โอกาสทองธุรกิจซ่อมเครื่องบิน
โอกาศทองธุรกิจซ่อมบำรุงเครื่องบินปัจจุบันมีการแข่งขันกันในธุรกิจบริการทางการบินอย่างรุนแรง โดยเฉพาะในภูมิภาคเออีซีมีสายการบินและเครื่องบินให้บริการเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย ทำให้ธุรกิจสายการบินแทบจะไม่มีกำไร แต่การที่มีเครื่องบินเพิ่มขึ้นจำนวนมาก นับเป็นโอกาสทองของธุรกิจซ่อมบำรุงเครื่องบิน หรือที่เรียกย่อๆ ว่า MRO (Maintenance Repair & Overhaul) ซึ่งมีรายได้ค่อนข้างดี เนื่องจากสายการบินขนาดกลางและขนาดเล็กจะซ่อมบำรุงเฉพาะซ่อมย่อย หรือ Line/Light Maintenance เท่านั้น ไม่คุ้มที่จะพัฒนาศูนย์ซ่อมขนาดใหญ่ของตนเอง
โอกาศทองธุรกิจซ่อมบำรุงเครื่องบินปัจจุบันมีการแข่งขันกันในธุรกิจบริการทางการบินอย่างรุนแรง โดยเฉพาะในภูมิภาคเออีซีมีสายการบินและเครื่องบินให้บริการเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย ทำให้ธุรกิจสายการบินแทบจะไม่มีกำไร แต่การที่มีเครื่องบินเพิ่มขึ้นจำนวนมาก นับเป็นโอกาสทองของธุรกิจซ่อมบำรุงเครื่องบิน หรือที่เรียกย่อๆ ว่า MRO (Maintenance Repair & Overhaul) ซึ่งมีรายได้ค่อนข้างดี เนื่องจากสายการบินขนาดกลางและขนาดเล็กจะซ่อมบำรุงเฉพาะซ่อมย่อย หรือ Line/Light Maintenance เท่านั้น ไม่คุ้มที่จะพัฒนาศูนย์ซ่อมขนาดใหญ่ของตนเอง
สำหรับธุรกิจซ่อมบำรุงเครื่องบินในเออีซีเป็นการแข่งขันของผู้ประกอบการรายใหญ่ไม่กี่ราย มีทั้งผู้ประกอบการอิสระและที่เป็นบริษัทลูกของธุรกิจสายการบินและธุรกิจผลิตเครื่องบิน สำหรับผู้ประกอบการรายใหญ่ที่สุด คือ บริษัทสิงคโปร์เทคโนโลยีแอโรสเปซ ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของสิงคโปร์ นับเป็นบริษัททำธุรกิจ MRO แบบอิสระรายใหญ่ที่สุดในโลก มีรายได้มากถึงปีละ 7 หมื่นล้านบาท กำไรมากถึงปีละ 7,500 ล้านบาท มีศูนย์ซ่อมทั้งเป็นเจ้าของเองและร่วมลงทุนในประเทศต่างๆ จำนวนมาก เช่น สหรัฐ (เมืองโมไบล์ นครซานอันโตนิโอ) ปานามา จีน (เซียะเหมิน เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว) สเปน (กรุงมาดริด) เยอรมนี ฯลฯ มีช่างเทคนิคมากถึง 1.05 หมื่นคน โดยจำนวนนี้ทำงานในต่างประเทศมากกว่าครึ่งหนึ่งของทั้งหมด
ผู้ประกอบการรายใหญ่รองลงมาคือ บริษัท SIA Engineering Company (SIAEC) ของสิงคโปร์เช่นเดียวกัน ให้บริการไม่เฉพาะสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลนส์และซิลค์แอร์ของตนเองเท่านั้น แต่รวมถึงสายการบินอื่นด้วย เช่น สายการบินเซบูแปซิฟิกของฟิลิปปินส์ ฯลฯ รายได้มากถึง 65% มาจากสายการบินอื่น ทั้งนี้ ได้ให้บริการในหลายประเทศ และมีศูนย์ซ่อมใหญ่ 2 แห่ง ในสิงคโปร์และท่าอากาศยานคลากในฟิลิปปินส์
