"เทรล เบลเซอร์"อเนกประสงค์200แรงม้า
ใครที่กำลังมองหาความอเนกประสงค์และกว้างขวางภายในห้องโดยสารพร้อมเครื่องยนต์ดุดันไม่ควรพลาด
โดย...พลพัต สาเลยยกานนท์
ปรับโฉมมาได้สักระยะหนึ่งแล้วสำหรับ “เชฟโรเลต เทรล เบลเซอร์” รถยนต์อเนกประสงค์ ที่ได้รับการพัฒนามาจากพื้นฐานของรถกระบะซึ่งศัพท์เทคนิคเรียกรถประเภทนี้ว่า รถกระบะดัดแปลง (พีพีวี) ซึ่งมีขนาดของตัวรถสูงใหญ่เป็นพื้นฐาน
คันที่ “โพสต์ทูเดย์” นำมาลองขับเป็นตัวรองท็อป (LTZ) ซึ่งมีข้อแตกต่างตัวท็อปตรงที่ “ไม่มี” ระบบนำทางผ่านดาวเทียม (จีพีเอส) และกล้องด้านหลังทำงานขณะถอยจอด ส่วนอื่นๆ เหมือนกันหมด
สำหรับการปรับโฉมครั้งนี้ถูกนำหัวใจขุมพลังเทคโนโลยี ใหม่อย่าง เครื่องยนต์ ดูราแม็กซ์ ดีเซล เทอร์โบ ขนาด 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 200 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตรที่ 2,000 รอบต่อนาที ซึ่ง เชฟโรเลต เคลมไว้เลยว่าเจ้ารถอเนกประสงค์คันนี้มีพละกำลังสูงสุดเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ซึ่งปรับอัตราทดเพื่อให้เข้ากับบุคลิกของเครื่องยนต์ใหม่ พร้อมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งสะดวกต่อการใช้งานเพียงหมุนทีเดียวเปลี่ยนได้ทันที
ผลจากการลองขับให้ความรู้สึกถึงอกถึงใจในการขับขี่ และอัตราเร่งที่พุ่งทะยานตอบสนองทันใจทุกครั้งที่กดแป้นคันเร่ง ซึ่งไม่ต้องสงสัยถึงสาเหตุเลย เพราะด้วยแรงม้าแรงบิดระดับนี้ของเครื่องยนต์ 2.8 ลิตร หายห่วงได้เลยเวลาเร่งแซงและในทุกย่านความเร็ว
ห่วงอย่างเดียวก็เวลากระทืบคันเร่งตอนออกตัวหรือช่วงเผลอจะต้องมีหลังจมเบาะพร้อมเสียง “เอี๊ยด” ของยางให้ได้ยิน หากเป็นสภาพถนนที่เปียกก็ต้องระมัดระวังอาการลื่นกันสักนิดเพราะ “ของเขาแรงจริง”
การทำงานของเกียร์ร่วมกับเครื่องยนต์ไหลลื่นต่อเนื่องสัมพันธ์กันดี แต่ด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของเครื่องยนต์ดีเซล ที่เวลาถอนคันเร่งแล้วความเร็วหาย เพราะฉะนั้นก็ต้องเดินคันเร่งเนียนๆ จะได้ไม่เสียอารมณ์ที่ต้องลากรอบเครื่องยนต์ขึ้นมาใหม่
ช่วงล่างคันนี้ติดตั้งคอยล์สปริงสี่ล้อและระบบช่วงล่างแบบมัลติ-ลิงก์ แต่มีความ “โดดเด้ง” เร้าใจ ... ใช่แล้วครับอ่านไม่ผิดด้วยความ โดดเด้ง บนย่านความเร็วสูงที่เวลาเจอร่องถนน ตัวรถมีอาการโคลงตัวให้เห็นอยู่บ้าง และหากเปลี่ยนช่องทางจราจรหรือขณะเข้าโค้ง ต้องผ่อนคันเร่งใจเย็นลงสักนิดจะได้มั่นใจปลอดภัยยิ่งขึ้น ซึ่งหากอยู่ในความเร็วปกติก็อยู่ในระดับที่โอเคสบายใจได้
ส่วนระบบความปลอดภัยก็มีมาให้มากมายอยู่ อาทิ ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบเบรกควบคุมการหมุนของล้อ (TSC) ระบบตรวจจับการเบรกฉุกเฉิน (PBA) ระบบควบคุมตรวจจับองศาการเลี้ยว (ESC) และอื่นๆ อีกเพียบที่เข้ามาเป็นตัวช่วยในเรื่องความปลอดภัย
