posttoday

ด้วยความอาลัย ‘นงไฉน ปริญญาธวัช’

09 มิถุนายน 2557

โดย...โจ เกียรติอาจิณ / ภาพ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม &

โดย...โจ เกียรติอาจิณ / ภาพ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม &<2288;

วงวรรณกรรมไทยจำต้องร่ำไห้อีกครั้ง เมื่อบ่ายวันที่ 31 พ.ค. “นงไฉน ปริญญาธวัช” หรือคุณยายนงไฉน ได้สิ้นลมลงด้วยโรคชราอย่างสงบ ณ ต.ทรายขาว อ.สอยดาว จ.จันทบุรี และมีการจัดพิธีพระราชทานเพลิงศพไปเมื่อบ่ายวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา

แม้จะเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่และตัวเธอจะจากไปแล้ว ทว่าผลงานที่นักเขียนวัย 93 ปี (เกิด 9 พ.ค. 2464) ฝากไว้ให้ดูต่างหน้า ล้วนแต่มีคุณค่าต่อวงวรรณกรรมไทย ยิ่งเฉพาะนวนิยายดังที่ถูกนำมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์และละครโทรทัศน์หลายต่อหลายครา ก็ยังครองความนิยมมิรู้คลาย

“ผู้ใหญ่ลีกับนางมา” “ธรณีนี่นี้ใครครอง” รวมทั้งนวนิยายชุด “ผู้กองยอดรัก” “ยอดรักผู้กอง” “ผู้กองอยู่ไหน” คงประจักษ์ชัดว่า คุณยายนงไฉน คือนักเขียนแถวหน้าที่เปี่ยมไปด้วยจินตนาการและลีลาภาษาเฉพาะตัว ขาดไม่ได้คือสารัตถะอันแฝงไว้ในทุกๆ ชิ้นงาน

“เจน สงสมพันธุ์” นายกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย บอกเล่าถึงงานเขียนของคุณยายนงไฉน ว่าเป็นงานสะท้อนยุคสมัย วิถีชีวิต สังคม ที่คนอ่านอ่านแล้วจะมีความสุข ขณะเดียวกันยังแทรกความจริงใจและอารมณ์ขันให้ได้อมยิ้มตลอด

“เสน่ห์งานเขียนของท่านจะอยู่ที่ความจริงใจและความตลก ตัวละครถอดแบบมาจากบุคคลที่คนสัมผัสได้จริง เป็นการเอาเรื่องคนเล็กๆ มานำเสนอ ฉากจะเกี่ยวพันกับชนบทหรือบ้านเกิด ถ่ายทอดความเป็นบ้านนอก แม้จะเป็นเรื่องความรัก แต่ก็เป็นรักแบบมีสาระ เป็นงานสุขนิยมที่ทำให้คนอ่านมีความหวังและความสุข ขณะเดียวกันก็ยังเป็นงานวิพากษ์สังคม แม้ไม่ได้บอกตรงๆ อย่างเรื่องชาวนา หรือทหารเกณฑ์ ก็ถือว่าเป็นการวิพากษ์เรื่องชนชั้น แต่ท่านวิพากษ์ด้วยสายตาสนุกมากกว่าจะเป็นการวิพากษ์แรงๆ

สิ่งที่อยู่ในงานเขียนจึงเป็นเสมือนภาพสะท้อนสังคมในเวลานั้นที่ผู้เขียนถ่ายทอดออกมา เห็นชัดอย่างหนึ่งก็คือ ท่านให้ความสำคัญกับการศึกษา ตัวละครของท่าน แม้จะเป็นคนบ้านนอก แต่ก็จะมีการศึกษา เรียนจบสูง ผมมองว่าเรื่องนี้เป็นภาพสะท้อนที่มาจากเรื่องจริงของตัวผู้เขียนเองที่เป็นคนใฝ่ศึกษา ซึ่งสมัยนั้นการที่ผู้หญิงจะได้เรียนหนังสือเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร แต่ท่านก็สามารถได้รับการศึกษาที่ดี”