สำหรับในปีการเงิน 2555/2556 (เม.ย. 2555-มี.ค. 2556) สิงคโปร์แอร์ไลนส์มีกำไรจากการดำเนินการในส่วนซ่อมเครื่องบินค่อนข้างสูง คือ 3,200 ล้านบาท เปรียบเทียบกับกำไรจากให้บริการสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลนส์ 4,700 ล้านบาท และสายการบินซิลค์แอร์อีก 2,500 ล้านบาท
ขณะที่คู่แข่งสำคัญรายอื่นๆ เป็นต้นว่า จีเอ็มเอฟแอโรเอเชีย ซึ่งเป็นศูนย์ซ่อมของสายการบินการูดาของอินโดนีเซีย ซึ่งรับจ้างซ่อมเครื่องบินภายนอกด้วย ปัจจุบันรายได้สัดส่วน 35% มาจากให้บริการแก่สายการบินภายนอก
บริษัท Lufthansa Technik Philippines เป็นการร่วมลงทุนระหว่างบริษัท Lufthansa Technik AG ในเครือของสายการบินลุฟต์ฮันซ่าของเยอรมนี ถือหุ้นสัดส่วน 51% และบริษัท MacroAsia ของฟิลิปปินส์ ถือหุ้น 49% ให้บริการที่ท่าอากาศยานนานาชาตินินอยอะคิโนของนครมะนิลา เน้นให้บริการซ่อมเครื่องบินแอร์บัส
บริษัท Sepang Aircraft Engineering (SAE) มีผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ บริษัทผลิตเครื่องบินแอร์บัส ตั้งฐานที่ท่าอากาศยานกรุงกัวลาลัมเปอร์ มีลูกค้ารายใหญ่ เป็นต้นว่า แอร์เอเชีย ซึ่งเกือบทั้งหมดจะมาซ่อมใหญ่ที่ศูนย์ซ่อมแห่งนี้
ปัจจุบัน การบินไทยสนใจจะเข้าร่วมวงศ์ไพบูลย์ด้วย เนื่องจากศูนย์ซ่อมการบินไทยนับว่าใหญ่และทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในทวีปเอเชีย สามารถซ่อมเครื่องบินได้แทบทุกแบบ ทั้งเครื่องบินโบอิ้ง แอร์บัส ตั้งแต่การซ่อมย่อยหรือซ่อมขั้นลานจอด การซ่อมรายปี หรือ CCheck จนถึงการซ่อมใหญ่ระดับ DCheck เป็นซ่อมโครงสร้างของเครื่องบิน ซึ่งจะดำเนินการประมาณ 46 ปี/ครั้ง
จุดเด่นสำคัญของศูนย์ซ่อมของการบินไทยมี 2 ประการ ประการแรก พนักงานมีประสบการณ์สูง ขณะที่พนักงานของศูนย์ซ่อมอื่นๆ เปลี่ยนงานบ่อย แต่พนักงานศูนย์ซ่อมการบินไทยจะทำงานจนเกษียณ ประการที่สอง คนไทยมีบุคลิกลักษณะสนใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ทำให้การซ่อมบำรุงมีมาตรฐานสูง
แม้ในระยะที่ผ่านมา การบินไทยจะให้บริการซ่อมบำรุงแก่สายการบินภายนอก แต่สัดส่วนไม่มากนัก กล่าวคือ รายได้ปีละ 9,000 ล้านบาท มาจากการซ่อมเครื่องบินการบินไทย 8,000 ล้านบาท และสายการบินภายนอกอีกเพียง 1,000 ล้านบาท
เพื่อแสวงหาโอกาสทางธุรกิจรองรับเออีซี เมื่อปลายปี 2556 ฝ่ายช่างการบินไทยได้แถลงข่าวแผนธุรกิจเพื่อรองรับเออีซี โดยวางแผนแยกตัวเป็นบริษัทลูกของการบินไทยและเน้นให้บริการแก่สายการบินอื่นเป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น ตั้งเป้าหมายเพิ่มรายได้ด้านนี้เป็นปีละ 5 หมื่นล้านบาท และเพิ่มสัดส่วนรายได้จากภายนอกเป็น 50% โดยมีแผนขยายบริการไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา ลาว พม่า ฯลฯ เพิ่มเติมในอนาคต


