posttoday

ล้างโต๊ะกรมศุลฯ"ลดการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่"

25 กุมภาพันธ์ 2557

ในธุรกิจผู้ส่งออก นำเข้า ไม่มีใครไม่รู้จัก “ราฆพ ศรีศุภอรรถ” อธิบดีกรมศุลกากร ผู้มีชีวิตราชการเป็นลูกหม้อกรมศุลกากรที่เรียกได้ว่าอยู่ใน “สายปราบ” มาตลอดชีวิตราชการ ก่อนก้าวกระโดดขึ้นมาในตำแหน่งสูงสุดของหน่วยงาน

ในธุรกิจผู้ส่งออก นำเข้า ไม่มีใครไม่รู้จัก “ราฆพ ศรีศุภอรรถ” อธิบดีกรมศุลกากร ผู้มีชีวิตราชการเป็นลูกหม้อกรมศุลกากรที่เรียกได้ว่าอยู่ใน “สายปราบ” มาตลอดชีวิตราชการ ก่อนก้าวกระโดดขึ้นมาในตำแหน่งสูงสุดของหน่วยงาน

ราฆพนั้นไม่ธรรมดา เป็นข้าราชการคนแรกและคนเดียวที่เคยเป็น ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและปราบปรามมาถึง 3 รอบ 3 สมัย

วีถีชีวิตราชการของ ราฆพ โลดโผนเป็นยิ่งนัก แต่เมื่อเข้าทำงานในสายบริหารเป็นอธิบดีกรมศุลกากรเขากลับทำงานเชิงรุกในแทบทุกด้าน ทั้งการปราบปราม การเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ

คำสั่งที่ลงไปในทุกหน่วยงานผ่านด่านศุลกากร หน่วยบริหารสุ่มตรวจตามท่าเรือนั้น คือ รุก รับเร็ว ลดปัญหาเงินใต้ดินลงมา

เมื่อหัวไม่ขยับ ราฆพบอกว่า หางก็ไม่แกว่ง ใครแกว่งเจอหนักแน่

ราฆพ ระบุว่า หากต้องการลดปัญหาการทุจริตในขั้นตอนพิธีการศุลกากร สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ การลดอำนาจดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ ยิ่งถ้าลดการเผชิญหน้าระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้ประกอบการได้มากเท่าไหร่จะยิ่งดี กรมศุลกากรจึงมีนโยบายติดตั้งเครื่องเอกซเรย์ตู้สินค้าทุกด่านเพื่อตรวจปล่อยตู้สินค้าที่เข้าหรือออก จากปัจจุบันที่มีอยู่เพียง 20 เครื่อง

ที่สำคัญในขั้นตอนการตรวจปล่อยตู้คอนเทนเนอร์นั้น กรมศุลกากรประกาศชัดเจนว่า เวลาในการตรวจสอบตู้สินค้านำเข้าหรือส่งออกจะใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง เช่น ถ้าสินค้ามา 100 ตู้ เราจะสุ่มตรวจเพียง 35 ตู้ และตรวจเสร็จไม่เกิน 15 นาทีต่อตู้เท่านั้น

“นโยบายที่ผมจะทำ คือ ต่อไปนี้เราจะมีเครื่องเอกซเรย์ทุกด้าน ทั้งที่ท่าเรือแหลมฉบัง สนามบินสุวรรณภูมิ สินค้าทุกตู้จะตรวจด้วยเครื่องเพียง 510 นาทีก็เสร็จ จะไม่มีการตรวจโดยเจ้าหน้าที่ ยกเว้นว่าเมื่อเครื่องตรวจแล้วพบสิ่งผิดปกติ ก็จะให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจซ้ำ มีลานตรวจเฉพาะ และติดตั้งกล้องซีซีทีวีและบันทึกเทปกันไว้อีกชั้นหนึ่ง” ราฆพ กล่าว

ราฆพ บอกว่า การจ่ายสินบนหรือเงินใต้โต๊ะในการนำเข้าหรือส่งออกต้องมองให้กว้างกว่านั้น เช่น วันนี้เมื่อเรือขนส่งสินค้ามาถึงท่าเรือแล้ว แต่ผู้ประกอบการต้องการให้คนงานยกเครนยกตู้คอนเทนเนอร์ของตัวเองลงก่อน ก็ต้องจ่ายใต้โต๊ะ ไม่เช่นนั้นก็ต้องรอตามคิวและรอนาน

