posttoday

“วินเนอร์ส” ไก่ทอดมาเลย์ท้าชนแบรนด์นอก

16 เมษายน 2557

หากเอ่ยถึง “ธุรกิจไก่ทอด” ไม่ว่าใครก็คงนึกถึงแบรนด์ “เคเอฟซี”

โดย...ลภัสรดา ภูศรี

หากเอ่ยถึง “ธุรกิจไก่ทอด” ไม่ว่าใครก็คงนึกถึงแบรนด์ “เคเอฟซี” เชนฟาสต์ฟู้ดไก่ทอดชื่อดังของสหรัฐที่มีมากกว่า 1.8 หมื่นสาขาในกว่า 118 ประเทศทั่วโลก ซึ่งหมายรวมถึงในมาเลเซีย

จึงไม่อาจปฏิเสธได้ว่า การเข้ามาช่วงชิงส่วนแบ่งทางการตลาดธุรกิจไก่ทอดในแดนเสือเหลืองที่มีมูลค่าสูงถึง 3,041 ล้านริงกิต (ราว 3.01 หมื่นล้านบาท) จากแบรนด์นอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการขนาดเล็กแล้ว เป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมากทีเดียว

แต่นั่นไม่ได้ทำให้ โลห์ อาห์ เฮง แม่บ้านชาวมาเลย์วัย 30 ปี หวาดกลัว แต่กลับมั่นใจว่าจะสามารถท้าชนไก่ทอดแบรนด์ดังได้ด้วย เอกลักษณ์เฉพาะตัวที่มีอย่างแน่นอน จึงเป็นที่มาของการก่อตั้ง “เดอะวินเนอร์ส” ธุรกิจขายไก่ทอดสไตล์ดั้งเดิมชาวมาเลย์แท้ๆ เมื่อราวปี 1980 หรือกว่า 3 ทศวรรษที่แล้ว

“เมื่อราว 30 ปีที่แล้ว เมนูไก่ทอดปรุงรสกรุบกรอบหาทานได้ที่ร้านแฟรนไชส์เมืองนอกอย่างเคเอฟซีและเอแอนด์ดับเบิลยูเท่านั้น แม่ของผมซึ่งมองเห็นโอกาสทางการตลาดว่าน่าจะขยายตัวได้อย่างดี เพราะไก่ทอดเป็นเมนูโปรดของชาวมาเลเซียทุกเพศทุกวัย จึงได้ไอเดียนำเมนูไก่ทอดสูตรเด็ดของบ้านมาตีตลาดเสียเลย” มาร์คัส เลียว ลูกชายของ โลห์ ซึ่งเข้ามารับช่วงบริหารธุรกิจจากผู้เป็นแม่ เล่าย้อนอดีต

และผลตอบรับจากชาวบ้านในย่านชุมชนในเมืองอิโปห์ก็ล้นหลาม เพราะไก่ทอดสูตรเด็ดของ โลห์ นั้น มีความแตกต่างกับไก่ทอดของแบรนด์ฝรั่ง โดยเฉพาะรสชาติที่เข้มข้นจากแป้งปรุงรสสูตรลับที่คลุกเคล้าเครื่องเทศและสมุนไพรคัดพิเศษหลายชนิด เรียกได้ว่าพอกัดลงไปหนึ่งคำ ก็จะรับรู้ถึงความกรุบกรอบของเนื้อแป้งที่ผสมผสานกับเนื้อไก่อย่างลงตัว บวกกับความหอมของเครื่องเทศเตะจมูก ถูกปากชาวมาเลย์เป็นที่สุด

นอกเหนือจากรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้อาณาจักรเดอะวินเนอร์สเติบโตได้อย่างรวดเร็ว คงหนีไม่พ้นการตัดสินใจเปิดขายแฟรนไชส์ เพราะ โลห์ มองว่าไม่เพียงแต่ช่วยกระตุ้นธุรกิจให้ขยายตัวอย่างยั่งยืนแล้ว ยังส่งเสริมให้ชาวมาเลเซียคนอื่นๆ สามารถหาเลี้ยงตัวเองได้อีกด้วย