อีกหนึ่งรายที่ได้ให้ทัศนะต่อผลงานเขียนของคุณยายนงไฉน “จรูญพร ปรปักษ์ประลัย” คอลัมนิสต์และนักวิจารณ์หนังสือ ตอกย้ำว่างานเขียนที่คุณยายนงไฉนทิ้งไว้ให้ชนรุ่นหลังได้อ่านกัน นั่นคือความรื่นรมย์ที่มีทั้งอรรถรสด้านภาษา การสร้างตัวละคร ที่ให้คุณค่าความเป็นมนุษย์

“ท่านเป็นนักเขียนที่เล่าเรื่องได้สวยงามและรื่นรมย์มากๆ นะครับ สร้างตัวละครมาจากคนที่ถูกหลงลืมในสังคม คนตัวเล็กๆ ระดับล่างที่ต้องอาศัยการพิสูจน์ตัวเองด้วยคุณงามความดีจากข้างใน ไม่ใช่แค่เปลือกนอก เป็นความน่าสนใจที่ท่านนำมาใส่ในงานเขียน เป็นการพูดถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เป็นการตั้งประเด็นคำถามที่ว่า ทุกๆ อาชีพ ไม่ว่าจะอาชีพไหน คนใช้ ทหารเกณฑ์ ชาวนา ทุกคนล้วนมีศักดิ์ศรีเท่ากัน และควรมีที่ยืนบนสังคม เป็นอะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับว่าเรากำลังทำอะไรต่างหาก

ผมว่างานเขียนของท่านเป็นงานเขียนที่มีด้านบวกมากกว่าลบ กระทั่งตัวร้ายในนิยายก็จะไม่ใช่คนที่ร้ายสุดๆ เป็นงานเขียนที่อ่านแล้วมีความสุข ถ้านำไปต่อยอดเป็นละคร หรือภาพยนตร์ ก็จะเป็นงานที่ดูจบแล้วนอนหลับฝันดี ไม่มีอะไรค้างคาใจ เป็นการพักผ่อนที่ดี โดยมีความน่ารักและสาร ทำให้ตัวละครของท่านเป็นขวัญใจประชาชน ชาวบ้านก็รู้สึกได้กับสิ่งที่ตัวละครเป็น ชาวเมืองกรุงดูแล้วก็มีความสุขตามไปด้วย แล้วท่านยังเป็นนักเขียนที่มองไปข้างหน้าและค่อนข้างทันสมัย มองโลกมุมกลับ ในยุคที่คนเรียนจบสูง ใครๆ ก็อยากทำงานสบาย แต่ตัวละครของท่านกลับเลือกที่ทำงานตามความรักและความชอบ โดยไม่ยอมตามกระแสที่สังคมกำหนด ฟังดูมันอาจเป็นอุดมคติ แต่มันคือเรื่องสำคัญต่อสังคมไทยนะครับ ที่จะต้องสร้างคนดีและปลูกฝังการทำดีให้มากๆ”

สำหรับคุณยายนงไฉนนั้น คลุกคลีอยู่ในวงวรรณกรรมไทยมากว่า 50 ปี มีผลงานมากมายหลายประเภท เยอะสุดน่าจะเป็นนวนิยาย (ประมาณ 60 เรื่อง) ที่เหลือคือวรรณกรรมเยาวชน เรื่องสั้น สารคดี บทกวี

ดังเปรี้ยงปร้างต้องยกให้ “ผู้ใหญ่ลีกับนางมา” (หนังสืออ่านนอกเวลาสำหรับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย) “ธรณีนี่นี้ใครครอง” (รางวัลงานวันสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ปี 2518) และนวนิยายชุด “ผู้กองยอดรัก” “ยอดรักผู้กอง” “ผู้กองอยู่ไหน” โดยใช้นามปากกาว่า “กาญจนา นาคนันทน์” ส่วนนามปากกาอื่นก็เช่น “ธวัชวดี” “น.ฉ.น.” “ดนัยศักดิ์”

2 ปีก่อนจะเสียชีวิต คุณยายนงไฉนได้รับเลือกเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ปี 2555 นับเป็นเกียรติยศสูงสุดในชีวิตนักเขียนจาก จ.ชัยภูมิ ผู้นี้

ข่าวล่าสุด

ถ่ายทอดสด เบรนท์ฟอร์ด พบ ลีดส์ ยูไนเต็ด พรีเมียร์ลีก วันนี้ 14 ธ.ค.68