สิงคโปร์ Gold Hub of Asia
ในสัปดาห์ที่ผ่านมาช่วงระหว่างวันที่ 25 มิ.ย. 2557 ผมเองในนามบริษัท MTS Gold (แม่ทองสุก) ได้รับเชิญไปที่ประเทศสิงคโปร์เพื่อประชุมเกี่ยวกับการที่สิงคโปร์ได้จัดประกาศตัวเองเป็นศูนย์กลางการค้าทองคำของเอเชีย ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นการประกาศสู่ความสำเร็จในการจัดตั้งระบบและการบริหารการจัดการที่ประสบความสำเร็จของประเทศสิงคโปร์ โดยมีหน่วยงานรัฐบาลกลางเป็นตัวช่วยในการขับเคลื่อนที่ชื่อว่า หน่วยงาน IE ภายในงานการประชุมประกอบด้วยผู้ค้าทองคำจากทั่วทุกมุมโลกมาร่วมประชุมกว่า 350 คน จากกว่า 100 องค์กร ที่มาจากประเทศต่างๆ เช่น สวิตเซอร์แลนด์ อังกฤษ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย อินโดนีเซียและไทย เป็นต้น การประชุมในครั้งนี้มีประโยชน์อย่างมากและชี้ให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในระดับโลกดังต่อไปนี้
ในสัปดาห์ที่ผ่านมาช่วงระหว่างวันที่ 25 มิ.ย. 2557 ผมเองในนามบริษัท MTS Gold (แม่ทองสุก) ได้รับเชิญไปที่ประเทศสิงคโปร์เพื่อประชุมเกี่ยวกับการที่สิงคโปร์ได้จัดประกาศตัวเองเป็นศูนย์กลางการค้าทองคำของเอเชีย ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นการประกาศสู่ความสำเร็จในการจัดตั้งระบบและการบริหารการจัดการที่ประสบความสำเร็จของประเทศสิงคโปร์ โดยมีหน่วยงานรัฐบาลกลางเป็นตัวช่วยในการขับเคลื่อนที่ชื่อว่า หน่วยงาน IE ภายในงานการประชุมประกอบด้วยผู้ค้าทองคำจากทั่วทุกมุมโลกมาร่วมประชุมกว่า 350 คน จากกว่า 100 องค์กร ที่มาจากประเทศต่างๆ เช่น สวิตเซอร์แลนด์ อังกฤษ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย อินโดนีเซียและไทย เป็นต้น การประชุมในครั้งนี้มีประโยชน์อย่างมากและชี้ให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในระดับโลกดังต่อไปนี้
1.จีนเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงไปสู่ Global Markets Consumption ของทองคำมาเป็นอันดับที่ 1 ของโลกแล้วขณะนี้เรียกได้ว่าเอาชนะอินเดีย ในขณะที่จีนมีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงที่สุดในโลกอันดับที่ 2 รองลงมา ได้แก่ อินเดีย
2.การเคลื่อนย้ายของทองคำจากโลกซีกตะวันตกมาสู่โลกซีกตะวันออก ซึ่งจะเห็นได้ชัดว่าโลกซีกตะวันออกเป็นผู้บริโภคสูงที่สุด ณ ขณะนี้
3.การบริโภคทองคำของเอเชียนำโดยไทยเป็นผู้บริโภคทองคำสูงที่สุดถึง 61% รองลงมาอันดับที่ 2 ได้แก่ มาเลเซีย 29% และอันดับที่ 3 อินโดนีเซีย 18% ในขณะที่การบริโภคทองของสิงคโปร์มีเพียง 6% และเวียดนามมีเพียง 5% สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ แม้ว่าประเทศสิงคโปร์จะมีการบริโภคทองคำอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าไทย แต่ก็สามารถจัดตั้งระบบการเป็นศูนย์กลางทองคำของเอเชียได้อย่างสำเร็จ โดยที่ได้มีการอธิบายถึงความเหมาะสมและการสร้าง Infrastructure ต่างๆ ในสภาวะดังกล่าวข้างต้นอย่างสมบูรณ์แบบอันได้แก่
3.1) การสร้างห้องมั่นคงที่ Free Zone ขนาดใหญ่ ที่สนามบินของสิงคโปร์ ซึ่งรองรับทองคำได้ถึง 3,000 ตัน
3.2) การจัดตั้งโรงงาน Refinery ทองคำที่ใหญ่ระดับโลก กล่าวคือ มีการเปิดตัว Metalor ที่สิงคโปร์