แต่ถ้าจะให้แก้ปัญหาโดยการเพิ่มเครนยกสินค้า บอกได้เลยว่า ยาก เพราะพื้นที่จำกัด และถ้ารัฐบาลจะแก้ปัญหากันจริงจังก็ต้องมีนโยบายให้ชัดเจนออกมา ผมพร้อมดำเนินการให้เต็มที่

อย่างไรก็ตาม ราฆพ ระบุว่า การแก้ทุจริตจะลดต้นทุนแฝงเอกชนได้ทางหนึ่ง แต่ไม่ได้ทำให้ต้นทุนขนส่งสินค้าของไทยลดลงมาก หรือลดระยะเวลาที่ผู้ส่งสินค้าออกเร็วขึ้นทันตา เพราะหัวใจหลักของการเร่งพัฒนาระบบการส่งออกสินค้าแบบเบ็ดเสร็จหรือ National Single Window (NSW)

“เราเหลือเวลาอีก 700 วัน ที่จะไปประสานกับหน่วยงานอีกกว่า 50 แห่งให้มาร่วมเชื่อมโยงข้อมูลในระบบ NSW ให้เสร็จก่อนเปิดอาเซียน และถ้าเอกชนยื่นเอกสารเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็น เอกสารสินค้าส่งออก ใบอนุญาตหน่วยงาน และเอกสารค้ำประกันของธนาคาร การส่งออกสินค้าก็จะง่าย เร็ว และถูกลงด้วย” ราฆพ กล่าว

ราฆพ ตั้งเป้าหมายว่า หากไทยพัฒนาระบบ NSW ได้สมบูรณ์แบบ ต้นทุนทางพิธีศุลกากรและต้นทุนการส่งออกสินค้าไทยจะลดลงจากระดับ 750 บาทต่อตู้ เหลือไม่เกิน 500 บาทต่อตู้ได้ แต่จะลดให้เท่าสิงคโปร์ที่ต้นทุนอยู่ที่ 300 บาทต่อตู้ คงยาก เพราะสิงคโปร์มีความได้เปรียบทางขนาด สิงคโปร์ขนส่งในระดับเป็นล้านตู้ แต่ไทยอยู่ที่แสนตู้เท่านั้น

ราฆพ มองว่า ปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้ต้นทุนนำเข้าและส่งออกสินค้าของไทยสูง คือ ต้นทุนระบบโลจิสติกส์ เพราะหากใช้รถบรรทุกลากตู้คอนเทนเนอร์จากท่าเรือมาศูนย์กระจายสินค้าลาดกระบัง ก็เสียค่าขนส่งแล้ว 7,000 บาทต่อตู้ต่อเที่ยว นี่ยังไม่นับค่าภาษีและค่าเช่าคลัง ไทยจำเป็นต้องปรับปรุงระบบโลจิสติกส์ขนานใหญ่

ดังนั้น กรมศุลกากรจึงวางบทบาทเป็นตัวเชื่อมกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อลดต้นทุนการขนส่ง

“ผมรู้ว่าประชาชน พ่อค้า และรัฐบาลไม่ค่อยพอใจกับต้นทุนการนำเข้าส่งออกนัก แต่ถ้าจะให้ศุลกากรแก้คนเดียวก็ไม่ได้ ต้องทำเป็นทีม เราจึงส่งคนอยู่ในบอร์ดต่างๆ ถ้าค่าใช้จ่ายตรงไหนที่ลดลงได้ก็ขอให้ลดไป เราจะเป็นเต่าล้านปีอย่างนี้ก็คงไม่ได้” ราฆพ กล่าว

นี่เป็นที่มาของแนวทางแก้ปัญหาการทุจริตการรับสินบนของเจ้าหน้าที่ และการเพิ่มประสิทธิภาพการนำเข้าส่งออกของไทยในองค์กรแห่งนี้

ข่าวล่าสุด

LIVE ถ่ายทอดสด นิวคาสเซิ่ล พบ เชลซี พรีเมียร์ลีก วันนี้ 20 ธ.ค.68