posttoday

ภาษีหัก ณ ที่จ่าย ค่าจ้างทำของ

04 กรกฎาคม 2557

การประกอบธุรกิจขายสินค้าหรือให้บริการ มักมีธุรกรรมเกี่ยวกับการจ้างทำของมาเกี่ยวข้องเสมอความหมาย “จ้างทำของ” ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 587 “สัญญาที่บุคคลหนึ่งเรียกว่า ผู้รับจ้าง ตกลงรับจะทำงานสิ่งใดสิ่งหนึ่งจนสำเร็จให้แก่อีกคนหนึ่ง เรียกว่า ผู้ว่าจ้าง และผู้ว่าจ้างตกลงจะให้สินจ้าง เพื่อผลสำเร็จแห่งการที่ทำ” สาระสำคัญจะไม่ใช่การจ้างแรงงาน แต่หวังผลสำเร็จของงาน งานไม่เสร็จ ไม่จ่ายเงิน และมีอิสระในการทำงาน ไม่ผูกพันแบบการจ้างแรงงาน

การประกอบธุรกิจขายสินค้าหรือให้บริการ มักมีธุรกรรมเกี่ยวกับการจ้างทำของมาเกี่ยวข้องเสมอความหมาย “จ้างทำของ” ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 587 “สัญญาที่บุคคลหนึ่งเรียกว่า ผู้รับจ้าง ตกลงรับจะทำงานสิ่งใดสิ่งหนึ่งจนสำเร็จให้แก่อีกคนหนึ่ง เรียกว่า ผู้ว่าจ้าง และผู้ว่าจ้างตกลงจะให้สินจ้าง เพื่อผลสำเร็จแห่งการที่ทำ” สาระสำคัญจะไม่ใช่การจ้างแรงงาน แต่หวังผลสำเร็จของงาน งานไม่เสร็จ ไม่จ่ายเงิน และมีอิสระในการทำงาน ไม่ผูกพันแบบการจ้างแรงงาน

ประมวลรัษฎากรได้กำหนดให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่เป็นผู้จ่ายเงินค่าจ้างทำของ เมื่อจ่ายเงินได้ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายร้อยละ 3 ของเงินได้ที่จ่าย หากผู้รับเงินได้เป็นนิติบุคคลตามกฎหมายต่างประเทศที่ประกอบการในไทยไม่ถาวร ผู้จ่ายเงินได้ ต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายอัตราร้อยละ 5 (คำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป. 4/2528)

กิจการประเภทใดบ้าง ที่เป็นการรับจ้างทำของ ซึ่งเป็นเรื่องที่ยุ่งยากสำหรับผู้จ่ายเงิน เนื่องจากประมวลรัษฎากรไม่ได้ระบุไว้ให้ชัดแจ้ง ธุรกิจมีหลากหลายประเภทต้องอาศัยดูคำวินิจฉัยของกรมสรรพากร คำพิพากษาฎีกา ตัวอย่างของการรับจ้างทำของ เช่น รับจ้างพิมพ์เอกสาร รับเหมาก่อสร้าง รับตัดแต่งผม รับตัดเสื้อผ้า ซ่อมรถยนต์ ซ่อมเครื่องจักร รับกำจัดปลวก บริการรักษาความปลอดภัย เป็นต้น

ประเด็นที่ผู้จ่ายเงินได้ มักปฏิบัติผิดพลาดเกี่ยวกับการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย เช่น กรณีการจ้างซ่อมรถยนต์ หากผู้รับจ้างเรียกเก็บเงินค่าจ้าง โดยระบุเป็นค่าจ้างซ่อมรถยนต์ทั้งหมดก็คงไม่มีปัญหาสำหรับผู้จ่ายเงินได้ แต่ถ้าผู้รับจ้างแยกรายการเป็นค่าอะไหล่และค่าแรง ผู้จ่ายเงินได้จะหักภาษีอย่างไร จึงจะถูกต้อง ซึ่งกรณีนี้ถือว่าเป็นการจ้างทำของมุ่งผลสำเร็จของงานคือ การซ่อมรถยนต์ ผู้จ่ายเงินได้ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย จากค่าอะไหล่และค่าแรงทั้งหมด ไม่ว่าผู้รับจ้างจะแยกบิลเรียกเก็บแต่ละรายการ หรือบิลเรียกเก็บใบเดียวกัน แต่แยกรายการค่าแรงและค่าอะไหล่ก็ตาม

อีกประเด็นหนึ่งที่มักผิดพลาดก็คือ การผลิตกับการรับจ้างทำของ หากผู้รับเงินได้ ได้ผลิตสินค้าโดยอาชีพอยู่แล้ว เช่น ผลิตเสื้อยืดขาย และมีผู้ว่าจ้างให้ผลิตเสื้อยืดให้ เมื่อผู้ว่าจ้างจ่ายเงินค่าจ้างไม่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายแต่อย่างใด ไม่ว่าเสื้อยืดที่ผลิตจะมีโลโก้เป็นของผู้ว่าจ้างหรือไม่ก็ตาม แต่ถ้าหากผู้ว่าจ้างนำวัตถุดิบไปให้ผู้รับจ้างผลิตเสื้อยืดให้ เมื่อจ่ายค่าจ้างต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย

ผู้จ่ายเงินได้ที่หักภาษี ณ ที่จ่าย ต้องออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายในแต่ละครั้งที่จ่ายเงินด้วย สำหรับผู้รับจ้างที่ถูกหักภาษีสามารถนำภาษีที่ถูกหักไว้ไปเครดิตออกจากภาษีเงินได้ที่ต้องชำระ เมื่อยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ครึ่งปีหรือประจำปี

ข้อสังเกต การหักภาษี ณ ที่จ่ายในกรณีรับจ้างทำของกฎหมายกำหนดให้ผู้จ่ายเงินที่เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลมีหน้าที่หักภาษี หากผู้จ่ายเงินค่าจ้างทำของเป็นบุคคลธรรมดาไม่ต้องหักภาษีแต่อย่างใด แต่ผู้รับจ้างที่ถูกหักภาษีอาจเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลก็ได้

การหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายประมวลรัษฎากรกำหนดไว้หลากหลายอัตรา และหลากหลายประเภทเงินได้ ทำให้ปฏิบัติผิดพลาดกันมากสามารถศึกษาค้นคว้าได้ในบทบัญญัติมาตรา 3 เตรส (คำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป. 4/2528) มาตรา 50 มาตรา 69 ทวิ มาตรา 69 ตรี มาตรา 70 และมาตรา 70 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร โดยเข้าไปที่เว็บไซต์ www.rd.go.th ของกรมสรรพากร

ข่าวล่าสุด

ไทยพาณิชย์ชู 3 แกนพัฒนาคน รับรางวัล HR Leader for Social Impact 2025