไทย ทำให้ตัดสินใจเจรจากับบริษัทแม่เพื่อทำการผลิตรถยนต์ที่เหมาะสมกับตลาดประเทศไทย โดยเป็นการจำหน่ายที่ประเทศไทยเป็นแห่งแรกของโลก ได้แก่ รุฟ 987 ซึ่งใช้เครื่องยนต์ 2.9 ลิตร ให้กำลังแรงม้าสูงสุด 218 แรงม้า วางราคาจำหน่าย 7.9 ล้านบาท โดยตั้งเป้าหมายจะขายรถรุ่นนี้ถึง 90% ของยอดจำหน่ายทั้งหมด
ขณะที่อีกรุ่นที่นำเข้ามาจำหน่ายแล้วก็คือ รุฟ อาร์ที 12เอส ใช้เครื่องยนต์ 3.8 ลิตร 6 สูบ ให้แรงม้าสูงสุด 685 แรงม้า เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ตั้งราคาที่ 25 ล้านบาท รวมถึงจะมีการนำรถรุ่นใหม่ๆ อย่าง อาร์ โรดสเตอร์ และ วี8 เข้ามาจำหน่ายเพิ่มเติมในอนาคต
สำหรับการเตรียมความพร้อมด้านการให้บริการหลังการขายนั้น อิสริยะ บอกว่า โชว์รูมที่ถนนเพชรบุรีของบริษัทนั้นใช้งบประมาณในการลงทุนก่อสร้างและเตรียมการเรื่องการให้บริการไปมากกว่า 500 ล้านบาท โดยสามารถรองรับการให้บริการและดูแลลูกค้าในช่วงแรกของการเปิดตัวได้ทั้งส่วนของรุฟและส่วนของรถยนต์นำเข้า ที่ตั้งเป้าหมายจะขายรวมกันถึง 300 คันในปีนี้
“อย่างที่บอกว่าเรามีฐานลูกค้าที่มีกำลังซื้อในระดับหนึ่งอยู่ในมือ แต่การให้บริการก็ต้องเตรียมความพร้อมให้มากที่สุด โชว์รูมที่เพชรบุรีมีพื้นที่และมีการให้บริการที่เรียกว่าครบวงจร สามารถดูแลลูกค้าได้อย่างแน่นอน แต่ในอนาคต หากเราขายรถมากขึ้น มีฐานลูกค้ามากขึ้น แน่นอนว่าถึงจุดหนึ่งเราก็ต้องขยายโชว์รูมไปเพื่อรองรับกับฐานลูกค้าที่ขยายตัวออกไป”
และนี่คือการประกาศความพร้อมของเกรย์หน้าใหม่รายล่าสุด รอยัล มอเตอร์ส ที่ประกาศความพร้อมเพื่อแข่งขันในตลาดรถยนต์นำเข้าอย่างเป็นทางการ ซึ่งแน่นอนว่าผู้ประกอบการรายเดิมคงไม่ปล่อยให้พื้นที่นี้โดนแย่งชิงไปได้ง่ายๆ อย่างแน่นอน
จึงไม่น่าแปลกใจที่อุณหภูมิการแข่งขันในตลาดเกรย์มาร์เก็ตปีนี้จะร้อนระอุและน่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง!!!