มาถึงด้านการออกแบบของ “เชฟโรเลต เทรล เบลเซอร์” คันนี้ที่ดูแข็งแกร่ง บึกบึน และโดดเด่นที่กระจังหน้าแบบ 2 ชั้น พร้อมสัญลักษณ์ โบว์ไท สีเหลืองทองอยู่ตรงกลาง รับกับไฟหน้าและฝากระโปรงที่ดูทรงพลัง ด้วยเส้นสายรายละเอียดลากยาวจากด้านหน้าไล่เรียงไปจรดด้านหลัง พร้อมแร็กหลังคา และบันไดข้าง เสริมความเข้มดุดันได้เป็นอย่างดี
สำหรับการออกแบบภายใน มีความเรียบง่ายเน้นความสะดวกด้านการใช้สอย สีสันภายในแบบทูโทน |ครีม-ดำ ตำแหน่งการจัดวางอุปกรณ์อำนวยความสะดวก มีเพียงแค่ 2 จุดเท่านั้นคือ จุดรวมระบบปรับอากาศดิจิทัลออกแบบเป็นวงกลมดูสวยงาม และจุดรวมความบันเทิงด้วยระบบหน้าจอทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว ไม่ต้องมีปุ่มใดๆ ให้มากความเพราะทุกอย่างอยู่ในจอนี้
ส่วนเรื่องความกว้างขวางของห้องโดยสารใหญ่โตอลังการ “บรรทุกจริงนั่งจริง” ได้ทุกแถวที่นั่งทั้ง 3 แถว 7 ที่นั่ง ซึ่งยังเป็นการจัดวางตำแหน่งที่นั่งแบบโรงภาพยนตร์ เพื่อให้ผู้โดยสารที่นั่งบนเบาะแถว 2 และแถว 3 มีวิสัยทัศน์ที่มองเห็นกว้างขวาง อีกทั้งช่องเก็บของที่มีเพียบถึง 32 ช่องทั่วทั้งห้องโดยสาร นอกจากนั้นผู้โดยสารด้านหลังเย็นสบายหายห่วงไม่ต้องกลัวร้อน เพราะมีระบบปรับอากาศแบบแยกส่วนสำหรับผู้โดยสารด้านหลังโดยเฉพาะ
ยังไม่หมดด้วยความอเนกประสงค์ของการปรับพับเบาะที่นั่งแบบ 60 : 40 สามารถปรับเพื่อตอบสนองทุกความต้องการได้หลากหลาย แต่มันมีจุดขัดหูขัดตาอยู่นิดๆ ที่เบาะที่นั่งแถวที่ 3 ซึ่งมีไม้กระดานล้นเกยเบาะขึ้นมาเสมือนว่าออกแบบไม่เสร็จ แต่พอปรับพับลงเพื่อเพิ่มพื้นที่วางสัมภาระด้านหลังจึงถึงบางอ้อว่า จุดประสงค์อยากให้เวลาพับลงแล้วนั้นจะได้มีพื้นที่ราบเรียบ ... แต่ก็นะดีไซน์ให้เนียนอีกนิดท่าจะดี
มาถึงอีกจุดเด่นหนึ่งที่ถูกใส่เพิ่มเข้ามาในการปรับโฉมครั้งนี้คือ ระบบอินโฟเทนเมนต์ ที่เชฟโรเลตตั้งชื่อว่า “มายลิงก์” ที่สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน ดูหนัง ฟังเพลง ชมภาพถ่าย และระบบสตรีมมิ่ง พร้อมการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านสมาร์ทโฟน เพื่อให้สามารถรับฟังสถานีวิทยุทั่วโลกได้กว่า 7 หมื่นสถานี ซึ่งหน้าจอแสดงผลและฟังก์ชั่นการใช้งานเข้าถึงได้ง่ายเข้าใจไม่ยาก
โดยรวมแล้วใครที่กำลังมองหาความอเนกประสงค์และกว้างขวางภายในห้องโดยสารพร้อมเครื่องยนต์ดุดันตอบสนองได้ลงตัวจากรถประเภทนี้แนะนำให้ลองใส่ชื่อ “เชฟโรเลต เทรล เบลเซอร์” ไว้เป็นหนึ่งในการตัดสินใจไม่ผิดหวัง
สุดท้ายสินสอดค่าตัวอยู่ที่ 1.389 ล้านบาท