ดังกรณีของ อาซีซี ฮาสรัล นิแซม อับดุล ราฮิม หนุ่มมาเลย์ที่ต้องการทำงานหาเงินหวังเก็บเป็นค่าสินสอด ตัดสินใจนำเงินเก็บที่มีขอซื้อแฟรนไชส์จากเดอะวินเนอร์ส เปิดแผงขายไก่ทอดในช่วงเย็นหลังเลิกงาน ในขณะนี้มียอดขายถึง 5,000 ริงกิต (ราว 4.9 หมื่นบาท) ต่อเดือน และในเวลาไม่ถึงปี อาซีซี ก็สามารถเก็บเงินไปแต่งงานกับผู้หญิงที่รักได้สำเร็จ

เพราะเพียงแค่มีเงินทุนตั้งต้น 4,000 ริงกิต (ราว 3.9 หมื่นบาท) อยู่ในมือ ผู้ขอรับแฟรนไชส์จะได้รับอุปกรณ์และวัตถุดิบต่างๆ ทั้งไก่ แป้งปรุงรส หม้อทอด ตู้โชว์ ยันป้ายร้าน เรียกได้ว่าสามารถเปิดขายได้ทันที โดยภายในปี 1987 เดอะวินเนอร์สก็มีแฟรนไชส์ถึง 31 รายทีเดียว และในปัจจุบันมีแฟรนไชส์แผงไก่ทอดเดอะวินเนอร์สมากกว่า 400 แห่งทั่วประเทศ โดยเฉพาะในกรุงกัวลาลัมเปอร์ก็มีมากกว่า 100 แห่งแล้ว

อัตราการเติบโตของตลาดในประเทศของไก่ทอดเดอะวินเนอร์สขณะนี้ ถือว่ายังแข็งแกร่ง โดยมีผู้ขอรับแฟรนไชส์เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 3 รายต่อสัปดาห์ และเพื่อเป็นการบริหารจัดการให้ธุรกิจขยายตัวได้อย่างยั่งยืน การขอรับแฟรนไชส์จะอยู่ภายใต้ข้อแม้สำคัญคือ แผงขายไก่ทอดเดอะวินเนอร์สสองแผงต้องไม่อยู่ใกล้กันในระยะทาง 3 กิโลเมตร เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการแย่งลูกค้าโดยไม่จำเป็นอีกด้วย

ขณะที่ธุรกิจไก่ทอดกำลังไปได้สวย มาร์คัส ซึ่งมารับช่วงบริหารธุรกิจต่อจากแม่ ก็ตัดสินใจขยายธุรกิจไปอีกขั้น ด้วยการเปิดธุรกิจส่งออกแป้งปรุงรสสำหรับใช้คลุกเคล้าทอดไก่ไปยังต่างประเทศ ทั้งจีนบังกลาเทศ สิงคโปร์ คิดเป็นมูลค่าราว 3 หมื่นริงกิต (ราว 2.9 แสนบาท) และเตรียมขยายตลาดส่งออกไปยังไต้หวัน แคนาดา ในอนาคตอันใกล้นี้อีกด้วย

นับเป็นตัวอย่างธุรกิจที่สะท้อนให้เห็นแล้วว่าแม้จะเริ่มต้นจากการเป็นเพียงเอสเอ็มอี ก็สามารถท้าชนช่วงชิงส่วนแบ่งทางการตลาดจากแบรนด์ยักษ์ใหญ่จากต่างประเทศได้ หากสามารถดึงจุดขายที่แตกต่างและมีความมุ่งมั่นเพียงพอ

ข่าวล่าสุด

DSI ชงอัยการสูงสุดฟัน JKN ปมตกแต่งบัญชีเชื่อมโยงต่างแดน