3.3) ความเหมาะสมของประเทศในเชิงการเมืองและเศรษฐกิจในเชิงการเมืองของสิงคโปร์ ถือได้ว่าดีที่สุดของเอเชียและอยู่ในอันดับต้นๆ ของโลกด้วยซ้ำไป
3.4) การมีกฎหมายและกฎระเบียบที่รองรับและได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐบาลอย่างชัดเจน
3.5) การจัดตั้งระบบการซื้อขายทองคำในตลาด Exchange ของสิงคโปร์ สำหรับคนเอเชียที่จะมีการซื้อขายเป็น Gold Futures และสามารถส่งมอบได้สำหรับ Wholesale เรียกว่าเป็น Kilobar Contract
ในระบบทั้งหมดทั้งหลายได้มีการวางแผนและจัดตั้งอย่างเป็นระบบและระเบียบที่ได้ และได้รับการยอมรับจากสถาบัน LBMA และ CME Group รวมทั้ง World Gold Council อย่างถูกต้องชัดเจน ทำให้การพัฒนาไปสู่การเป็น Gold Hub ของสิงคโปร์ สามารถประสบความสำเร็จได้อย่างแท้จริง ภายใต้หน่วยงานที่เรียกว่า Singapore Gold Exchange (SGE) โดยที่มีธนาคารใหญ่ในระดับโลก 4 แห่ง เป็นผู้ร่วมสนับสนุนในการจัดตั้งและปรากฏว่าบริษัทขนาดใหญ่ในประเทศไทยที่เป็นบริษัทค้าทองคำก็ได้รับคำเชิญให้ไปเปิดสาขาที่สิงคโปร์ และเริ่มมีการเคลื่อนย้ายไปแล้วในหลายๆ บริษัท
วิเคราะห์ราคาทองคำ
ปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญ ณ ขณะนี้คือตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาที่อยู่ในเกณฑ์ทรงตัว โดยมีดีและไม่ดีและสลับกันในช่วง 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา ขณะที่ปัจจัยทาง Geopolitics มีความโดดเด่นมากขึ้น นั่นคือการที่เกิดความไม่สงบในประเทศอิรักและยังดูจะลุกลามอยู่เป็นช่วงๆ ทำให้มีแรงซื้อทองคำเข้ามาโดยตลอดในฐาน Save Heaven และผลักดันทำให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นและสามารถยืนอยู่เหนือระดับ 1,310 เหรียญได้ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำในระยะสั้นเป็นแนวโน้มขาขึ้น หลังจากที่ราคาสามารถยืนอยู่เหนือ 1,310 เหรียญได้ตลอดสัปดาห์ ในขณะที่แรงขับเคลื่อนที่สำคัญของทองคำยังต้องรอเรื่อง Demand ซื้อ รวมทั้งปัจจัยทางเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐอเมริกา นั่นคือการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (NonFarm Payrolls) ที่จะประกาศในช่วงกลางสัปดาห์หน้า โดยคาดว่าจะแย่ลงประมาณ 6,000 ตำแหน่ง ขณะที่ Unemployment Rate คาดว่าจะยังออกมาทรงตัวที่ระดับ 6.3% โดยที่กลยุทธ์การลงทุนยังคงย้ำเน้นให้เป็นการบริหารพอร์ตให้เหมาะสมกับสภาพตลาดที่พร้อมจะขึ้นต่อได้หรืออาจจะเปลี่ยนแปลงเป็นทิศทางขาลงก็เป็นได้ ทั้งนี้สภาพ ตลาดจะมีความแกว่งตัวของราคาค่อนข้างมากและราคาก็มีโอกาสที่จะขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,330 เหรียญ ซึ่งถ้าหากทะลุขึ้นไปได้ทองคำอาจจะปรับตัวเป็นขาขึ้นในระยะกลางได้ด้วยซ้ำไป
MTS Gold Futures ผู้นำในตลาดการลงทุนของทองคำและเป็นบริษัทผู้ค้าทองคำรายใหญ่ของประเทศ ทั้งในด้านทองคำแท่งและทองรูปพรรณ ได้มีการจัดการสัมมนาอบรมต่อเนื่อง เพื่อให้นักลงทุนเข้าใจและสามารถลงทุนได้ในตลาดทองคำอย่างครบวงจร ผ่านทางระบบโทรศัพท์และระบบออนไลน์ โดยจะมีการจัดสัมมนา “คลินิกการลงทุน” หัวข้อ เทคนิคบริหารพอร์ตเมื่อลงทุนทองในวันจันทร์ที่ 30 มิ.ย. ณ MTS Gold สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 28 สนใจสำรองที่นั่งได้ที่หมายเลข02-770-7777


